บันทึกการเดินทาง 4-10 ธ.ค.51 ภาคเหนือ ตอนที่ 6


ต่อจาก บันทึกการเดินทาง 4-10 ธ.ค.51 ภาคเหนือ ตอนที่ 5

ตอนที่ 6
อ.9 ธ.ค.51 6 โมงเช้า โผล่หัวออกชมชานบ้าน เลยแอบย่องๆเดินชมรอบบ้าน ทามกลางสายหมอกและควันไฟ

จนเดินถึง สะพานประวัติศาสตร์ ไม่มีใครเลย เดินคนเดียว ถามแม่ค้าที่มาเตรียมขายของกันแต่มืด ว่ามีใครมากันยัง มีแต่บอกว่ายังไม่ตื่นกันหรอก
ว้าว ผมคนแรกในโลก ที่ได้เดินบนสะพานประวัติศาสตร์ ปาย ก่อนใครในวันนี้ 555 ดีใจมาก สบายใจมากเลย เดินกลับบ้าน
ทักทายครูแอน พร้อมชิมน้ำเต้าหู้

เกือบ 8โมง ก็ยังมีหมอก ย้ายกันไปวัดพระธาตุแม่เย็น สายหมอกมีมาตลอด เดินไหว้พระ และชมวิว

เจอะเจอ น้องคนนี้ ขอรับบริจาคเงินพิการซ้ำซ้อน ขาลีบแขนลีบ ผู้ที่ยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมีคนเข้ามาคุยด้วย
ผมถามน้องเค้าว่าบ้านอยู่ไหน เค้าลุกขึ้น แต่ด้วยที่ยืนได้เพียงขาเดียว การทรงตัวไม่แน่นอน จึงเซไปเตะขันใส่เงินจนเงินกระจาย ผมงงว่าลุกทำไม
ด้วยความที่เค้าพูดไม่ได้ จึงลุกกระโดดเพื่อยืนชี้ไปยังบ้านใต้เขาที่เค้าพัก ผมละอึ้งไปเลย คำถามของผมได้คำตอบเป็น ความจริงจังจริงใจของน้องที่อยากจะตอบแต่พูดไม่ได้ เลยจะชี้ให้ดู
เงินที่กระเด็นลงบันไดไปไม่ไกล ก็ช่วยกันเก็บเงินให้น้องกันทันที ผมประทับในความจริงใจของน้อง เลยหาเหรียญเพิ่มเงินในขันให้น้องทันที
ร่ำลา กันแบบกลัวว่าน้องจะลุกมาส่งด้วย

จะ9โมงแล้ว หิวอีกแล้ว ลงเข้าเมืองไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า ตลาดยังไม่วายครับ
แวะกินโจ๊ก เจ้าไม่ดังครับ แต่อร่อยสุดยอดครับ ทั้งการพูดคุยกับลูกค้าแบบไม่ถือตัว และรสชาดโจ๊ก กินไม่เหลือให้ถ่ายรูปเลยครับ 555

อิ่มแล้วก็เคลื่อนย้ายไปยัง ต.เมืองแปง
เส้นทางไม่ลำบากแต่น่ากลัว (เปลี่ยวครับ) สองข้างทาง สวยแต่เศร้า เพราะต้นไม้ ยืนตายเยอะ เหลือแต่ตอก็เยอะ ถูกตัด ถูกเผา เอาไม้ เอาที่มาทำมาหากิน ถ้ามีใครมาซื้อก็ขาย และก็รุกที่ใหม่ต่อไป

ถึงเมืองแปง เลี้ยวไปดู บ่อน้ำพุร้อน

ยังไม่ได้พัฒนา ระบบการจัดการด้วยรวมอะไร ถ้าจะจัดการการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวอ่านได้ที่นี่
แต่พอคุยกับครูแอนแล้วไม่อยากให้มีการพัฒนาอะไรเลย ให้มันอยู่แบบนี้ต่อไป เพราะกลัวป่าหมด ที่ดินพัง นายทุนลุกล้ำ คนในท้องที่เป็นลูกจ้าง
อยากให้การจัดการ เพื่อพัฒนาอย่างเป็นระบบแบบอนุรักษ์ มิใช่พัฒนาแบบทำลายล้าง

เดินทางต่อไปยังโรงเรียนเมืองแปง ที่ครูแอนประจำการอยู่ที่นี่ โรงเรียนไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่น้ำใจมากล้น อาคารเรียนเป็นอเมซิ่งโรงเรียนเลยครับ ควรออกสะเก็ดข่าวครับ


การเรียนไม่ต่างจากเมืองมากนัก จะต่างก็สิ่งอำนวยความสะดวก โรงอาหารที่ยังไม่มีโต๊ะเก้าอี้กินข้าว ที่เห็นเป็นครัวของนักเรียนอยู่ประจำ ตอนนี้เด็กๆขาดสนามเด็กเล่น

ใกล้เที่ยง ครูแอนพาเดินชมชุมชน หาอะไรกินกลางวัน ซึ่งได้ขนมจีนน้ำเงี้ยว สุดอร่อยและถูก

อิ่มหน่ำแล้วเดินย่อยไปชมวัดเมืองแปงข้างโรงเรียน

เที่ยงกว่า ได้เวลาร่ำลา ครูแอน และโรงเรียนเมืองแปง เดินทางไปยังเมืองเชียงใหม่ เป้าหมายต่อไปคือ งานราชพฤกษ์ รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง ที่สวนราชพฤกษ์ เมืองเชียงใหม่

เดินกันจนมืด เข้าที่พัก พี่อ้อ ปทุมพร ขําเจริญ มารับไปยังคุ้มขันโตก รับประทานอาหารเย็นสุดหรู ในแบบขันโตกล้านนา ดืมด่ำทั้งอาหารและการแสดงแบบฉบับชาวเหนือ พร้อมแสงสีเสียงตระการตา


จวบจนการแสดงจบ พี่อ้อ ปทุมพรก็นำพามาส่งยังโรงแรมที่พัก  ซึ่งที่พัก ก็มีการตบแต่งอาคารได้อย่างสวยงาม เมื่อเทียบการราคาที่พัก และการบริการ นับว่าไม่แพงเลย

ค่ำคืนนี้เป็นคืนแรก ที่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ ก่อนนอน ไม่ถึง 5ทุ่ม หนังตาก็ปิดโดยพลัน

ติดตามต่อที่ บันทึกการเดินทาง 4-10 ธ.ค.51 ภาคเหนือ  ตอน 7 ตอนจบ

คำสำคัญ (Tags): #ตาหยู
หมายเลขบันทึก: 229907เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2008 12:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ตาหยูเจอคนดอยด้วย
  • ได้กอดเผื่อผมหรือเปล่า
  • ห้ามกอดคนเดียวนะ
  • ภาพสวยงามมากครับ...เอามาลงอีกเยอะๆ

ท่านพี่liverbird ครับ

แบ่งกันกอดได้ครับ

ภาพถ่ายทริปนี้ มีประมาณ 2 พันกว่าภาพได้ครับ เลือกมาลงตาลายเลยครับ

เป็นแฟนพันธ์แท้ของตาหยูจริง ๆ

คิดถึงนะคะท่าน

ง่าง ๆ มาแอ่วบ้างเน้อ

งามแต้ ๆ

ขอบคุณโชคชะตาที่ได้พัดพามิตรภาพดีดีจากพี่ชายสุดหล่อและน้องสาวสุดสวยมาเยี่ยมเยือน...โอกาสหน้าฟ้าใหม่คงได้พบเจอกันอีกน่ะค่ะ ^_^

น้องครูแอน ให้ถึงฟ้าใหม่เลยหรือ แค่ปีใหม่ก่อนดีป่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท