ปฏิบัติตนด้วยนาฬิกาชีวิต Biological Clock ดีแน่ ๆ
สมาชิกG2K เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่น่ารัก ที่นับถือทุกท่านครับ .. (น่ารักเพราะท่านมีอะไรที่น่ารัก สนุก ๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ ที่น่านับถือ เพราะท่านเป็นผู้ที่มีสาระประโยชน์ จากการนำสาระความรู้ดี ๆ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างน่ายกย่องแทบทุกคนครับ ... ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับสมาชิกทุกคนที่มอบสิ่งที่ดีให้กัน (คนที่แนะประโยชน์ให้เป็นหนึ่งในมิตรแท้ ในหัวข้อพุทธธรรม มิตรปฏิรูปครับ) และที่ลืมเสียมิได้เลย คือขอขอบคุณผู้ที่ดูแลระบบ G2K อย่างซาบซึ้ง ที่ได้ทุ่มเทดูแลพัฒนาระบบให้พวกเราสมาชิกได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้อย่างจุใจเช่นนี้ ได้ข่าวว่ามีสมาชิกผู้ดูแลระบบจำนวนขนาดตั้งทีมฟุตบอลได้แล้ว เย้...ดีใจด้วย (อ่านจาก แนะนำทีมงาน : ผู้ดูแลเว็บไซต์ GotoKnow.org :มะปรางเปรี้ยว คนสวยของเรา) ขอแสดงความยินดีอีกครั้งครับ
เพื่อนสมาชิกครับ วันนี้ผมมีสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก (เริ่มเข้าเรื่องตามหัวข้อเสียที เกริ่นซะนานเชียว) พอดีได้อ่านจุลสารเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งที่ตั้งชื่อว่า นาฬิกาชีวิต(Biological Clock) จากการรวบรวมและเผยแพร่โดย อ.นวลฉวี ทรรพนันท์ ที่ได้ข้อมูลจาก อ.สุทธิสวัสดิ์ คำภา และทีมงานนักวิชาการในวงการแพทย์เพื่อสุขภาพ พออ่านจบได้สาระความรู้ที่มีประโยชน์หลายอย่างที่ตอบปัญหาข้อสงสัยตนเองเรื่องสุขภาพด้วย เลยทำให้คิดถึงสมาชิก G2k ครับ เพราะอยากให้ทุกท่านมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดีโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนี้ ที่ร้อน ๆ หนาว ๆ พร้อมกับเหตุการณ์บ้านเมืองไปพร้อม ๆ กัน (เอาอะไรแน่ไม่ได้...) และในช่วงเศรษฐกิจเวลานี้ที่ว่า "ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง" ทุกคนคงหวั่น ๆ กันอยู่ เลยพาลทำให้ไม่สบายใจต่อหน้าที่การงาน ความทุกข์จะทับถมคนไทยมากขึ้น มากขึ้น ทำใจกันนะครับ งั้นมาดูแลสุขภาพกายเพื่อรักษาสุขภาพใจอย่างที่เขาว่า สุขภาพใจที่ดีอยู่ในสุขภาพกายที่ดี ทำนองนั้นครับ
เพื่อนสมาชิกเคยวางแผนดูแลสุขภาพร่างกายกันบ้างไหม คิดว่าหลายท่านเคยวางแผนไว้ว่า วันนั้น วันนี้ อยากจะออกกำลังกาย อยากจะรับประทานอาหารเช้า รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อยากจะทำใจให้สบาย ๆ จะไม่ขี้โกรธ ขี้โมโห หงุดหงิด ไม่เป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ ทำได้ตามแผนได้บ้าง ไม่ได้บ้างตามโอกาส หรือล้มเหลวไม่เป็นท่ากันไปทุกครั้ง เพราะทุกอย่างมันยากที่การปฏิบัติจริงไหมครับ ก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่อีกเรื่อย ๆ แต่คนที่เริ่มต้นใหม่ได้อีกเมื่อล้มเหลวเป็นคนที่น่ายกย่องมาก ๆ ครับ เริ่มอีกทีนะครับกับนาฬิกาชีวิตโดยการจัดเวลาตามแบบนาฬิกาชีวิต(Biological Clock) ที่ผมนำมาบอกกล่าวต่อจากท่านผู้รู้อีกที น่าจะทำให้ท่านสุขภาพกายสุขภาพใจดีขึ้นแน่ ๆ ครับ
เมื่อก่อนผมเองเคยสับสนต่อการดูแลสุขภาพตัวเอง (แบบโง่ๆ ครับ) เช่น คิดว่าการอ่านหนังสือหรือทำงานจนดึก แล้วค่อยนอนตื่นสาย ๆ ก็มีเวลาพักผ่อนเพียงพอเหมือนกับคนนอนแต่หัวค่ำตื่นแต่ดึก ๆ มันคงไม่แตกต่างกัน สับสนว่าการออกกำลังกายตอนเช้ากับตอนบ่ายอย่างไหนจะดีกว่ากัน การไม่ทานข้าวมื้อเช้าไม่เห็นผลกระทบตรงไหนเลย กาแฟแก้วเดียวก็อยู่ได้สบาย ๆ คิดว่าหลายคนคงไม่ใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพ ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปแล้วแต่อารมณ์ (อารมณ์มักง่ายต่อชีวิต) จึงอยากให้ท่านทำความเข้าใจและดูแลเรื่องของสุขภาพของตัวเองจาก นาฬิกาชีวิต(Biological Clock) แบบย่อความมาอีกที ดังนี้ครับ....
การแพทย์ตะวันออกถือว่า กลางวันกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก เพราะภายในเวลา 24 ชั่วโมง ภายในร่างกายของคนเรามีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกายซึ่งประกอบไปด้วยอวัยวะตันและอวัยวะกลวง
อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต
อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ สำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย
การไหลเวียนของพลังชีวิต(ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือหนึ่งวันจึงเรียกว่า นาฬิกาชีวิต ดังนั้นการดำเนินชีวิตและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันต้องให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ จึงเป็นหลักฐานที่ปรากฏของการมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืน ปราศจากโรคของคนที่ปฏิบัติได้ตามกิจกรรมนาฬิกาชีวิตแบบจงใจหรือบังเอิญให้เราพบเห็นกันเสมอ โดยการแบ่งช่วงเวลาการทำงานของอวัยวะสำคัญ 12 อวัยวะที่สัมพันธ์กับเวลาและสิ่งที่ควรปฏิบัติ ดังนี้
เวลา 01.00 -03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ
ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้านอนหลับได้ดีในช่วงนี้ ตับจะหลั่งสารเอนโดรฟิน(Endrophin) และสารมีราโทนิน(Miratonnine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย เวลานี้จึงไม่ควรรับประทานอาหารเพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมไว ตับมีส่วนช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ผิวหนังและช่วยกระเพาะในการย่อยอาหาร การพักผ่อนที่ถูกเวลาจึงมีประโยชน์อย่างมาก
เวลา 03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด
เป็นช่วงเวลาที่ควรตื่นนอนสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ผู้ที่ตื่นนอนในช่วงนี้ปอดจะดี ควรกำหนดลมหายใจยาว ๆ ปอดจะได้แข็งแรง ผิวจะดี และเป็นคนมีอำนาจในตัว
เวลา 05.00 - 07.00 น. เป็นเวลาของลำไส้ใหญ่
เป็นเวลาที่ควรขับถ่ายอุจจาระทำให้เป็นนิสัย ระบบการขับถ่ายจะปกติลดปัญหาระบบขับถ่ายได้หลายอย่าง
เวลา 07.00 -09.00 น. เป็นเวลาของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงานหนักในเวลานี้ ควรรับประทานอาหารเช้าทุกวัน กระเพาะจะย่อยอาหารที่มีจะส่งสารอาหารเข้าสู่ร่างกายต่อไป กระเพาะจะแข็งแรงจากการทำหน้าที่ จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่าผู้ที่ไม่รับประทานอาหารเช้า มีผลทำให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่แข็งแรง ปวดเข่า หน้าแก่กว่าวัย และเป็นโรคอันไซเมอก่อนวัยอันควร
เวลา 09.00-11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม
ม้ามทำหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อย ๆมาจากการผิดปกติของม้าม ม้ามโต ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ม้ามชื้น ทำให้อ้วนง่ายเพราะอาหารและน้ำที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมัน คนที่มักนอนหลับเวลานี้ ม้ามจะอ่อนแอ ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนผิดปกติอย่างอื่นได้ง่าย (รวมกับคนนอนตื่นสายด้วยครับ)
เวลา 11.00-13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
เวลานี้หัวใจทำงานหนัก จึงควรหลีกเลี่ยงความเครียด หลีกเลี่ยงการคิดอะไรที่หนักเกินไป ทำอะไรที่เสี่ยงต่อการตกใจ หวาดกลัว
เวลา 13.00 -15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
เวลานี้ควรงดเว้นการกินอาหารทุกประเภท เปิดโอกาสให้ลำไส้เล็กทำงาน ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี บี โปรตีนเพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมอง สร้างไข่สำหรับผู้หญิง
เวลา 15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้จึงควรทำให้เหงื่อออก ด้วยการออกกำลังกายหรือการอบตัว จะทำให้กระเพาะปัสสาวแข็งแรง ไม่ควรอั้นปัสสาวะ เพราะปัสสาวะที่อั้ไว้จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็น แบบกลิ่นตัวของคุณหรือของคนอื่น ๆ (คลื่นไส้ ...และปวดหมองครับ )
เวลา 17.00-19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต
เป็นช่วงเวลาที่ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงหาวนอนในเวลานี้ ใครมีอาการง่วงนอนในเวลานี้แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม การทำงานของไต ไตซ้ายควบคุมสมองด้านขวาทำหน้าที่ด้านการคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ สร้างอารมณ์สุนทรี ไตขวาควบคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งทำหน้าที่ด้านความทรงจำ ไตขวามีปัญหาทำให้ความจำเสื่อมและเป็นคนขี้หนาว ลำไส้เล็กที่มีไขมันเกาะมากหรือสารที่อยู่ในรูปแบบของสารละลายที่มาจากอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่นขนมถุงที่เด็ก ๆ และผู้ใหญ่บางท่านชอบทาน (ขนมขยะ)จะตกเป็นภาระของไตต้องทำงานหนัก ในการกำจัดจึงอาจกลายเป็นโรคไตได้
เวลา 19.00 - 21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงเวลานี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ ทำให้กล้ามเนื้อเยื่อหุ้มหัวใจแข็งแรง ปัญหาของเยื่อหุ้มหัวใจคือโรคหัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นเลือดหัวใจตีบ
เวลา 21.00 -23.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น
เป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรอาบน้ำเย็น (คนชอบอาบน้ำก่อนเข้านอน หรือขี้เกียจอาบน้ำแต่เนิ่นๆ) เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เป็นหวัดบ่อย ร่างกายอ่อนแอ
เวลา 23.00- 01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี
อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลทำให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟัน ปวดกระดูก นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก มักจะปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ
จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ควรปฏิบัติจากที่ข้อแนะนำของนาฬิกาชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นอะไร เป็นการใช้ชีวิตให้ปกติ เมื่อถึงเวลากิน ก็กินให้ตรงเวลา ถึงเวลานอนนอนให้ตรงเวลา เป็นกิจกรรมที่ควรทำที่ลงตัวอยู่แล้ว เพียงแต่บางคนไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ ละเลยการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง หรือทำอะไรที่ไม่เป็นนิสัย เพราะขี้เกียจและแพ้ใจตัวเอง อยากให้ดุแลตนเองกันมากขึ้น เพราะอวัยวะทุกอย่างมีความสัมพันธ์กับเวลาอย่างที่ได้นำเสนอให้ท่านได้อ่านกันแล้วครับ.....
คิดว่าหลายท่านคงให้ความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันกันบ้างหลังจากนี้ ผมเองก็พยายามปรับบางอย่างอยู่ครับ เช่น การรับประทานอาหารเช้า การนอนให้เป็นเวลา การออกกำลังกายตอนบ่าย และคลายความสงสัยบางอย่างที่กล่าวไว้แล้วเพราะเพิ่งรู้เหมือนกันว่าอวัยวะต่าง ๆ มีการทำงานที่สัมพันธ์กันอย่างมาก
เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดกิจกรรมแต่ละวัน รู้หน้าที่ของอวัยวะกับเวลาที่สัมพันธ์กันจึงและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติสรุปเป็นแบบตารางได้ ดังนี้
ช่วงเวลา |
ระบบที่เกี่ยวข้อง |
ข้อควรปฏิบัติ |
01.00 - 03.00 น. |
ตับ |
นอนหลับให้สนิท พักผ่อนไห้เพียงพอ |
03.00 - 05.00 น. |
ปอด |
ตื่นนอน สูดอากาศบริสุทธิ์ |
05.00 -07.00 น. |
ลำไส้ใหญ่ |
ขับถ่ายอุจารระ |
07.00 -09.00 น. |
กระเพาะอาหาร |
รับประทานอาหารเช้า |
09.00 -11.00 น. |
ม้าม |
ไม่ควรนอนหลับเวลานี้ |
11.00 -13.00 น. |
หัวใจ |
หลีกเลี่ยงความเครียด คิดมาก |
13.00 -15.00 น. |
ลำไส้เล็ก |
งดรับประทานอาหารทุกประเภท |
15.00 -17.00 น. |
กระเพาะปัสสาวะ |
ออกกำลังกาย / อบตัว |
17.00 -19.00 น. |
ไต |
ทำตัวให้สดชื่น ไม่ให้ง่วงนอน |
19.00-21.00 น. |
เยื่อหุ้มหัวใจ |
ทำสมาธิ หรือสวดมนต์ |
21.00 -23.00 น. |
ระบบความร้อนของร่างกาย |
ไม่อาบน้ำเย็น ทำร่างกายให้อบอุ่น |
23.00 -01.00 น. |
ถุงน้ำดี |
ดื่มน้ำก่อนเข้านอน |
ด้วยความปารถนาดีต่อเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับครับ
ไม่มีความเห็น