จากการเรียนกระบวนวิชา MR 626 การประเมินผลโครงการ ของ รศ.ดร.เตือนใจ เกตุษา ท่านอาจารย์มอบหมายให้แปลบทความภาษาอังกฤษและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับรูปแบบการประเมินของ Micheal Patton 's Utilization Focused Evaluation คู่กับคุณธนภรณ์ ผลถาวร ดิฉันคิดว่าจะเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้สนใจ จึงขอนำมาเผยแพร่ให้แก่ท่านผู้สนใจ
วิธีการประเมินที่เน้นการใช้ประโยชน์ ของ Micheal Patton ซึ่งเป็นการออกแบบการประเมินที่กลุ่มเป้าหมาย (Client groups) เป็นกลุ่มที่ทำการตัดสินใจเองว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงกับองค์กรอย่างไร
UFE เป็นกระบวนการสำหรับพัฒนากระบวนการศึกษาของการประเมินการร่วมมือกันและการเจรจาต่อรองกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งถูกเลือกจากกลุ่มของผู้ถูกประเมิน UFE จะมุ่งประเด็นไปที่การให้ผลผลิตที่มีประโยชน์สำหรับผู้ถูกประเมิน
บทบาทของผู้ประเมิน
Patton ไม่เห็นด้วยกับกับความคิดของการรายงานผลให้กับผู้รับการประเมิน แต่เขาชอบการนำไปใช้ประโยชน์จริงๆ ดังนั้นบทบาทของผู้ประเมินเป็นเสมือนผู้ต่อรอง (Negotiating ) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ เพราะฉะนั้นตัวผู้ประเมินก็ทำหน้าที่หลายบทบาทขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อาจเป็นได้ทั้งผู้ฝึกหัด (trainer )พี่เลี้ยงประจำกลุ่ม(group facilitator ) ผู้แก้ปัญหา นักการทูต ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผู้เชียวชาญในการวัดการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญในการตอบคำถามในเชิงคุณภาพ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างองค์ความรู้ เป็นที่ปรึกษา เป็นผู้ร่วมงาน เป็นผู้ฟัง ผู้วิเคราะห์ และเป็นสื่อกลาง
ผู้ต่อรอง (Negotiating ) Active –Reactive –Adaptive Processes
การต่อรองเป็นกระบวนการระหว่างผู้ประเมินกับผู้ถูกประเมิน ประเมิน เพื่อก้าวต่อไปยังการวางแผน เพื่อทำให้เกิดความสมบูรณ์ในการศึกษา โดยคำนึงถึงบุคคล วัฒนธรรม และนิสัยเดิม (idiosyncrasies)
ดังนั้นจึงต้องมีการอภิปรายให้คำแนะนำ คำปรึกษาทั่วๆไปตลอดจนระหว่างเวลาทำการศึกษาข้อมูล ผู้ประเมินจะต้อง กระตือรือร้น active ส่วนผู้ถูกประเมินต้องมีปฏิกิริยาสัมพันธ์โต้ตอบ reactive กระทำกระบวนการนี้จนกว่าจะสมบูรณ์ สามารถยืดหยุ่นเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสม แล้วจะนำไปสู่ การประยุกต์ใช้ adaptive ที่เหมาะสม
ผู้ประเมินต้องตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกตอนดังนั้นบทบาทของผู้ประเมินจะต้องเปลี่ยนไปด้วยตามกระบวนการ active- reactive- adaptive จนสิ้นกระบวนการประเมิน เช่นกันผู้ประเมินจะมีบทบาททั้งเป็นคนที่อยู่นอกเหตุการณ์เช่นเดียวกับผู้ชี้นำโดยให้ความสำคัญกับ ทักษะ , ความรู้, และจรรยาบรรณของผู้ประเมิน เพราะไม่ได้มุ่งเน้นไปเฉพาะวิธีการประเมินเท่านั้น ต้องมีการประนีประนอม ซึ่งหมายถึง การต่อรอง
สรุปรูปแบบการประเมินของแพตตัน
รูปแบบการประเมินที่มุ่งเน้นประโยชน์การนำไปใช้ นักวิชาการบางท่านก็แปลว่ารูปแบบการประเมินที่ยึดประโยชน์ใช้สอย 1. หลักในการประเมินโครงการ นักประเมินควรให้ความสำคัญกับผู้บริหารหรือกลุ่มลูกค้าที่จะใช้ผลการประเมินนั้นๆ คำถามเพื่อการประเมินตรวจสอบควรเกิดจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องเหล่านั้นหรือต้องเป็นความอยากรู้อยากเห็น หรืออยากใช้ข้อมูลผลการประเมินของผู้เกี่ยวข้องไม่ใช่ความอยากรู้อยากเห็นของนักประเมิน เป็นกรอบในการกำหนดจุดประสงค์ของการประเมินซึ่งการประเมินแนวคิดนี้ จะทำให้ผลการประเมินมีโอกาสถูกนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนามากขึ้น 2. ขั้นตอนการประเมิน แพตตัน ได้เสนอแนวทางการประเมินโดยเฉพาะการดำเนินการเพื่อให้ได้วัตถุประสงค์ของการประเมิน โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 3 ขั้นตอน คือ 2.1 จำแนกประเภทหรือกลุ่มบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ในขั้นตอนนี้นักประเมินต้องพิจารณาว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่จะประเมิน เช่น ผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้เกี่ยวข้องกับโครงการอื่นๆ 2.2 สัมภาษณ์ สอบถามผู้เกี่ยวข้องได้จาก (1) เพื่อรวมความคิดเห็นหรือความต้องการว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ ต้องการทราบผลการดำเนินโครงการในลักษณะใดบ้างต้องการใช้ข้อมูลการประเมินเรื่องใดหรืออยากรู้อะไร 2.3 จัดหมวดหมู่คำถาม หรือความอยากรู้อยากเห็น หรือความต้องการอยากใช้ข้อมูลของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการ แล้วกำหนดเป็นรายการ คำถามหลักๆ เพื่อการประเมิน เช่น การดำเนินโครงการทำได้เพียงใด เกิดปัญหาในลักษณะใดบ้าง ผลการดำเนินของโครงการทำให้บรรลุวัตถุประสงค์เพียงใด โครงการก่อให้เกิดผลกระทบเพียงใด เป็นต้น หลังจากดำเนินการทั้ง 3 ขั้นตอน นักประเมินจึงกำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมินที่ครอบคลุมประเด็นคำถามการประเมิน ของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องโครงการส่วนการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ก็ดำเนินการตามกระบวนการประเมินผลตามปกติ สำหรับรูปแบบการประเมินของแพตตันในเอกสารประเมินโครงการของ จิรวัฒน์ โหม่งมาตย์ หน้า 29 ความว่า รูปแบบการประเมินของ แพทตัน (1978) แพทตัน ได้เสนอแนวความคิดในการประเมิน โดยเห็นว่า ควรเน้นการประเมินเพื่อนำสารสนเทศไปใช้อย่างแท้จริง จึงได้เสนอรูปแบบจำลองที่เรียกว่า Utilization-Focused Evaluation ทั้งนี้เสนอได้ดำเนินการกิจกรรมที่สำคัญ ๆ ในการกำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมิน คือ 1. แยกแยะกลุ่มลูกค้าหรือผู้เกี่ยวข้องกับโครงการ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายในการใช้สารสนเทศประกอบการตัดสินใจ 2. สัมภาษณ์/สอบถามผู้เกี่ยวข้องในข้อ 1 เพื่อให้ระบุรายการสารสนเทศที่ต้องการประกอบการตัดสินใจปรับปรุง พัฒนางานหรือโครงการ 3. จัดหมวดหมู่รายการสารสนเทศที่ผู้เกี่ยวข้องต้องการ แล้วสรุปเป็นรายการสารสนเทศสำคัญๆ ที่ต้องการประเมิน หรือ กำหนดเป็นวัตถุประสงค์เฉพาะในการประเมินครั้งนั้นๆ สรุป รูปแบบการประเมิน เป็นกรอบแนวทางที่ทำให้การประเมินมีคุณภาพยิ่งขึ้น ผู้ประเมินต้องเลือกรูปแบบการประเมินให้สอดคล้องและเหมาะสมกับงานหรือโครงการที่จะประเมิน ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย
เอ็ม คิว แพตตัน (M. Q Patton. 1997) (สมคิด พรมจุ้ย 2544 : 63) ได้เสนอแนวคิดรูปแบบการประเมินที่ยึดประโยชน์ใช้สอย (Utilization Focused Evaluation) เพื่อแก้ปัญหาการประเมิน โดยเฉพาะประเด็นที่มักจะได้รับคำวิจารณ์ว่า ประเมินแล้วไม่ได้นำผลการประเมินไปใช้หรือผู้บริหารมองว่าผลการประเมินไม่ตรงกับข้อมูลที่ต้องการใช้ประกอบการตัดสินใจ แพตตัน จึงได้เสนอแนวคิดและแนวทางในการประเมิน ดังนี้
ไม่มีความเห็น