งบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน
1. ความนำ
การปฏิรูประบบบริหารงานภาครัฐกำลังเป็นประเด็นที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ ให้ความสนใจมาก เนื่องจากความตื่นตัวในการับรู้ข่าวสารของประชาชนทั่วโลก มีผลทำให้ความต้องการบริหารเพื่อประชาชนได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น ประกอบกับหลายประเทศต่างประสบภาวะวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความหย่อยยาน ประสิทธิภาพของกลไกการบริหารบ้านเมือง การบริหารราชการ การกำหนดนโยบายสาธารณะ และการทุจริตมิประพฤติชอบในวงราชการ สภาพดังกล่าวเป็นภาพฉายที่เด่นชัดของประเทศที่ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่มีความรุนแรงและอัตราเร่งที่สูงมาก ดังจะเห็นได้จากศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยที่มีแนวโน้มลดลงทุกปี จากลำดับที่ 38 ในปี 2543 เป็น 44 ในปี 2544 ตามลำดับ รัฐบาลจึงปรับกลยุทธ์การบริหารงานภาครัฐใหม่ ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นผลงานหรือผลสัมฤทธิ์ (Result Based Management)เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยภาครัฐให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น ความคุ้มค่าเป็นรูปธรรมและได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอันเป็นการสร้างศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการแข่งขันบนเวทีโลก
2. การปฏิรูประบบบริหารภาครัฐ
รัฐบาลได้มีการปฏิรูประบบราชการและระบบบริหารภาครัฐโดยใช้การบริหารที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ หรือผลงานหลัก (Result Based Management : RBM) โดยใช้ระบบประเมินผลงานที่อาศัยตัวชี้วัดเป็นตัวสะท้อนผลงานให้ออกมาเป็นรูปธรรม ซึ่งผลการประเมินนี้จะนำมาใช้ในการตอบคำถาม ถึงความคุ้มค่าในการทำงาน ใช้แสดงผลงานต่อสาธารณะและเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ผลสัมฤทธิ์ในความหมายของ RBM ประกอบไปด้วยผลผลิตและผลลัพธ์
จากแนวคิด RBM แสดงให้เห็นว่าการบริหารนั้นครอบคลุมไปถึงการบริหารงานหลายเรื่อง เริ่มตั้งแต่การวัดผลการปฏิบัติงาน (Performance Measurement) ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจในการบริหารลักษณะนี้ เพราะหากเราไม่สามารถวัดผลงานได้ เราก็ไม่สามารถปรับปรุงให้เกิดผลงานที่ดีขึ้นได้ การเทียบงาน (Benchmarking) เป็นการปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ของงานและกระบวนการทำงานโดยเทียบวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) คุณภาพการให้บริการ (Service Quality) เป็นการยกระดับคุณภาพของการบริการให้ผู้รับบริการพอใจ การตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน (performance Auditing) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความถูกต้องของข้อมูล การประเมินผลโครงการ (Program Evaluation) เป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของโครงการ และยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดและผลสัมฤทธิ์ การมอบอำนาจและให้อิสระในการทำงาน (Devolution and Autonomy) เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับกลางและระดับต้นทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันเวลา
การนำแนวคิด RBM ไปสู่การปฏิบัติ สำนักคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักได้จัดทำแผนการปฏิรูประบบบริหารภาครัฐ พ.ศ. 2540-2544 ขึ้น เพื่อเป็นกลไกปฏิรูประบบราชการอย่างเป็นรูปธรรมอันประกอบไปด้วย
2.1 แผนการปรับเปลี่ยน บทบาท ภารกิจและวิธีการบริหารงานภาครัฐ
มุ่งเน้นให้ภาครัฐมีทิศทางในการปรับบทบาท ภารกิจการบริหารงาน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่มั่นคง รวมทั้งสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามรถของประเทศให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้
2.2 แผนการปรับเปลี่ยนระบบงานงบประมาณการเงินและการพัสดุ
มุ่งเน้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนระบบการจัดการงบประมาณของประเทศเป็นระบบการจัดทำงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการบริหารงานด้านต่างๆของภาครัฐบาลที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ของการทำงานเป็นหลักรวมทั้งการพัฒนาระบบบัญชีการเงินภาครัฐและระบบการบริหารพัสดุ
2.3 แผนการปรับเปลี่ยนระบบบริหารบุคคล
มุ่งเน้นการบริหารแนวใหม่ โดยจัดทำแผนงาน สร้างระบบบริหารบุคคล จัดทำแผนงานสร้างระบบนักบริหารระดับสูง และผู้นำสำหรับอนาคต รวมทั้งปรับขนาดกำลังคนภาครัฐให้มีขนาดเหมาะสมกับภารกิจที่ต้องปฏิบัติ
2.4 แผนการปรับเปลี่ยนกฎหมาย
มุ่งเน้นให้กฎหมายมีความทันสมัยและสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ตรงตามข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม
2.5 แผนการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมและค่านิยมในการบริหารงานภาครัฐ
มุ่งสร้างวัฒนธรรมการทำงานในภาครัฐที่เน้นความสุจริต ขยัน อดทน มีความรับผิดชอบสูง มุ่งมั่นสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนและส่วนรวม
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากแผนการปฏิรูประบบบริหารภาครัฐทั้ง 5 แผน คือประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับความสะดวกจากระบบราชการ เพื่อให้การดำเนินงานในครั้งนี้บรรลุตามเจตนารมณ์ รัฐบาลได้กำหนดมาตรการให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนปฏิบัติงานให้ตอบสนอง วัตถุประสงค์โดยทบทวนบทบาท ภารกิจ ลดตัดทอนภารกิจที่ซ้ำซ้อน ปรับปรุงรูปแบบขั้นตอนวิธีทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนค่าใช่จ่ายในการดำเนินงาน อันจะส่งผลให้หน่วยงานมีผลงานเป็นรูปธรรม มีพันธกิจที่ชัดเจน มีแผนกลยุทธ์ เป้าหมาย ผลการทำงานที่สอดคล้องกับพันธกิจ ใช้งบประมาณคุ้มค่าภาษี ประชาชนมีระบบบัญชีที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้เป็นที่ยอมรับของประชาชน มีขั้นตอนการทำงานที่สั้นเรียบง่ายและโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
3. การเปรียบเทียบการจัดทำงบประมาณระบบเดิมและระบบใหม่
คุณลักษณะ |
การจัดทำงบประมาณระบบเดิม |
การจัดทำงบประมาณระบบใหม่ |
|
- องค์กรภาครัฐได้รับการจัดสรรงบประมาณตามโครงสร้าง แผนงาน/งาน/โครงการ จำแนกประเภทรายจ่าย 7 หมวด 1. เงินเดือนและค่าจ้างประจำ 2. ค่าจ้างชั่วคราว 3. ค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ 4. ค่าสาธารณูปโภค 5.ค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง 6. เงินอุดหนุน 7. รายจ่ายอื่นๆ |
- องค์กรภาครัฐได้รับการจัดสรรงบประมาณตามแผนงานแบบวงเงินแบ่งเป็น 4 งบ ได้แก่ 1. งบบุคลากร 2. งบดำเนินงาน 3. งบลงทุน 4. งบอุดหนุน |
- กำหนดให้มีเงินประจำงวด 3 งวด งวดละ 4 เดือน |
- กำหนดให้มีเงินประจำงวด 4 งวด งวดละ 3 เดือน - ให้ความสำคัญกับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินสด |
|
- มีรายงานการใช้จ่ายเงินในรูปกระแสเงินสดโดยองค์กรภาครัฐ - มีรายงานของสถานการณ์ใช้จ่ายเงินของประเทศ จัดทำโดยกรมบัญชีกลาง |
- องค์ภาครัฐรายงานทางการเงินในรูปงบดุล งบกระแสเงินสด และงบกำไรขาดทุน |
คุณลักษณะ |
การจัดทำงบประมาณระบบเดิม |
การจดทำงบประมาณระบบใหม่ |
|
- รายงานผลการดำเนินการ แสดงผลการใช้จ่ายเงิน งบประมาณเบิกจ่ายจริงโดยองค์กรภาครัฐใช้แบบฟอร์มสำนักงบประมาณ |
- รายงานผลการดำเนินงานประกอบด้วยผลผลิต/ผลลัพธ์ที่คาดหวังเปรียบเทียบกับตัวชี้วัดผลผลิต/ผลลัพธ์จริง |
- รายงานผลการดำเนินงานองค์กรภาครัฐต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน |
|
|
2. บทบาทของสำนักงบประมาณ |
- ควบคุม |
- กำกับดูแล |
3. ขั้นตอนสำคัญในกระบวนการงบประมาณ |
- การบริหารงบประมาณ |
- การวางแผนและการติดตามประเมินผล |
4. เครื่องมือ |
- พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง |
- มาตรฐานการจัดการทางการเงิน 7 Hurdles 1. การวางแผนงบประมาณ 2. การคำนวณต้นทุนการผลิต 3. การจัดระบบการจัดซื้อจัดจ้าง 4. การบริหารทางการเงินและควบคุมงบประมาณ 5. การบริหารสินทรัพย์ 6. การรายงานทางการเงินและผลการดำเนินการ 7. การตรวจสอบภายใน |
คุณลักษณะ |
การจัดทำงบประมารระบบเดิม |
การจัดทำงบประมาณระบบใหม่ |
|
- ระบบการอนุมัติเงินประจำงวด - ราคามาตรฐาน |
- การมอบอำนาจและการกระจายอำนาจการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ |
5.ข้อมูลสารสนเทศ |
- วัตถุประสงค์ - รายละเอียดการใช้จ่ายตามรายการ |
- วัตถุประสงค์ - ผลลัพธ์ - ผลผลิต - กิจกรรม - ผู้รับผิดชอบ |
งบประมาณระบบใหม่ ก็คือ ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน (Performance based budgeting) ซึ่งก็หมายถึงระบบงบประมาณที่ความสำคัญกับการกำหนดพันธกิจ (Mission) ขององค์กร เป้าหมาย และวัตถุประสงค์ กลยุทธ์ แผนงาน งาน/โครงงาน อย่างเป็นระบบ มีการติดตามและประเมินผลสม่ำเสมอ เพื่อวัดผลสำเร็จของงาน เป็นระบบที่เชื่อมโยงการบริหารจัดการทรัพยากร การเงิน และพัสดุที่สะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จของงานหรือพันธกิจต่างๆ ขององค์กร หรือของรัฐภายใต้ระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองแสะสังคมที่ดี ที่เรียกว่าหลักธรรมภิบาล (Good Governance) ซึ่งประกอบด้วย
1) การมีส่วนร่วม (Participation)
2) นิต
ไม่มีความเห็น