รัชกาลที่5 กับ ยาไทย หมอไทย การแพทย์แผนไทย และ การขาดยาสมุนไพรของประชาชน ใครต้องรับผิดชอบดูแล


ใกล้ถึงวันปิยะมหาราช ผมขอน้อมนำ คำเตือนสติ ของท่าน ซึ่งทรงครองราช ในปี พ.ศ. ๒๔๑๑

เป็นพระราชดำรัส  พ.ศ.๒๔๓๓

ที่ได้ทรงเห็นความสำคัญของการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะการรักษา ตามแนวแพทย์แผนไทย จึงได้ฟื้นฟูอย่างจริงจัง

และได้ทรงปรารภถึงการเข้ามาของการแพทย์แผนตะวันตก  และ การสูญสลายของการแพทย์แผนไทย เหมือนทรงพยากรณ์ล่วงหน้า

" ขอเตือนว่า  หมอฝรั่งนั้นดีจริง 

แต่ควรให้ยาไทยสูญหฤา  ( คัดลอกตามต้นฉบับ ) หาไม่ 

หมอไทยควรจะไม่ให้มี ต่อไปภายหน้า  หฤา ควรมีไว้บ้าง

ถ้าว่าส่วนตัวฉันเอง สมัครกินยาไทย

แลยังวางใจหฤาอุ่นใจในหมอไทยมาก

ถ้าหมอไทยจะรักษาแบบฝรั่งหมด  ดูจะเยือกเย็น เหมือนเห็นอื่น

ไม่เห็นพระเห็นสงฆ์เลยเหมือนกัน

แต่ตัวฉันอายุมากแล้ว เห็นจะไม่ได้อยู่จนหมอไทยหมดดอก

คนภายหน้าจะพอใจ อย่างฝรั่งกันทั่วไป

จะไม่เดือนร้อนเช่นฉันดอกกระมัง

เป็นแต่ลองเตือนดู ตามหัวเก่าที่หนึ่งเท่านั้น "

ก็น่าสนใจต่อว่า ทุกวันนี้ เราลูกหลานที่นับถือท่าน  ทั้งชาวแพทย์พยาบาล และ ชาวบ้านทั้งหลาย

เรารู้จัก ใช้ยาไทย ง่ายๆ     มียาไทยใช้ติดบ้าน ติดสำนักงานกัน  กี่ชนิด

เราแนะนำ คนใกล้ชิด ใช้ยาไทย กับโรคง่ายๆ พื้นฐาน ไม่อันตราย อะไรกันบ้าง

เราควรจะรู้จักใช้ยาอะไร  แทน ยาพาราเซท บ้างมั้ย

ผมก็คงไม่ถึงกับ แนะนำให้ตั้งข้อรังเกียจ  ยาฝรั่ง วิชาฝรั่ง  ยาฝรั่ง ผมก็ยังใช้อยู่ครับ

แต่ผมก็พยายามศึกษา จากผู้รู้ เพื่อให้รู้จัก ข้อดี ข้อจำกัดของยาไทยแต่ละรายการ  จะได้เลือกใช้ถูก

และที่แปลกกับสังคมไทย แต่ไม่แปลก  ที่สังคม จีน อินเดีย  ที่ทุกวันนี้ ชาติเขายังพึ่งพาภูมิปัญญาการแพทย์ดั้งเดิมอยู่ไม่น้อย  หรือ อาจจะมากเสียด้วยซ้ำ

แต่ก็ถือว่า ประเทศเรา เดินหน้ามาพอสมควร  พอจะหาซื้อยาไทยใส่แคปซูลได้ง่ายขึ้น แม้ว่า บางรายการดูแพง

น่าจะมีผู้รู้ จัดความรู้  จัดระบบ ให้เข้าถึงระบบยาไทย อย่างเหมาะสมพอดี  เช่น มีคุณภาพ และ ไม่แพงเกินไป  หาซื้อได้ไม่ลำบากนัก   ดังที่เราเห็น ผู้ป่วยถามหาซื้อ ยาสมุนไพรไทยในบัญชีแห่งชาติ  ง่ายๆ 

แบบชนิดว่า ทั้งจังหวัด ไม่มีให้หาซื้อเลย    เพราะผมได้รับคำถามมาบ่อยๆว่า หาซื้อยาธาตุบรรจบไม่ได้

ในอดีต  โอสถศาลา ของรัฐ  ผลิตยาสามัญ อย่าง ยาธาตุบรรจบ แล้วส่งไปจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วประเทศในราคาไม่แพง   

  แต่สมัยนี้ระบบจัดการ ความรู้ ไม่ครบวงจร   แพทย์จัดการให้ประชาชนผู้สนใจ มีความรู้แล้ว   แต่ยาไทย หาซื้อใช้ได้ยาก   หรือ แม้แต่ ที่ทำงานของผม ก็ขาดคราว ยาธาตุบรรจบ มา 5เดือนแล้ว 

สงสัยแพทย์ ต้องจัดการ การผลิตยาไทย เองแล้ว  พึ่งพาคนอื่น หวังผล ไม่ได้  ซึ่งในอดีตเป็นเช่นนั้น จริงๆ แพทย์และเภสัชกรเป็นคนเดียวกัน  

 ในปัจจุบันระบบคิดแบบอุตสาหกรรม เราแบ่งงานกันทำ  จนพอไม่มียาใช้  ก้ไม่รู้จะร้องเรียน เรียกร้องอะไรกับใคร

ผมกับเภสัชกร ก็นึกกันว่า เราจะต้องสั่งซื้อยาไทย ง่ายๆ พื้นฐาน จาก ภาคเหนือ ภาคอีสาน กันเลยดีมั้ย

เพื่อให้ประชาชน เข้าถึงยาไทย  อย่างที่ควรจะได้

..........แต่ควรให้ยาไทยสูญหฤา   หาไม่  ......( เพราะ ไม่เก่งการจัดการ  )

ผู้เรียนรู้รุ่นหลัง

หมายเลขบันทึก: 217701เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2008 10:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท