"พืชสมุนไพร" มีมากมาย
บางทีก็อาจจะเอาเปลือกของลำต้นมาใช้ประโยชน์ในการทำเป็นยาหรือบางชนิดก็เอาดอกมาทำเป็นยา
แต่บางอย่างอาจจะต้องใช้ใบก็ได้หรืออาจจะเอาส่วนของรากมาทำเป็นยาก็มีด้วยเหตุนี้เองการเลือกส่วนที่จะเอามาใช้ประโยชน์จึงมีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน
จะเก็บอย่างไรจึงจะถูกวิธีหรือทำให้คุณค่าทางยามากที่สุดไม่เสียหายสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเห็นจะได้แก่"ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บ
"พืชสมุนไพรเอามาเป็นยา"
นั้นเองการเก็บส่วนของพืชสมุนไพรเอามาทำเป็นยานั้นถ้าเก็บในระยะเวลาที่ไม่เหมาะก็มีผลต่อการออกฤทธิ์ในการรักษาโรคของสมุนไพรได้นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องช่วงเวลาในการเก็บยาเป็นสำคัญแล้ว ยังจะต้องคำนึงถึงว่าการเก็บยานั้นถูกต้องหรือไม่ ส่วนไหนของพืชใช้เป็นยารู้หรือเปล่าดินที่ปลูกพืชสมุนไพรอากาศ เป็นอย่างไรการเลือกเก็บส่วนที่เป็นยาอย่างถูกวิธีการนั้น จะมีผลอย่างมาก ต่อประสิทธิภาพของยาที่จะนำมารักษาโรคหากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป ปริมาณตัวยาที่มีอยู่ในสมุนไพรนั้นๆก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทำให้ยาที่ได้มานั้นไม่เกิดผลดีในการบำบัดรักษาโรคได้เท่าที่ควร |
|||||||||
หลักการโดยทั่วไปในการเก็บส่วนของพืชสมุนไพร
แบ่งออกได้ดังนี้ » |
|||||||||
1.เก็บรากหรือหัว |
|||||||||
สมควรเก็บในช่วงเวลาที่พืชหยุดการเจริญเติบโต ใบ ดอก ร่วงหมดแล้วหรือในช่วงต้นฤดูหนาวถึงปลายฤดูร้อนเพราะเหตุว่าในช่วงเวลานี้รากและหัวมีการสะสมปริมาณตัวยาเอาไว้ค่อนข้างสูง วิธีการเก็บก็จะต้องใช้วิธีขุดด้วยความระมัดระวังให้มาก อย่าให้รากหรือหัวเกิดการเสียหายแตกช้ำหักขาดขึ้นได้รากหรือหัวของพืชสมุนไพรก็มี ข่า กรชาย กระทือขิง เป็นต้น | |||||||||
2.ประเภทใบหรือเก็บทั้งต้น |
|||||||||
ควรจะเก็บใบที่เจริญเติบโตมากที่สุด หรือพืชบางอย่างอาจระบุช่วงเวลาเก็บอย่างชัดเจนเก็บใบอ่อนหรือไม่แก่เกินไป เก็บช่วงดอกหรือบานหรือช่วงเวลาที่ดอกบาน เป็นต้นการกำหนดช่วงเวลาที่เก็บใบเพราะช่วงเวลานั้น ในใบมีตัวยามากที่สุด วิธีการเก็บก็ใช้วิธีเด็ดตัวอย่างเช่น ใบกระเพรา ใบฝรั่ง ใบฟ้าทะลาย เป็นต้น | |||||||||
3.ประเภทเปลือกต้นหรือเปลือกราก |
|||||||||
เปลือกต้นโดยมากเก็บช่วงฤดูร้อนต่อกับช่วงฤดูฝน
ประมาณยาในพืชสมุนไพรมีสูงและลอกออกได้ง่าย สะดวก
ในการลอกเปลือกต้นนั้นอย่าลอกเปลือกออกทั้งรอบต้น
เพราจะกระทบกระเทือนในการส่งลำเลียงอาหารของพืชจะทำให้ตายได้ทางที่ดีควรลอกเปลือกกิ่งหรือส่วนที่เป็นแขน่งย่อย
ไม่ควรลอกออกจากล้าต้นใหญ่ของต้นไม้
หรือจะใช้วิธีลอกออกในลักษณะครึ่งวงกลมก็ได้
ส่วนเปลือกรากเก็บในช่วงฤดูฝน เหมาะมากที่สุด เนื่องจากการลอกเปลือกรากเป็นผลเสียต่อการเจริญเติบโต ของพืชควรสนใจวิธีการเก็บที่เหมาะสมจะดีกว่า |
|||||||||
4.ประเภทดอก |
|||||||||
โดยทั่วไปเก็บในช่วงดอกเริ่มบาน แต่บางชนิดเก็บในช่วงดอกตูม เช่น กานพลู เป็นต้น | |||||||||
5.ประเภทผลและเมล็ด |
|||||||||
พืชสมุนไพรบางอย่างอาจจะเก็บในช่วงที่ผลยังไม่สมบูรณ์หรือยังไม่สุกก็มีเช่น ฝรั่งเก็บเอาผลอ่อนมาเป็นยาแก้ท้องร่วง แต่โดยทั่วไปมักเก็บเมื่อผลแก่เต็มที่แล้ว ตัวอย่างเช่น มะแว้ต้น มะแว้งเครือ ดีปลี เมล็ดฟักทองเมล็ดชมเห็ดไทย เมล็ดสะแก เป็นต้น | |||||||||
คุณภาพและการรักษา
» |
|||||||||
คุณภาพของสมุนไพรที่จะใช้รักษาโรคได้ดีหรือไม่นั้น
สำคัญอยู่ที่ช่วงเวลาการเก็บสมุนไพรและวิธีการเก็บ
ยังมีปัจจัยอื่นๆ
ที่จะต้องคำนึงอีกอย่างก็คือพื้นดินที่ปลูกพืชสมุนไพร เช่น
ลำโพง ควรปลูกในพื้นดินที่เป็นด่างจะมีปริมาณตัวยาสูง สะระแหน่
หากปลูกในที่ดินทราย ปริมาณ น้ำมันหอมระเหยสูง และยังมีปัญหาทางด้านสภาพสิ่งแวดล้อมในการเจริญเติบโต และภูมิอากาศเป็นต้นสิ่งเหล่านี้ต่างก็มีผลต่อพืชสมุนไพรด้วยกันทั้งสิ้นจึงควรพิจารณาให้ดีในเรื่องนี้ด้วย เก็บพืชสมุนไพรให้ถูกต้อง เหมาะสม ในช่วงเวลาที่สมควรเก็บเก็บแล้วจะได้พืชสมุนไพรที่มีปริมาณของตัวยาสูง มีคุณค่า มีสรรพคุณทางยาดีมาก ดีกว่าเก็บในช่วงที่ไม่เหมาะสม
|
ไม่มีความเห็น