เรื่องย่อ ภูตแม่น้ำโขง


หมออัคนีสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบ ไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพาไหมสี(สิชา ศรีทองสุข)ไปหาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤษี พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก
  บัวผัน(วรัทยา  นิลคูหา) หญิงสาวชาวบ้านพบไข่ประหลาดฟองโตสีขาวนวลกลิ้งอยู่บนพืนทราย ริมแม่น้ำโขง จึงเก็บไข่ฟองนั้นกลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กินไข่ประหลาดนั้น เมื่อทองมี(ปัทมาภรณ์ รัตนภักดี)เพื่อนรักแวะมาหาที่บ้านจึงชวนกินไข่ประหลาดด้วยกัน แต่ทองมีไม่กินเพราะกินข้าวมาแล้ว บัวผันจึงกินคนเดียวจนหมดฟอง และเกิดอาการท้องร้อนวูบวาบ บัวผันบอกทองมีว่าจะต้องไปดื่มน้ำในลำน้ำโขงจึงหาย ทองมีตกใจจึงตะโกนร้องให้คนช่วย 
         ทิดเคน(กฤษฏี พวงประยงค์)หนุ่มชาวบ้านกระโดดล็อกตัวไว้แต่บัวผันก็สะบัดหลุดออกอย่างง่ายดาย ทุกคนลงความเห็นว่าผีเข้าบัวผันแน่ เฒ่าเชียงหล้า(แรม วรธรรม)จึงรีบขอขมาผู้สิงร่างบัวผัน แต่ผู้สิงร่างไม่ยอมแล้วก็ลุยน้ำออกไปกลางลำน้ำโขง ทิดเคนกระโจนลงไปช่วย ทั้ง2จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน 
         ทันใดนั้นก็เกิดก้อนสีดำขนาดใหญ่ลอยมาและเปลี่ยนเป็นฝูงผีเสื้อนับล้านตัว ไม่พอเท่านั้นยังมีฝูงคางคกนับล้านตัวว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขงจนมืดสนิท เหมือนจะเกิดอาเพศ ทองมีกรีดร้องด้วยความดีใจที่เห็นบัวผันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และตะโกนเรียกให้กลับเข้าฝั่ง  แต่บัวผันไม่กลับค่อยๆจมหายไป
   
                                  อีกด้านหนึ่ง นายแพทย์อัคนี(ศุกลวัฒน์ คณารศ)ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาวิชาจิตเวชศาสตร์ กำลังนั่งขัดสมาธิบนเรือกลางลำน้ำโขง กับสมัย อ่อนสา(ชูศรี เชิญยิ้ม)เพื่อพิสูจน์สิ่งลี้ลับ แต่อยู่ๆ สมัยก็หมดสติ ลุงจันดี(นึกคิด บุญทอง)คนพายเรือจึงตะโกนเรียกหมออัคนีแต่ก็นิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยิน แล้วลุงจันดีก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความตกใจว่าเห็นผี และพยายามรีบพายเรือหนี แต่กลับเห็นเรือลำหนึ่งลอยมาใกล้ๆ ซึ่งในเรือมีหญิงสาวสวยชื่อบัวผัน ชวนให้ลุงจันดีลงเรือของเธอ เมื่อแกถูกตัวบัวผันก็รู้สึกถึงความเยียบเย็นแล้วร่างบัวผันก็กลายเป็นโครงกระดูก ซึ่งเป็นภาพนิมิตรของเจ้าแม่ทอหูก(มรกต กิตติสาระ)ลุงจันดีจึงรีบกราบขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกินและขอให้เจ้าแม่ไว้ชีวิต
 

                       ส่วนบัวผันที่จมน้ำได้ 9 วันแต่ยังไม่พบศพ นางบุญเรือน(ขวัญฤดี กลมกล่อม)ผู้เป็นแม่และชาวบ้านและจึงให้คนทรงตรวจดู ซึ่งหมออัคนีก็มาร่วมพิธีด้วย คนทรงบอกว่าอีก3วันบัวผันจะกลับมา

      นายแพทย์อุ่นเงิน(อภิชาต วงศ์กาวี)เพื่อนรักของหมออัคนีแต่งงานกับเจ้านางโคมคำ(อุษณีย์ วัฒฐานะ)ซึ่งเดิมเป็นคู่หมั้นของหมออัคนี มาขอพบหมออัคนีแต่หมออัคนีไม่อยากพบ เพราะไม่อยากเจอเจ้านางโคมคำ ซึ่งอุ่นเงินไม่ได้พามาด้วยแต่กลับพาเจ้าวรวงศ์(ภุชิสสะ ธนพัฒน์)พี่ชายของเจ้านางมาแทน

      อุ่นเงินบอกกับหมออัคนีว่าพระธาตุขุนหลวงซึ่งเป็นพระธาตุประจำตระกูลของหมออัคนีพังแล้ว หมออัคนีจึงให้บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุขึ้นใหม่ ซึ่งภายในพระธาตุมีของมีค่ามากโดยเฉพาะบุษบกทองคำประดับเพชรและผอบซ้อนกัน 5 ชั้นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 

     

                                 หมออัคนีตัดสินใจเดินทางไปดู แต่ระหว่างการเดินทางถูกลอบวางยาพิษจากอุ่นเงินและเจ้าวรวงศ์ แต่หมออัคนีไหวตัวทันอมรางจืดยาแก้พิษเอาไว้ ทั้งสองคนไม่รู้ นำร่างหมออัคนีใส่กระสอบถ่วงน้ำ หมออัคนีใช้มีดพับตัดกระสอบและว่ายฝ่าสายน้ำที่เย็นขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่น้ำก็พัดจมลงอีก คราวนี้หมออัคนีไปพบกับพญาจันหัวจระเข้ ที่เป็นบริวารของเจ้าแม่ทอหูก จึงถูกนำตัวไปขังไว้ในคุก      
          พญาหนองหารหลวง(ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล)ล่วงรู้เข้าจึงสั่งให้ อสุรกายนฤจักษ์ กับ นางมลินมุขี เข้าไปชิงตัวหมออัคนีมา ทั้ง2แปลงร่างเป็นพายุลมดำ หอบหมออัคนีไปให้พญาหนองหารหลวง แล้วสั่งต้มหมออัคนี หมออัคนีไม่เห็นทางรอดจึงกำหนดปณิธาณขอให้ดวงจิตสะอาดบริสุทธิ์ พอจบคำอธิฐานลมหนาวแห่งความตายก็พัดมา ก็เกิดแสงสว่างสีทองพันรอบตัวแล้วดึงลอยไปในอากาศ มารู้สึกตัวอีกครั้งว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่ในความมืด แต่ชั่วแวบเดียวก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสาวงามแต่งกายชุดสาวพื้นเมืองเดินเข้ามาหาและชวนให้ไปพักผ่อนที่บ้านหมออัคนีปฏิเสธเธอบอกว่าชื่อบัวผัน ทำให้นึกถึงหญิงสาวที่จมแม่น้ำโขงหายไปหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินเข้าไปในเมือง 

                      ระหว่างทางก็เจอกับผีโครงกระดูกและสุนัขผีดำ แต่ก็รอดมาได้ ในที่สุดก็มาถึงที่พัก นางบุญเรือนยังโศกเศร้าคิดถึงบัวผันและยิ่งเศร้าเมื่อหลวงพ่อจูม(พงษ์ประยูร ราชอาภัย)อดีตสามีไปออกธุดงค์โดยไม่บอก แต่แล้วในที่สุดบัวผันก็กลับมา แต่ก็มีนางปิศาจตามมาส่งและมาหลอกหลอนเข้าสิงชาวบ้าน หมออัคนีรู้เรื่องบัวผันกลับมา จึงไปหาเพราะมั่นใจว่าบัวผันคือคนที่ช่วยชีวิตจากการจมน้ำ แต่บัวผันจำอัคนีไม่ได้ ไ ม่ทันที่จะถามต่อลุงเสาร์ก็วิ่งมาถามหา บอกว่าบัวผันเป็นคนฆ่าลุงงึมตาย และจะนำตัวไปเผาไฟ ซึ่งหมออัคนีพยายามที่จะช่วย โดยการขอตรวจศพลุงงึมก่อน ทันใดนั้นก็มีแมวดำกระโดดข้ามศพของลุงงึม จนฟื้นขึ้นมา 

      กำนันเล้ง(กลศ อัทธเสรี)กับเวียนแล(ปริษา ธนาวิวัฒน์)ตั้งใจจะมางานศพลุงงึมแต่มาเจอหมออัคนี จึงตกใจมากนึกว่าโดนผีหลอก เพราะเจ้าวรวงศ์บอกว่าหมออัคนีตายแล้ว กำนันเล้งข้องใจจึงเรียกสารวัตรกองตามาปรึกษา แล้วรีบแจ้งข่าวกับเจ้าวรวงศ์และหมออุ่นเงินทั้ง2ตกใจกลัวความผิด กำนันเล้งจึงรับปากจะไม่บอกว่าอุ่นเงินกับเจ้าวรวงศ์ระเบิดพระธาตุขุนหลวงเพราะก็กลัวความผิดที่ตนเองร่วมมือด้วย

 

                              หมออัคนีต้องการพิสูจน์ว่าบัวผันเป็นตัวจริงหรือเปล่า เลยตามไปในหมู่บ้านลับแลและก็ได้พูดคุยกัน มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในป่าช้า จึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมและได้รับจดหมายจากเจ้านางโคมคำฝากไว้เพื่อขอพบ หมออัคนีไปเจอเจ้านางโคมคำเพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ 

         หลังจากนั้นหนานหล้า(ทองขาว ภัทรโชคชัย)เอาจดหมายที่มีข้อควมสั้นๆจากสัปเหร่อหนูที่มีข่าวด่วนให้มาพบที่ป่าช้า

         หมออัคนีสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบ ไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพาไหมสี(สิชา ศรีทองสุข)ไปหาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤษี พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก

          แต่หมออัคนีไม่ถอดเพราะพระภิกษุให้สวมไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายตลอดชีวิต เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันก็ช่วยเสริมแกมบังคับ หมออัคนีจึงยอมถอดและโยนทิ้งลงไปในสระน้ำไฟจึงลุกขึ้น พ่อปู่โกรธมากที่มาทำลายบ่อเพลิงกรดศักดิ์สิทธิ์ พ่อปู่จึงสั่งให้เจ้าแม่ทอหูกโยนหมออัคนีลงสระไฟกรด

     
   
                                หมออัคนีรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บัวผัน จึงดิ้นสุดแรงทำให้เจ้าแม่ทอหูกพลัดตกลงไปในสระไฟกรดแทน ซึ่งจริงๆแล้วคนที่ตายก็คือบัวผันนั่นเอง แต่สุดท้ายบัวผันก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ เพราะหลวงพ่อจูมมาช่วยไว้ หลวงพ่อจูมปรากฏกายทิพย์ออกมาเพื่อช่วยทั้งหมดเอาไว้ได้สำเร็จ สุดท้ายเจ้าแม่ทอหูกก็ต้องไปเวรกรรมที่สร้างไว้กับผู้อื่น
         หมออัคนีพาบัวผันกลับมาที่เมืองมนุษย์ ชาวบ้านรู้ความจริงทั้งหมดก็มั่นใจแล้วว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่ผ่านมาไม่ใช่ฝีมือบัวผัน หมออัคนีกับบัวผันได้ครองรักกันสมกับที่รอคอยกันมานาน ขณะเดียวกันหมออุ่นเงินกับเจ้านางโคมคำก็ปรับความเข้าใจและครองรักกันเช่นกัน ส่วนเจ้าวรวงศ์ตัดสินใจออกบวชในที่สุด
 

 รายชื่อนักแสดง  “ภูตแม่น้ำโขง”
 1.ศุกลวัฒน์  คณารศ         แสดงเป็น  นายแพทย์อัคนี
 2.วรัทยา  นิลคูหา             แสดงเป็น  บัวผัน
 3.มรกต  กิตติสาระ            แสดงเป็น  เจ้าแม่ทอหูก
 4.ภุชิสสะ  ธนพัฒน์            แสดงเป็น  เจ้าวรวงศ์
 5.อุษณีย์  วัฒฐานะ           แสดงเป็น  เจ้านางโคมคำ
 6.อภิชาติ  วงศ์กาวี           แสดงเป็น  นายแพทย์อุ่นเงิน
 7.ปัทมาภรณ์ รัตนภักดี      แสดงเป็น  ทองมี
 8.กฤษฎี  พวงประยงค์      แสดงเป็น  ทิดเคน
 9.ภูธฤทธิ์  พรหมบันดาล   แสดงเป็น  พระยาหนองหารหลวง
10.ปริษา  ธนาวิวัฒน์         แสดงเป็น  เวียนเล
11.กลศ  อัทธเสรี               แสดงเป็น  กำนันเล้ง
12.นึกคิด  บุญทอง            แสดงเป็น  ลุงจันดี
13.ชูศรี  เชิญยิ้ม                แสดงเป็น  สมัย  อ่อนสา
14.ขวัญฤดี  กลมกล่อม      แสดงเป็น  บุญเรือน
15.แรม  วรธรรม                 แสดงเป็น  เฒ่าเชียงหล้า
16.ทองขาว  ภัทรโชคชัย  แสดงเป็น  หนานหล้า
17.สิชา  ศรีทองสุข            แสดงเป็น  ไหมสี
 18.พงษ์ประยูร ราชอาภัย  แสดงเป็น  หลวงพ่อจูม

จาก

http://tv.gmember.com/synopsis/detail.php?synopsis_id=30

หมายเลขบันทึก: 215879เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2008 21:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

เรื่องย่อ “ภูตแม่น้ำโขง”

บทประพันธ์ โดย สิทธา เชตวัน

ความเชื่อถือศรัทธาของคนสองฝั่งลุ่มแม่น้ำโขง อันสืบเนื่องมาจากร่องรอยของนิทานพื้นบ้านและวรรณคดีโบราณ สมบูรณ์ด้วยความงามของธรรมชาติ ภูมิศาสตร์ อารยธรรม และสรรพวิทยาที่ขรึม ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ สอดแทรกด้วยหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ผสมกลมกลืนกับชีวิตความเป็นอยู่ ความรู้สึกนึกคิด ตลอดจนปรัชญาของผู้คนทั้งสองฝั่งโขง

บัวผัน สาวสวยวัย 18 เดินแทงปลาไหลไปตามริมน้ำด้วยความเพลิดเพลินตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนสาย และเมื่อจะกลับก็ชะงักกึกเมื่อเห็นไข่ฟองหนึ่งสีขาวนวลใสโตขนาดขวดแม่โขงกลมตัดครึ่ง อยู่บนผืนทรายเรี่ยน้ำ กลิ้งไปมาตามแรงน้ำกระเพื่อม บัวผันเห็นเป็นของแปลก ถึงไม่รู้ว่ามันเป็นไข่อะไรแต่ความรู้สึกบอกว่ามันเป็นของกินได้ บัวผันจึงเก็บไข่ฟองนี้กลับบ้าน และไม่รู้อะไรดลใจให้บัวผันอยากกินไข่ประหลาดนี้อย่างรุนแรงมาก แม้ตัวเองยังแปลกใจ บัวผันต้มไข่ประหลาด กลิ่นมันหอมแรงตลบไปทั้งบ้าน และยิ่งหอมมากขึ้นเมื่อสุก เป็นกลิ่นหอมที่บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไร แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่กลิ่นไข่แน่นอน ทองมี เพื่อนรักของบัวผัน แวะมาหา บัวผันชวนกินข้าวกับไข่ประหลาด ทองมีไม่กินเพราะกินข้าวมาแล้วและเพราะรู้สึกไม่อยากลองของแปลก ทั้งๆที่กลิ่นไข่หอมยั่วความอยากเป็นอย่างมาก บัวผันกินไข่คนเดียวอย่างเอร็ดอร่อยเพราะมันอร่อยมากจริงๆ กินจนหมดฟองแล้วอยากกินอีกไม่รู้จบสิ้น แต่ไม่มีให้กินแล้ว บัวผันดื่มน้ำระงับความอยากจนหมดขันก็ไม่หายอยาก ท้องร้อนวูบวาบและกระหายน้ำรุนแรง ไปดื่มน้ำอีกจนน้ำหมดตุ่มก็ยังไม่พอ บัวผันบอกทองมีว่าต้องไปดื่มน้ำต่อในลำน้ำโขงจึงจะหายอยาก แล้วหัวเราะราวสติวิปลาส โดดลงเรือนวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ทองมีตกใจสุดขีด เป็นห่วงเพื่อนรัก โดดลงเรือนวิ่งตามไป ส่งเสียงร้องให้คนช่วยจับบัวผันไว้ ผู้คนทั้งหมู่บ้านแตกตื่นถามเรื่องราว ทิดเคน หนุ่มทรงพลังประจำหมู่บ้าน ผู้เคยปล้ำหักคอกระบือบ้ามาแล้ว วิ่งตามทันบัวผัน และกระโดดล็อกตัวไว้แน่น แต่ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นว่าบัวผันมีพลังมหาศาลสะบัดหลุดจากทิดเคนได้อย่างง่ายดาย แถมยังทุ่มทิดเคนคว่ำไม่เป็นท่า ทั้งๆที่บัวผันเอวบางร่างน้อยอ้อนแอ้น เป็นพลังมหาศาลผิดมนุษย์ ทุกคนลงความเห็นว่าผีเข้าบัวผันแน่แล้ว ทิดเคนพยายามฉุดบัวผันไว้ให้ได้ บัวผันตาขวางเหมือนผีบ้า วิ่งเร็วราวลมพัดไปยังแม่น้ำโขง ทั้งผู้คนนับร้อยทั้งสุนัขวิ่งตามไม่ทัน สุนัขหอนโหยหวนชวนขนลุกราวกับพวกมันเห็นภูตผีปิศาจ บัวผันก้มใช้ปากดูดน้ำจากลำน้ำโขงโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทองมีได้สติ เกรงเพื่อนท้องแตกตาย ไปกระชากตัวบัวผันขึ้นจากน้ำ บัวผันหันขวับมามอง ตาเขียวปัดน่ากลัว เธอตวาดกราดเกรี้ยวว่าเธอไม่ใช่บัวผัน เฒ่าเชียงหล้า ผู้อาวุโสสุดของหมู่บ้านขอขมาผู้สิงร่างบัวผัน เฒ่าเชียงหล้ากับทองมีพยายามถามว่าเป็นใคร เป็นเจ้าของไข่ประหลาดที่บัวผันกินเข้าไปหรือไม่ ผู้สิงร่างบัวผันตวาดว่าไม่ต้องการตอบ บอกเพียงว่าจะเอาบัวผันไป แล้วร่างบัวผันลุยน้ำออกไปกลางลำน้ำโขง ซึ่งใครๆก็รู้ว่าพื้นใต้ท้องน้ำเมื่อพ้นฝั่งไปเล็กน้อยจะหักมุมลึกลงทันที ความลึกถึง 40 วา และแม้จะเป็นหน้าแล้งน้ำก็ยังเชี่ยวมากและเย็นมากกว่าปกติ เป็นตะคริวได้ภายใน 5 นาที ลงไปก็ตายสถานเดียว ชาวบ้านเชื่อว่าเงือกน้ำพรายน้ำลากไปกิน เชื่อว่าบริเวณหาดนี้เป็นห้วงน้ำอาถรรพณ์ ตามเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า ราว 300 ปีก่อน ริมหาดนี้เป็นที่ตั้งวัดพระเจ้าองค์คำ ต่อมาวัดทั้งวัดถูกน้ำเซาะจมหายไปใต้แม่น้ำ ไปอยู่ในวังน้ำวนมฤตยู พระเจ้าองค์คำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระประธานจมอยู่ใต้น้ำด้วย ชาวบ้านเชื่อว่าทั้งภูตผีทั้งเทวาอารักษ์ต่างพิทักษ์รักษาพระพุทธรูปพระเจ้าองค์คำไว้ ไม่มีใครห้ามบัวผันได้ ทิดเคนกระโจนตามฉุดไว้ วอนขอชีวิตบัวผันไว้แล้วตัวเองจะบวช 1 พรรษาให้ผู้สิงร่างบัวผัน แต่ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งบัวผันไว้ได้ บัวผันกระโจนไปกลางน้ำ พาเอาทิดเคนซึ่งยังฉุดอยู่ลงใต้น้ำไปด้วย ชาวบ้านทุกคนภาวนาอ้อนวอนขอพระเจ้าองค์คำและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยชีวิตบัวผันและทิดเคนรอดกลับมา ท้องฟ้าสว่างสดใสด้วยแสงแดด สายลมอ่อนแต่พัดพาความเย็นยะเยียบผิดปกติจากน้ำมาสู่ฝั่ง ทันใดนั้นทุกคนมองเห็นก้อนสีดำใหญ่มากลอยมาจากซอกเขาทางฝั่งลาวสู่ฝั่งไทย เมื่อลอยถึงกลางลำน้ำ ก้อนดำนั้นขยายออกยาวมาก และแปรเป็นสีสันสดใสต่างๆ มันคือกองทัพผีเสื้อนับล้านตัว! พวกมันราวอพยพหนีภัยพิบัติ ผีเสื้อนับล้านนั้นบินข้ามชาวบ้านหายลับไปหลังภูเขาแก้ว ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันว่าต้องเกิดอาเพศแน่นอน ยังไม่ทันขาดคำก็เห็นภาพที่สั่นประสาทยิ่งขึ้น นั่นคือคางคกนับล้านตัวว่ายน้ำมาจากฝั่งลาวจนลำน้ำโขงดูดำมืดไปหมด และเมื่อขึ้นฝั่งก็กระโดดเข้าพงหญ้า อันตรธานไปหมดในชั่วพริบตา ทั้งผีเสื้อทั้งคางคกมาในเวลาเดียวกันเช่นนี้ เป็นลางบอกว่าจะเกิดเหตุร้ายกับผู้คนในดินแดนนี้แน่นอน ฟ้ามืด ฝนกระหน่ำฉับพลัน ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางลำน้ำโขง แล้วทองมีกรีดร้องด้วยความยินดี กลางม่านฝนหนา บัวผันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในท่ายืนครึ่งตัว ทั้งๆที่น้ำตรงนั้นลึกถึง 40 วา และปราศจากโขดหินให้เหยียบยืน! แสงฟ้าแลบให้เห็นหน้าบัวผันซีดขาวราวพอกแป้ง ตาเลื่อนลอยโศกเศร้าคล้ายตกในห้วงภวังค์ เธอยังไม่ตาย ทุกคนดีใจโห่ร้อง ทองมีร้องเรียกบัวผันกลับเข้าฝั่ง แต่บัวผันยังเลื่อนลอยเหมือนไม่ได้ยิน แล้วบัวผันค่อยๆจมลง หายลับไป ฝนขาดเม็ดทันใด เมฆกระจายหาย ท้องฟ้าใสสว่างดังเดิม ทิดเคนโผล่พรวดขึ้นสู่ผิวน้ำ ตาลีตาเหลือกว่ายเข้าฝั่งด้วยความกลัวสุดขีด ทุกคนบนฝั่งต่างอัศจรรย์ใจว่าทิดเคนรอดมือมฤตยูมาได้อย่างไร ถึงหาดทรายทิดเคนล้มลงนอนแผ่หมดแรง เมื่อพอจะมีแรง ทิดเคนเล่าให้ชาวบ้านฟังว่าเมื่อลงใต้น้ำ บัวผันถูกน้ำพัดพลัดกันกับเขา ตัวเขาตกลงไปที่เมืองใต้น้ำ ซึ่งไม่มีน้ำเลย เหมือนเป็นเมืองบนบก บ้านเมืองสะอาดเป็นระเบียบ ผู้คนสวยงามกว่าชาวบ้านในหมู่บ้านมาก ชาวบ้านบางกลุ่มไม่เชื่อ แต่เฒ่าเชียงหล้าหนาวยะเยือก แกรู้เรื่องเมืองใต้น้ำดี ทิดเคนว่าเขารอดมาได้เพราะคนในเมืองใต้น้ำบอกว่าเขายังไม่หมดเวรกรรมบนโลก จึงให้ฝูงสุนัขซึ่งตัวใหญ่เท่าม้าไล่เขาไปที่น้ำ และมีฝูงอสรพิษในน้ำไล่เขาต่อจนเขาว่ายน้ำหนีไม่คิดชีวิตกลับมาได้ ทองมีถามถึงบัวผัน ทิดเคนว่าไม่เห็นแต่รู้ว่าบัวผันถูกจองจำอยู่ที่เมืองใต้น้ำ

7 วันผ่านไป ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ ตำนานกล่าวว่าเป็นวันที่ปรโลกปลดปล่อยวิญญาณให้กลับมาเยี่ยมเยือนญาติในโลกมนุษย์ นายแพทย์อัคนี แพทย์หนุ่มรูปงาม ผู้เชี่ยวชาญวิชาจิตเวชศาสตร์ นั่งขัดสมาธิบนเรือพายกลางแสงจันทร์กระจ่าง สมัย อ่อนสา นั่งเป่าแคนไพเราะโศกซึ้งแหวกความวิเวกวังเวง หมออัคนีมั่นใจว่าเพลง ‘ธรณีกรรณแสง’ จะก่อปฏิกิริยาถึง ‘สิ่งลี้ลับ’ ในลำน้ำโขงให้สำแดงตนออกมาในรูปใดรูปหนึ่ง หมอได้รับทุนจากสถาบันจิตเวชแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ทำวิจัยเรื่อง ‘จิตเวชวัฒนธรรม’ เกี่ยวข้องกับโรคทางจิตเวชในถิ่นชนบท รวมทั้งเรื่องผีเข้าเจ้าสิง เสียงแคนหยุดกะทันหัน สมัยฟุบหมดสติ แคนหลุดมือตกลงไปในน้ำ ลุงจันดี คนพายเรือตะโกนลั่นบอกหมอ แต่หมอนิ่งเหมือนไม่ได้ยินเพราะจิตจมลึกในห้วงสมาธิ แล้วในชั่วอึดใจต่อมาลุงจันดีตกใจสุดๆร้องจ๊ากว่าผีหลอก ปลาบึกยักษ์ตัวหนึ่ง ใหญ่กว่าปลาบึกทั่วไป กระโดดลอยเหนือผิวน้ำใกล้ๆเรือ ปกติปลาบึกจะหลีกหนีห่างมนุษย์เป็นที่สุด แต่ปลาบึกตัวนี้กลับไม่กลัวคน ชาวบ้านสองฝั่งโขงเชื่อกันว่าปลาบึกเป็นปลาผีเลี้ยง ผีจะอนุญาตให้จับปลาบึกได้เพียงปีละครั้ง และก่อนจับจะต้องทำพิธีเซ่นไหว้ขออนุญาตจาก ‘ภูตแม่น้ำโขง’ ก่อนทุกครั้ง ลุงจันดีตัวเย็นเฉียบ ปลาบึกยักษ์ตัวนี้ผิวผ่องเลื่อมเป็นมันวาว ตาเรืองประกายฟอสฟอรัส และเหมือนมันกำลังยิ้มให้แก แกพยายามเรียกหมออัคนี แต่หมอนิ่งเหมือนเข้าฌานสมาบัติ สมัยยังฟุบไม่ได้สติ หมอกโรยรายล้อมเรือจนมองไม่เห็นฝั่ง ไม่รู้ทิศทาง ลุงจันดีรู้สึกแน่นหน้าอกอ่อนเปลี้ย แกรู้ว่าทั้งตัวแก หมออัคนี และสมัยตกอยู่ในอำนาจของสิ่งลี้ลับ แกรีบจ้ำพายหนีห้วงน้ำอาถรรพณ์ แต่เรือหยุดนิ่งเหมือนถูกยึดไว้ ทันใด เสียงซอสามสายดังขึ้น วังเวงหวานระคนโหยหวนแต่ไพเราะยิ่งนัก ลุงจันดีขนลุกซู่ ไม่ไกลจากเรือของแก แสงโคมสีเขียวค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ และเสียงซอสามสายก็ดังขึ้นๆ แล้วฉับพลันเสียงซอแผ่วจาง เสียงไพเราะมากของหญิงขับลำเต้ยภูไทดังมาแทน เนื้อความขับขานหาชายหนุ่ม ลุงจันดีความกลัวหายสิ้น กลับกลายเป็นความเคลิบเคลิ้มกระชุ่มกระชวยราวกลับคืนเป็นหนุ่ม โคมไฟสีเขียวเคลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กลิ่นน้ำอบหอมแรงโชยมา เสียงซอกลั้วเลียงขับลำไพเราะรัดรึงวิญญาณ จบลำเต้ยภูไท เรือแสงโคมเขียวปรากฏอยู่ใกล้เรือลุงจันดีระยะแค่เอื้อม แต่ดูพร่าเลือนในม่านหมอกเหมือนภาพมายา เรือนั้นลำเรียวงามเหมือนเรือขุดธรรมดา แต่หัวเรือแกะเป็นพญานาค ประดับแก้วสีแดง เขียว เหลือง ขาว งามมากแต่ดูลี้ลับน่าพรั่นพรึง แสงโคมเขียวจัดดุจสีปีกแมลงทับเปล่งผ่านกระจกโคมแบบหลวงพระบาง หญิงสาวผู้สีซอสามสายสวยหยาดเยิ้ม ยิ้มหวานชวนวาบหวามรัญจวนให้ลุงจันดี ลุงจันดีหัวใจพองฟูกำเริบรักจนลืมสังขาร กลิ่นน้ำหอมแรงโชยมา ลุงจันดีสูดเข้าเต็มปอด เสียงขับจบลง หญิงสาวชวนลุงจันดีคุย เธองามอย่างน่าอัศจรรย์ งามเกินกว่าจะมีจริง หรือเธอมิใช่มนุษย์ แต่ถ้อยคำหวานและท่าทางทอดสะพานของเธอทำให้ความหวาดระแวงของลุงจันดีหายไปสิ้น หญิงสาวลึกลับบอกว่าชื่อบัวผัน ลุงจันดีตกในบ่วงสวาทจนลืมเรื่องที่บัวผันจมหายไปในแม่น้ำอันเป็นเหตุให้หมออัคนีและแกมาล่องน้ำโขงในคืนนี้เสียสิ้น บัวผันชวนลุงจันดีลงเรือของเธอล่องชมจันทร์ด้วยกัน ลุงจันดีก้าวลงเรือบัวผัน บัวผันหัวเราะอย่างผู้มีชัย ตาเปล่งประกายเขียวปัด แต่ลุงจันดีหน้ามืดตามัวด้วยตัณหา มองว่าตานั้นสวยนัก เสียงหัวเราะก็หวานเสียนี่กระไร แสงจันทร์อาบร่างบัวผันเต็มที่ ร่างนั้นโปร่งใสเหมือนแก้วและเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง แต่ลุงจันดีไม่เอะใจเลย เมื่อแกถูกบัวผันเล้าโลมจึงรู้สึกถึงกายที่เยียบเย็นจัดของบัวผัน บัวผันพูดเป็นปริศนาว่าตนเองเลือดสีขาว ลุงจันดีหวาดกลัวมากว่าคงเจอผีน้ำเข้าให้แล้ว ร่างบัวผันกลายเป็นโครงกระดูกขาวโพลน เคลื่อนไหวเหมือนงู แสยะยิ้มให้ลุงจันดี ลุงจันดีกลัวมาก ถามว่าจริงๆแล้วร่างนี้เป็นใคร โครงกระดูกตอบว่านางคือเจ้าแม่ทอหูก เป็นเจ้าเป็นใหญ่อยู่ในลำน้ำโขง ปกครองเหล่าภูตร้าย วิญญาณอนาถา และผีสางเทวดาอารักษ์ทั้งหลาย บัวผันนั้นเป็นเพียงข้าทาสของเจ้าแม่ แต่มีความผูกพันกันด้วยวิบากกรรมสำคัญมาแต่ปางบรรพ์ เจ้าแม่จึงจำเป็นต้องยืมร่างบัวผันมาใช้ ลุงจันดีกราบขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกิน และขอให้เจ้าแม่ไว้ชีวิต เจ้าแม่สั่งสอนให้ลุงจันดีอย่ามักมากในกามตัณหา และยอมไว้ชีวิต ขาดคำเจ้าแม่ ฟ้าผ่าเปรี้ยง ลุงจันดีกระเด็นตกจากเรือลงไปในน้ำ

จิตของหมออัคนีเข้าสู่จตุตถฌาน แต่ยังนับเป็นโชคของลุงจันดีที่จิตของหมอออกจากสมาธิตอนที่ลุงจันดีร้องตะโกนขอความช่วยเหลือพอดี สมัยก็ฟื้นคืนสติตอนนั้นเช่นกัน หมอและสมัยช่วยลุงจันดีขึ้นจากน้ำได้ทัน ลุงจันดียังกลัวเกินกว่าจะเล่าอะไรได้ ขอให้กลับเข้าฝั่ง เสียงวงกระจับปี่อีสานบรรเลงเพลง ‘ล่องโขง’ ดังขึ้น ตามด้วยเสียงหญิงสาว ‘แอ่วลำ’ รำพันความโศกเศร้าอาวรณ์ ไพเราะซาบซึ้งสะเทือนใจรุนแรง หมออัคนีสงสัยว่าเธอเป็นใคร แต่ลุงจันดีกลัวแทบหัวใจวายว่าจะเป็นผีน้ำอีก แกชี้มือลงไปในแม่น้ำ สมัยยืนยันว่าได้ยินเสียงเพลงดังมาจากใต้น้ำเช่นกัน แต่หมออัคนีว่าสองคนเหลวไหล หมอบอกว่าเสียงเพลงนั้นมาจากวิทยุของชาวบ้านใกล้ๆบริเวณนั้น

http://gmmblog.gmember.com/index.php/%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3/%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%82%E0%B8%82%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B8%A0/

  • แวะมาอ่านค่ะ
  • ขอบคุณค่ะที่ให้ข้อมูล

"เวียร์" รับมีอาถรรพ์มากมายในกองถ่ายละครเรื่อง "ภูตแม่น้ำโขง" สุดอึ้งทีมงานเจอดีกลางกองถ่ายในถ้ำน้ำ จ.ราชบุรี แจงโดนร่างทรงทักเหมือนอย่างในฝันราวกับมองเห็น บอกน่ากลัวมากเพราะให้ทีมงานไปหล่อหน้า "จุ๋ย-เอมมี่" มาตั้งบูชาในถ้ำ

หลอนสยอง!! "เวียร์" เจออาถรรพณ์กลางกองถ่าย"ภูตแม่น้ำโขง"



"เวียร์" รับมีอาถรรพณ์มากมายในกองถ่ายละครเรื่อง "ภูตแม่น้ำโขง" สุดอึ้งทีมงานเจอดีกลางกองถ่ายในถ้ำน้ำ จ.ราชบุรี แจงโดนร่างทรงทักเหมือนอย่างในฝันราวกับมองเห็น บอกน่ากลัวมากเพราะให้ทีมงานไปหล่อหน้า "จุ๋ย-เอมมี่" มาตั้งบูชาในถ้ำ
       
       กลายเป็นกองถ่ายที่มีเรื่องราวอาถรรพณ์มากมาย สำหรับกองละครเรื่อง "ภูตแม่น้ำโขง" ของค่าย "ดาราวิดีโอ" ล่าสุดพระเอกหนุ่มคนดัง "เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ" ออกมาเปิดใจให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงอาถรรพณ์กลางกองถ่ายละครเรื่องดังกล่าวด้วยสีหน้าและอารมณ์กลัวว่าเจอร่างทรงทักตรงหมดว่าตนไปทำอะไรบ้าง
       
       "ล่าสุดเจอครับ...น่ากลัวมาก จริงๆ นะมีเยอะมาก อย่างล่าสุดอยู่ดีๆ ก็มีร่างทรงมาทักว่าใครคนไหนไปทำอะไรมา คือเขาจะรู้หมดเลยว่าเราแต่ละคนทำอะไรกันบ้าง คือวันนั้นเราไปถ่ายกันในวัดถ้ำน้ำ จังหวัดราชบุรี คือในถ้ำน้ำนั้นก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธ์เยอะแล้วเราก็ไม่ได้ไหว้กันอย่างเป็นทางการ ไม่ได้ขอใช้สถานที่อย่างเป็นทางการ คือทุกคนก็แค่ยกมือไหว้กันเฉย"
       
       "แต่มันก็มีอยู่แล้วเวลาที่อยู่ในถ้ำนั้นเราก็จะพูดไม่ดี พูดไม่เพราะบ้าง ตะโกนเสียงดังบ้าง แล้วอยู่ดีๆ วันนั้นก็มีร่างทรงเดินเข้ามาในวัดแห่งนั้นเฉยเลย อยู่ดีๆ เขาก็มานั่งอยู่แถววัดแล้วเขาก็เข้ามาทักคนนั้นคนนี้แล้วเขาก็รู้หมดเลยจริงๆ ว่าใครทำอะไรไว้บ้าง เขามาบอกว่าเวียร์และคนอื่นๆ ว่าพูดจากันให้มันดีๆ หน่อย อย่าทำอะไรไม่ดีในถ้ำนะ"
       
       "ส่วนเรื่องที่น่ากลัวที่สุดก็จะเป็นเรื่องที่ทีมงานคนหนึ่งฝันว่าให้ทุกคนไปหล่อรูปปั้นหน้าตาของนักแสดงแต่ละคนที่เล่นเรื่องนี้มาไว้ในถ้ำ นี้คือพี่ทีมงานเขาฝันนะ คือเขาฝันว่าให้หล่อเฉพาะนักแสดงผู้หญิงในเรื่องก็จะมี จุ๋ย-วรัทยา,เอมมี่-มรกตและนักแสดงอีกหลายคน คือที่ทีมงานคนนั้นเขาฝันเขาก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยนะ"
       
       
เจ้าตัวสุดขำหลังโดนร่างทรงทัก นักแสดงสาว "จุ๋ย-วรัทยา" กลัวจัดถึงขั้นเอาพระมาห้อยเต็มคอ พร้อมเผยเข้าไปกราบไหว้แล้วเรียบร้อยทำให้ชีวิตทุกวันนี้ดีขึ้นเยอะ...
       

       "จนมาเจอร่างทรงคนนี้แหละที่เขาเข้ามาทักทีมงานคนนั้นว่าฝันแบบนี้ใช่ไหม เขาเล่าได้แบบเป็นเรื่องๆ จนทีมงานคนนั้นร้องไห้เลยว่ารู้ความฝันได้อย่างไร เพราะเขาไม่เคยเล่าให้ใครฟัง พอวันนั้นที่โดนร่างทรงทักจุ๋ยกับเอมมี่กลัวมาก โดยเฉพาะจุ๋ยเขานั้นใส่พระเต็มคอเลย(หัวเราะ) คือน่ากลัวมากถ้ำนั้นจะไม่ไปอีกแล้ว คือเรื่องนี้มันก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วนะ"
       
       "พอหลังจากที่โดนร่างทรงคนนั้นทักทุกคนก็เข้าไปไหว้กันใหญ่เลย เพราะเราก็รู้ว่าเราทำไม่ถูกวิธีสักเท่าไหร่ ก็เลยต้องเข้าไปไหว้กันทุกคนก็ประมาณว่า "ถ้าหากเราทำอะไรผิดไป ลูกช้างก็ขออภัยด้วย" แต่พอแก้แล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น ชีวิตก็ดีขึ้นเยอะ
http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=41&post_id=26080

 

เจ้าโคมคำรอหมออัคนีเพื่อที่จะสอบถามความคืบหน้าบัวผัน..

user posted image

หลังจากที่กำนันเล้งตายเวียนเลก็กลายเป็นคนเสียสติ.

user posted image

ชาวบ้านรู้ว่ากำนันเล้งตายแล้วก็พากันมาจับตัวบัวผัน

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันเพื่อหั้ยชาวบ้านเข้าจัยผิดอีกแล้ว

user posted image

บัวผันบอกกับทุกคนว่าตนเองไม่ใช่ผี.ทิดเคนพูดขึ้นว่าอ้ายเชื่อ..แต่ชาวบ้านเค้าไม่เชื่อ..

user posted image

หมออัคนีบอกบัวผันว่าพวกเราเชื่อในตัวบัวผัน...แต่ลุงเชียงหล้าหั้ยบัวผันตั้งสติคิดทบทวนว่าบัวผันได้ทำอะไรลงไปมั้ง

user posted image

http://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=66775&st=130

 


user posted image

ทิดเคนถามหมออุ่นเงินว่ารู้จักเจ้าโคมคำไหม..หมออุ่นเงินถามว่าทำไม..ทิดเคนตอบว่าเจ้าโคมคำมาที่นี้เพื่อที่จะตามหาหมออุ่นเงิน

user posted image

บัวผันน้อยใจในโชคชะตา..แต่หมออัคนีปลอบจัยบัวผันแล้วพูดว่าตนจะไม่ยอมหั้ยใครมาทำร้ายบัวผันได้

user posted image

กำนันเล้งกับเวียนเลกำลังปรึกษาหารือกันว่าจะต้องจับตัวบัวผันแบบคาหนังคาเขาในคาบขอ
งภูติผีหั้ยได้

user posted image

เจ้านางทอหูกมาหาบัวผันเพื่อที่จะสิงร่าง..หั้ยบัวผันเป็นที่เกลียดชังของชาวบ้าน..ในคราบของภูตแม่น้ำโขง

http://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=66775&st=120

 

user posted image

user posted image

กำลังจะฆ่าหมออุ่นเงินกับเจ้าสำเร็จอยู่แล้ว..เจ้าแม่เกิดได้ยินเสียงหมออัคนีแผ่เมตตาหั้ย..

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกไปหาหมออัคนีเพื่อที่จะเตือนว่าห้ามยุ่งเรื่องของตนอีกไม่งั้นหมออัคนีเ
จอดีแน่ๆๆๆๆๆ

user posted image

สีหน้าหมออัคนี..เรียบเฉย..ไม่กลัวเจ้าแม่แม้แต่น้อย

user posted image

เจ้าโคมคำเห้นบัวผันออกไปดึกๆดื่นๆก็รู้สึกแปลกจัย
...
user posted image

ลุงเชียงหล้าหั้ยหมออัคนีดูหนังสือเกี่ยวกับเมืองลับแล

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันมาหาหมออัคนี..โดยอ้างว่าแม่บุญเรือนไม่สบายมากหั้ยหมอช่วยไปดูหน่อย

user posted image

user posted image

ลุงเชียงหล้า..เป็นห่วงหมออัคนี..ที่ออกไปกับบัวผันค่ำๆมืดๆๆๆๆ..ลุงเชียงหล้าหั้ยตะกรุดหมอติดตัวไปด้วย..หมอก้ไม่ยอมรับ

user posted image

http://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=66775&st=120

 

ผีพลายมาหลอกสมัย น้าจันดี ลุงเชียงหล้า ..เพื่อที่จะขัดขวางไม่หั้ยไปช่วยหมออัคนีได้ทัน..

user posted image

ผีพรายโดนตะกรุดปลุกเสกของลุงเชียงหล้า..จนต้องล่าถอยไป..ส่วนสมัยกลัวจนฉี่ราดเลย 

 



user posted image

เจ้าแม่ทอหุกในร่างบัวผันเริ่มลวนลามหมออัคนีแล้ว..

emotion_087.gif



user posted image

แต่หมออัคนีไม่เล่นด้วย..หมออัคนีรังเกียจบัวผันหรอจ๊ะ..ผมไม่ได้รังเกียจบัวผัน..แค่คิดว่าเธอจะไม่ใช่บัวผัน..

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกเริ่มทำหั้ยชาวบ้านเข้าจัยบัวผันผิดคิดว่าบัวผันเป้นภูตแม่น้ำโขงตัวจริ
ง..

user posted image

หมออัคนียิ่งดุยิ่งหล่อ......

user posted image

หมออัคนี..เอาตะกรุดจากลุงเชียงหล้าเพื่อที่จะสวมหั้ยบัวผัน..แต่เจ้าแม่ทอหุกออกจากร่างบัวผันไปก่อง..จึงทำหั้ยบัวผันใส่ตะกรุดแล้วก้เลยรู้สึกเฉยๆๆๆๆๆๆๆๆ..พอได้สติ.บัวผันเห้นเลือดตามร่างกายตัวเอง.ก้เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น.สมัยชูซากไก่ที่บัวผันจับกินโชว์ขึ้น..ทำหั้ยบัวผันช็อคถึงกับเป้นลม

user posted image

หมออัคนีก็เลยพาบัวผันมาพักฟื้นที่บ้านลุงเชียงหล้า..ถ้าพาบัวผันไปส่งที่บ้านเกรงว่าน้าบุญเรือนจะช็อคไปอีกคน

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกในร่างหญิงสาวสวยเข้าฝันหมออัคนี.. โดยบอกอัคนีว่าชาติที่แล้วอัคนีเป็นท่านปุโรหิตและเป็นคู่สยุมพรกับภูตแม่น้ำโขงดังน
ั้นภูตแม่น้ำโขงจึงไม่พอจัยที่หมออัคนีมีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต.โดยทอหูกบอกว่าพรุ่งนี้ท่านจะเจอผู้หญิงนางหนึ่ง..แล้วผุ้หญิงนางนั้นจะเป็นคนบอกท่านว่าภูตแม่น้ำโขงคือใคร..

user posted image

user posted image

หลังจากที่ช่วยบัวผันมาจากชาวบ้านได้แล้ว..อัคนีก็พาบัวผันไปหาหลวงพ่อจูม

user posted image

user posted image

ส่วนเจ้าแม่ทอหูกก้มาเล่นงาน.กำนันเล้ง หมออุ่นเงิน เจ้าวรวงษ์..ที่โลภมากคิดจะขโมยสมบัติในพระธาตุขุนหลวง...

user posted image

user posted image

หมออัคนีพาเจ้าโคมคำมาหาหมออุ่นเงินที่โรงแรม..แล้วก้ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือก็วิ่งไปดุ..เจอพวกเจ้าวรวงษ์..

user posted image

เจ้าโคมคำสั่งหั้ยหมออุ่นเงินกับเจ้าวรวงษ์กลับกทม.แต่หมออุ่นเงินไม่ยอมกลับ..แล้วก้ต่อว่าเจ้าว่าที่มาที่นี้ก็เพื่อหมออัคนี....

user posted image

หมออัคนีนึกถึงกับพูดเจ้าทอหูกที่ว่าหญิงคนไหนที่มาเข้าใกล้ตนจะได้รับความเดือดร้อน
....

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกปลอมตัวเป้นบัวผันเพื่อที่จะมาถามเจ้าโคมคำว่ารู้จักกับหมออัคนี..ได้ยังงัย

user posted image

เจ้าโคมคำบอกว่าเป็นแค่พี่น้องกัน..แล้วก้ยังย้ำว่าหมออัคนีเป็นห่วงบัวผันมาก..ซึ่งเจ้าไม่เคยเห็นหมออัคนีเป้นห่วงหญิงสาวคนไหนมากเท่าบัวผัน..เจ้าแม่ทอหูกได้ฟังแล้วก้รู้สึกโกรธ

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกเลยเล่นงานเจ้าโคมคำ..โดยหั้ยเจ้าเข้าจัยว่าบัวผันที่แท้ก็เป็นภูตผีแม่น้ำโขง..ซึ่งก็สำเร็จ.เจ้าเชื่ออย่างจัง

user posted image

user posted image

ลางร้ายมาเยือนแล้ว

user posted image

เจ้าโคมคำสลบเนื่องจากเจอผีบัวผันเข้า..พอตื่นขึ้นมาเห็นบัวผันก็เกิดอาการกลัว..แล้วเจ้าก็บอกกับทุกคนว่าที่แท้บัวผันก็คือภูตแม่น้ำโขง

user posted image

หมออัคนีไม่เชื่อ..

user posted image

น่าสงสารบัวผันจัง..คนไม่ได้ทำก็กล่าวหาว่าทำ...

user posted image

เจ้าแม่ทอหูกเลยเล่นงานเจ้าโคมคำ..โดยหั้ยเจ้าเข้าจัยว่าบัวผันที่แท้ก็เป็นภูตผีแม่น้ำโขง..ซึ่งก็สำเร็จ.เจ้าเชื่ออย่างจัง

user posted image

user posted image

ลางร้ายมาเยือนแล้ว

user posted image

เจ้าโคมคำสลบเนื่องจากเจอผีบัวผันเข้า..พอตื่นขึ้นมาเห็นบัวผันก็เกิดอาการกลัว..แล้วเจ้าก็บอกกับทุกคนว่าที่แท้บัวผันก็คือภูตแม่น้ำโขง

user posted image

หมออัคนีไม่เชื่อ..

user posted image

น่าสงสารบัวผันจัง..คนไม่ได้ทำก็กล่าวหาว่าทำ...

user posted image

 เป็นเรื่องราวของ “เจ้าแม่ทอหูก” อสุรกายภูตแม่น้ำโขงผู้ยิ่งใหญ่ สามารถ

แปลงร่างได้มากมายหลายรูปแบบทั้งสวยงามและน่ากลัว       จิตใจเต็มไปด้วย
ความเร่าร้อนพยาบาท   เพราะมัวเมาอยู่ในความรักความหลงที่มีต่อปุโรหิตหนุ่ม
รูปงาม ถึงขั้นทำร้ายฆ่าได้แม้กระทั่ง “เจ้านางน้อย” น้องสาวของตนที่เป็นมาร
ความรัก และถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปีแค่     ไหนเจ้าแม่ทอหูกก็ไม่อาจ
ละทิ้งกิเลสได้

      เจ้าแม่ทอหูกจึงตามปุโรหิตมาทุกภพทุกชาติ  เพื่อทวงถามความรักของเธอ
และปุโรหิตรูปงามก็ได้มาเกิดชาติภพนี้คือ  “หมออัคนี”    และมีความสนใจใน
ความเชื่อและประเพณีท้องถิ่น    จึงเดินทางมาที่นครพนมเพื่อทำวิจัยเรื่องความ
เชื่อแต่การมาของหมออัคนี   นอกจากจะพบความลี้ลับเหนือธรรมชาติมากมาย
แล้ว เขาก็ยังได้พบ “บัวผัน”   ในอดีตก็คือเจ้านางน้อยหญิงคนรักของตน และ
เพียงแรกพบ  ทั้งสองก็ตกหลุมรักกันและกัน ทำให้เจ้าแม่ทอหูกโกรธมากจึงได้
อาศัยผลกรรมที่เจ้านางน้อยเคยทำกับตนไว้เข้าสิงบัวผัน    จนบัวผันที่เป็นเพียง
หญิงสาวชาวบ้าน ธรรมดาถูกกล่าวหาว่าเป็นภูตแม่น้ำโขง

เรื่องย่อ
 มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเมื่อหมออัคนี มักจะฝันถึงผู้หญิงสาวสวยสองคน ในลักษณะที่นางหนึ่งเต็มไปด้วยแรงแค้นพยาบาท ส่วนอีกนางหนึ่งสวยงามอ่อนหวาน  มีใจรักภักดีต่อหมออัคนี และที่สำคัญเหมือนหมออัคนีจะมีความผูกพันกับเธอมาก่อน
 หมออัคนีสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยรู้จักหญิงสาวทั้งสองคนแต่อย่างใด หมออัคนีรู้แค่ว่าจากสำเนียงการพูดจาและการแต่งตัว สองสาวน่าจะมีถิ่นกำเนิดมาทางลุ่มน้ำโขง
 พอดีมีเหตุให้หมออัคนี ต้องไปศึกษางาน ที่หมูบ้านริมโขง และที่นี่หมออัคนีได้เจอกับ บัวผัน แต่ไม่ทันได้พูดคุยกัน ก็มีเรื่องแปลกประหลาดเสียก่อน เมื่อจู่ๆบัวผันเกิดกินไข่ใบหนึ่งเข้าไป และหายไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน
 เวลาเดียวกันก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน ชาวบ้านเริ่มลือกันว่าบัวผันเป็นภูตแม่น้ำโขง เพราะเจ้าแม่ทอหูกอยากให้ทุกคนเข้าใจแบบนั้น โดยเฉพาะหมออัคนี หรือท่านปุโรหิตชายคนรักในอดีตของเจ้าแม่ ที่เจ้าแม่ปักใจแค้นเมื่ออดีตกาล ปุโรหิตไม่ยอมเข้าพิธีสยุมพร เพราะไปหลงรักเจ้านางน้อยหรือบัวผันในปัจจุบันนั่นเอง


 มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้หมออัคนีอยากจะพิสูจน์ให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ รวมถึงบัวผันเป็นภูตแม่น้ำโขงจริงหรือ เวลาเดียวกันเจ้าวรวงศ์ กับ หมออุ่นเงิน ซึ่งอยากให้สมบัติที่พระธาตุขุนหลวงของหมออัคนีก็ตามมาจะฆ่าหมออัคนี ที่เป็นเสี้ยนหนามหัวใจของหมออุ่นเงินด้วย เนื่องจากเข้าใจว่าเจ้านางโคมคำรักหมออัคนี
 เจ้าวรวงศ์กับหมออุ่นเงินยิงและผลักหมออัคนีจมน้ำโขง หมออัคนีได้มาเจอกับบัวผันที่นี่ หมออัคนีจะพาบัวผันหนี แต่เจ้าแม่ทอหูกมาขวางไว้ พระยาจันจะเข้ามาจับ แต่เจ้านางแก้มพิมพามาช่วยหมออัคนีไว้ได้
 หมออัคนีมาเล่าเรื่องที่ใต้บาดาลให้จันดี สมัย และเฒ่าเชียงหล้าฟัง ทุกคนตกใจมาก พอถึงวันสองแรม เจ้าแม่ทอหูกส่งบัวผันกลับมาเมืองมนุษย์ หมออัคนีรีบไปหาบัวผัน แล้วถามถึงเรื่องใต้บาดาล แต่บัวผันกลับจำอะไรไม่ได้ ยิ่งสร้างความประหลาดใจใหกับหมออัคนีอย่างมาก
 เจ้าแม่ทอหูกต้องการให้บัวผันถูกมองเป็นภูตแม่น้ำโขง จึงมาเข้าร่างบัวผันและทำร้ายชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านคิดจะเผาบัวผันทั้งเป็น แต่หมออัคนีก็มาห้ามและช่วยบัวผันเอาไว้อีก ยิ่งสร้างความเจ็บปวดและโกรธแค้นให้เจ้าแม่ทอหูก
 หมออัคนีเฝ้าสังเกตบัวผันมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งหมออัคนีที่มาดักดูพฤติกรรมบัวผัน มองเห็นบัวผันเดินล่องลอยออกไป จึงสะกดรอยตามไปพร้อมๆ กับจันดี และสมัย
 หมออัคนีได้มาที่เมืองบังบด และที่นี่หมออัคนีได้เห็นว่าบัวผันบอกทุกคนว่าตัวเองเป็นภูตแม่น้ำโขง ทั้งที่จริงนั่นเป็นเพียงเจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันเท่านั้น เจ้านางโคมคำตามมาที่เมืองบังบดด้วย แต่ถูกหลอกจนสลบไป
 เจ้าแม่ทอหูกในร่างสวยงามร้องขอความช่วยเหลือจากหมออัคนี แต่บัวผันที่ดุเหี้ยมเข้าขวาง และบอกว่าหมออัคนีต้องไปกับตน หมออัคนีเกือบเสียท่าแต่ดีที่ฟ้าสว่างเสียก่อน ภูตผี ค่อยๆหายไป หมออัคนีตื่นมาอีกทีก็ตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ป่าช้าไม่ใช่เมืองบังบดอะไรเลย
 หมออัคนีช็อคมากเมื่อรู้ว่าเจ้านางโคมคำเสียชีวิตแล้ว หมออัคนีเริ่มปักใจว่าเป็นฝีมือบัวผันจริงๆ จึงอยากจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยการท้าทายให้ภูตแม่น้ำโขงออกมา
 หมออัคนีถูกพามาที่ใต้บาดาล บัวผันเวลานี้ก็กลายเป็นครึ่งภูตครึ่งคนหลังดื่มเลือดเจ้าแม่ทอหูกเข้าไป เรื่องทุกอย่างยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อเจ้าแม่ทอหูกโกรธมากคิดจะฆ่าหมออัคนีเพื่อเอาดวงวิญญาณมาจองจำเอาไว้
 แต่แล้วกายทิพย์ของหลวงพ่อจูมมาช่วยเหลือบัวผัน และหมออัคนี เจ้าแม่ทอหูกโกรธมากแต่ก็ไม่สามารถต่อกรใดๆ กับผู้ทรงบารมีอย่างหลวงพ่อจูมได้ สุดท้ายแรงอาฆาตของเจ้าแม่ทอหูกก็พาให้ต้องไปชดใช้กรรมอย่างสาหัส
 หมออัคนีและบัวผันกลับมาที่เมืองมนุษย์ พร้อมๆ กับเรื่องเลวร้ายก็หายไปจากหมู่บ้าน บัวผันกับหมออัคนีได้ครองรักกัน เจ้าวรวงศ์ตัดสินใจออกบวชในที่สุด
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=331910

 

บัวผัน ชวน ทองมี เพื่อนรักกินข้าวกับไข่ประหลาดที่ได้มาจากริมแม่น้ำโขง แต่ทองมีปฏิเสธ บัวผันกินไข่แล้วเกิดกระหายน้ำอย่างแรง ต้องกระโดดลงเรือไปดื่มต่อกลางลำน้ำโขง ทองมีส่งเสียงให้คนช่วยจับบัวผัน ทิดเคน กระชากตัวบัวผันขึ้นจากน้ำ เธอตวาดเกรี้ยวกราดว่าเธอไม่ใช่บัวผัน และจมลงไปอยู่ใต้น้ำด้วยกัน

เฒ่าเชียงหล้า และชาวบ้านได้แต่ภาวนาขอให้พระพุทธรูปพระเจ้าองค์คำคุ้มครองให้ทั้งสองปลอดภัย ทิดเคนรอดมาได้จึงบอกชาวบ้านว่าบัวผันถูกจองจำอยู่ที่เมืองใต้น้ำ นายแพทย์อัคนี ได้เดินทางเข้ามาทำวิจัยเรื่อง จิตเวชชุมชน และเข้าร่วมในพิธีเข้าทรงของ นางเทียม ชื่อ คำแพง ผู้ที่จะบอกข่าวบัวผัน พร้อมกับ สมัย และชาวบ้านเพื่อบันทึกวิดีโอ

หมออุ่นเงิน ที่แต่งงานกับ เจ้านางโคมคำ อดีตคนรักของหมออัคนี และ เจ้าวรวงศ์ น้องชายของเจ้านาง ได้มาขอพบอัคนีเพื่อชวนไปดูพระธาตุประจำตระกูลที่พังลงมา เจ้าวรวงศ์คิดจะฆ่าอัคนีที่สลัดรักพี่สาว แต่แท้จริงแล้วอัคนีคิดกับเจ้านางโคมคำแค่น้องสาว เจ้าวรวงศ์กับหมออุ่นเงินวางยาพิษอัคนีแล้วทิ้งลงในแม่น้ำโขง

ทำให้อัคนีได้พบกับ พญาจันหัวจระเข้ และ เจ้าแม่ทอหูก ภูตแห่งแม่น้ำโขง ที่จับตัวบัวผันไป เพราะต้องการแก้แค้นที่ชาติก่อนบัวผันกับหมออัคนีแอบรักกัน ทั้งที่หมออัคนีเป็นคู่สยุมพรของตน เจ้าแม่ทอหูกพยายามจะขังอัคนีไว้อีกคน แต่อัคนีจำเรื่องราวในอดีตไมได้จึงหนีรอดกลับมา บุญเรือน โศกเศร้ามากที่บัวผันลูกสาวหายไป

และ หลวงพ่อจูม สามีก็บวชไม่สึก ไม่นานบัวผันก็กลับมาในสภาพที่ถูกเจ้าแม่ทอหูกสะกดจิต เจ้าแม่ทอหูกต้องการให้ทุกคนรวมทั้งหมออัคนีเข้าใจว่าบัวผันเป็นผี เพื่อจะได้เลิกรักบัวผันเสีย แต่หมออัคนีไม่ยอมเชื่อ และพยายามหาทางพิสูจน์ เจ้าแม่ทอหูกยิ่งเหิมเกริมหนัก พาบริวารออกไปอาละวาดฆ่าคน และจับหญิงสาวบริสุทธิ์ลงไปสังเวย

พร้อมกับป้ายความผิดให้กับบัวผัน จนชาวบ้านพยายามจะจับบัวผันเผาทั้งเป็น แต่หมออัคนีไปช่วยห้ามปรามไว้ เจ้าแม่ทอหูกจึงจับบัวผันลงไปใต้บาดาลอีกครั้ง และบังคับให้บัวผันดื่มเลือดของนาง จนบัวผันเริ่มมีสภาพครึ่งคนครึ่งภูต และดุร้ายขึ้นกว่าเดิม บัวผันกลายเป็นภูตกลับมาฆ่าคนเพิ่มขึ้น รวมถึงเจ้าวรวงศ์ที่พยายามจะเข้าไปขโมยสมบัติในพระธาตุอีกด้วย

เจ้าแม่ทอหูกสั่งให้บัวผันจับตัว จำปา หญิงสาวคนสุดท้ายไปสังเวยเพื่อตนจะได้เป็นอมตะ แต่หมออัคนีเข้าคล้องสร้อยที่คอของบัวผันไว้ จนกระทั่งบัวผันหมดฤทธิ์ ส่วนตัวเองก็ตามลงไปช่วยจำปาที่ใต้บาดาล และพบความจริงว่าที่แท้แล้ว เจ้าแม่ทอหูกเองต่างหากที่เป็นภูตแม่น้ำโขง หมออัคนีรีบกลับขึ้นมารวมกับหลวงพ่อจูม

และชาวบ้านสวดอธิษฐานจนวันเพ็ญเดือนสิบ ที่ประตูสามภพเปิดออก เจ้าแม่ทอหูกพยายามตั้งพิธีบูชายัญจำปาเข้าสู้ แต่วิญญาณของคนที่เจ้าแม่ทอหูกฆ่าตายถูกพระยายมปลดปล่อยออกมา เข้ามาช่วยมนุษย์จัดการกับเจ้าแม่ทอหูก จนในที่สุดเจ้าแม่ทอหูกก็อ่อนแรงและหมดฤทธิ์ลง พร้อมๆ กับเมืองบาดาลที่ถูกทำลายลงไปด้วย

20 ปีผ่านไป หมออัคนีกับบัวผันแต่งงานกัน และให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ใบบัว ซึ่งหน้าตาเหมือนบัวผันไม่ผิดเพี้ยน ใบบัวเดินทางมายังนครพนมเพื่อเยี่ยมเยียนบุญเรือน และเผลอออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ จนพบไข่ขนาดใหญ่วางอยู่ โดยไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวทุกอย่าง อยู่ในสายตาอำมหิตของเจ้าแม่ทอหูก ภูตแม่น้ำโขงที่ไม่มีวันถูกกำจัดไปง่ายๆ

ทางด้านหมออัคนีต้องการพิสูจน์ว่าบัวผันเป็นตัวจริงหรือเปล่าเลยตามไปในหมู่บ้านลับแลและก็ได้พูดคุยกัน มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในป่าช้า จึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมและได้รับจดหมายจากเจ้านางโคมคำฝากไว้เพื่อขอพบ หมออัคนีไปเจอเจ้านางโคมคำเพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ หลังจากนั้น หนานหล้า (ทองขาว ภัทรโชคชัย) เอาจดหมายที่มีข้อควมสั้นๆ จากสัปเหร่อหนูที่มีข่าวด่วนให้มาพบที่ป่าช้า หมออัคนีจึงสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา แต่เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพา ไหมสี (สิชา ศรีทองสุข) ไปหาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤาษี พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก แต่หมออัคนีไม่ถอดเพราะพระภิกษุให้สวมไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายตลอดชีวิต เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันก็ช่วยเสริมแกมบังคับ หมออัคนีจึงยอมถอดและโยนทิ้งลงไปในสระน้ำไฟจึงลุกขึ้น พ่อปู่โกรธมากที่มาทำลายบ่อเพลิงกรดศักดิ์สิทธิ์ พ่อปู่จึงสั่งให้เจ้าแม่ทอหูกโยนหมออัคนีลงสระไฟกรด

หมออัคนีรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บัวผัน จึงดิ้นสุดแรงทำให้เจ้าแม่ทอหูกพลัดตกลงไปในสระไฟกรดแทน ซึ่งจริงๆ แล้วคนที่ตายก็คือบัวผันนั่นเอง แต่สุดท้ายบัวผันก็ฟื้นขึ้นมาใหม่เพราะหลวงพ่อจูมมาช่วยไว้ หลวงพ่อจูมปรากฏกายทิพย์ออกมาเพื่อช่วยทั้งหมดเอาไว้ได้สำเร็จ สุดท้ายเจ้าแม่ทอหูกก็ต้องไปเวรกรรมที่สร้างไว้กับผู้อื่น ต่อมาหมออัคนีพาบัวผันกลับมาที่เมืองมนุษย์ ชาวบ้านรู้ความจริงทั้งหมดก็มั่นใจแล้วว่าเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ผ่านมาไม่ใช่ฝีมือบัวผัน หมออัคนีกับบัวผันได้ครองรักกันสมกับที่รอคอยกันมานาน ขณะเดียวกันหมออุ่นเงินกับเจ้านางโคมคำก็ปรับความเข้าใจและครองรักกันเช่นกัน ส่วนเจ้าวรวงศ์ตัดสินใจออกบวชในที่สุด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท