6 ปี กับการปฏิรูปการศึกษา
ปฏิรูปการศึกษาผ่านมาเป็นเวลา 6 ปีเศษ ประชาชน นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ได้อะไรบ้างจากการปฏิรูป นอกจากสภาพปัญหาที่ค่อนข้างจะวิกฤติเกี่ยวกับคุณภาพการเรียนการสอน ปัญหา สังคมที่ฟอนแฟะ โดยเฉพาะคุณธรรมจริยธรรม สภาพปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล้วนแล้วผู้ที่ตกเป็นจำเลยคือ “การศึกษา”
จากการไปร่วมประชุมเสนอความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมของการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งจัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้สภาพมาโดยสรุปที่เกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา 5 ประเด็นคือ
1. ด้านสิทธิและโอกาสทางการศึกษา
จากเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษา ทำให้คนไทยในปีการศึกษา 2547 ได้รับการศึกษาถึงระดับชั้นปีที่ 8.1 (โดยเฉลี่ย) แรงงานไทยโดยเฉลี่ยได้รับการศึกษาในระดับมัธยม ร้อยละ 37.7
2. ด้านปฏิรูปการเรียนการสอน
การปฏิรูปการเรียน เป็นหัวใจสำคัญที่มุ่งให้คนคิดเป็น ทำได้ เป็นคนดี คนเก่งและเรียนรู้อย่างมีความสุข ค้นพบว่า ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนเพิ่มขึ้น แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยภาพรวมยังอยู่ในระดับต้องปรับปรุง เช่น ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และทักษะการคิดวิเคราะห์ เป็นต้น แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องควรแก้ไขปรับปรุง ได้แก่ หลักสูตรกระบวนการคิดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน การวัดและประเมินผลที่ยังไม่เอื้อต่อสภาพจริง
3. การผลิตและพัฒนาครู
ครูเป็นหัวใจสำคัญที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่จากสภาพปัจจุบันระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องยังล่าช้า แก้ปัญหาไม่ตรงประเด็น ความล่าช้า ความไม่เข้าใจ ไม่สนใจในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพความลังเลเกี่ยวกับนโยบาย ความไม่ชัดเจน ไม่แน่นอนเกี่ยวกับระบบการผลิตครู 5 ปี มากน้อยเกินไปไหม เป็นต้น
4. การบริหารจัดการ
หลักการจัดระบบการบริหารจัดการ คือ ความมีเอกภาพด้านนโยบายและให้มีความหลากหลายในการปฏิบัติ มีการกระจายอำนาจตามลำดับ แต่จากการปฏิบัติที่ไม่ลงตัวของโครงสร้างทุกระดับ การแบ่งส่วนภารกิจ การติดยึดอำนาจ การหวงแหนอาณาจักร ความไม่ลงตัวในการวางตัวบุคคลในทุกระดับบริหาร จึงส่งผลให้การติดต่อประสาน การดำเนินงาน ระหว่างประชาชนกับราชการติดขัดไม่สนองความต้องการได้ตรงกัน
5. การมีส่วนร่วมการจัดการศึกษาขององค์กรต่าง ๆ
จากข้อค้นพบ พบว่าการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของภาคเอกชนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มภาระการจัดการศึกษามากขึ้น แต่ยังวนเวียนโต้แย้งกันเกี่ยวกับการถ่ายโอนโรงเรียนเพียงประเด็นเดียว เป็นเหตุให้เกิดปัญหาในการเชื่อมโยง หรือการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาที่แท้จริง และองค์กรทางสังคมของพื้นที่ยังไม่ให้ความสำคัญตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เป็นต้น
จากข้อเท็จจริงที่ค้นพบ ในฐานะที่เป็นคนของรัฐ รับเงินเดือนซึ่งได้จากภาษีอากรของประชาชน สิ่งซึ่งน่าจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนให้บรรลุผลตามยุทธศาสตร์การบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล ต้องการปรับกระบวนทัศน์เสียใหม่ คิดอย่างคนยุคใหม่ ทำงานอย่างคนยุคใหม่ ที่มีจิตใจคิดเพื่อส่วนรวมมากกว่าคิดเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อเพื่อนฝูง หากไม่รีบปรับเปลี่ยน แล้วเราจะ
ไม่มีแผ่นดินให้อยู่อาศัย ถึงมีอยู่แต่ไม่อาจก้าวทันโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วรุนแรงได้
ดร.สุรเสน ทั่งทอง
6 กันยายน 2548
ด้วยความเห็นใจอาชีพครูเพราะเติบโตมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะคุณแม่ที่เป็นครู...การปฏิรูปการศึกษาของเรา..พวกเราคงจะต้องช่วยกันทุกฝ่ายเท่าที่จะทำได้..ในชนบทก็มีศูนย์การเรียนรู้เกิดขึ้นมากมาย...เราจะเรียนรู้ไปเพื่ออะไร...เพื่อใคร..
ร่วมปฎิวัติการศึกษาเพื่อความเป็นไท