1. มีความเมตตากรุณา ใส่ใจในประโยชน์สุขช่วยเหลือ แก้ไข ทุ่มเทการจัดการเรียนรู้ให้ศิษย์เมื่อศิษย์มาปรึกษา ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเรียน
2. มีความประพฤติดี ประพฤติตนสมควรแก่ฐานะ เป็นที่พึงให้ความปลอดภัยและก่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ศิษย์ได้
3. มีความขยัน เป็นผู้ใฝ่รู้ ฝึกฝน ปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์
4. มีความสุภาพ เป็นผู้รู้จักใช้คำพูดแนะนำให้ได้ผล มีความสามารถในการอธิบาย สอน แนะนำหรือให้คำปรึกษาด้วยรูปแบบวิธีการที่เหมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ ได้เป็นอย่างดี
5. มีความอดทน อดทนต่อการรับฟัง ต่อการให้คำปรึกษา และการซักถามของผู้เรียน ไม่แสดงอาการเบื่อหน่าย ต่อการตอบคำถามของผู้เรียน
ครูดี มีคุณธรรม จริยธรรม ย่อมเป็นที่เคารพรักของศิษย์
และศิษย์จะศรัทธามากยิ่งขึ้น หากครูเป็น คนเก่ง ด้วย
1. คิดค้นวิธีการสอนใหม่ ๆ อยู่เสมอ ใช้วิธีการสอนให้ผู้เรียนรู้จักคิดหาทนทางสร้างความรู้ด้วยตนเอง ครูเป็นเพียงผู้ชี้แนวทาง การนำความรู้จากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ต่อไปได้หรือสอนให้ผู้เรียนรู้วิธีการเรียนรู้ คิดหาความรู้ด้วยตนเอง เกิดความคิดอย่างหลากหลายและคิดหาความรู้ด้วย
2. วางแผนจัดการเรียนการสอน โดยให้ความสำคัญกับผู้เรียนเป็นรายบุคคล ทำความเข้าใจกับผู้เรียนและเชื่อว่าผู้เรียนทุกคนพัฒนาได้ด้วยการเรียนรู้จากกระบวนการศึกษาที่ผู้เรียน เรียนรู้ และปฏิบัติดีจริงด้วยตนเอง
3. มีความรู้และทักษะอย่างดี ในสาระการเรียนรู้ที่สอน มีความรู้ความเข้าใจในขอบข่าย สาระการเรียนรู้ที่จะสอนอย่างท่องแท้ สามารถบูรณาการภายในกลุ่มวิชาและระหว่างกลุ่มวิชาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ตามสภาพความเป็นจริงและสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตในสังคม
4. มีความสามารถในการสร้างและพัฒนาหลักสูตรในห้องเรียน มีความรู้และทักษะในการนำสาระการเรียนรู้ที่จำเป็นและตรงตามความต้องการของผู้เรียนมาสร้าง เป็นหลักสูตรในห้องเรียนของตนเองได้
ครูจะพัฒนาคนและพัฒนาตนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ครูต้องมีบทบาทที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1. ครูในฐานะนักการสอน
2. ครูฐานะนักพัฒนาหลักสูตร
3. ครูฐานะนักวิจัย
ซึ่งบทบาทของครูทั้ง 3 ประการ ดังกล่าว มีความสัมพันธ์และต้องดำเนินไปพร้อม ๆ กันกล่าวคือ ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครูสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน รวมทั้งปัญหา ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วทำการปรับปรุงแก้ไขในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านผลสัมฤทธิ์ ด้านพฤติกรรม ผู้เรียน ด้านบรรยากาศการเรียนการสอน
เมื่อใดที่ครูวางแผนการสอน นำแผนการสอนไปปฏิบัติ และนำข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน การกระทำเช่นนี้เป็นบทบาทนักการสอน นักพัฒนาหลักสูตร และนักวิจัย
การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัย เป็นแนวทางที่จะพัฒนาคนให้เกิดปัญญารู้รอบและรู้สึก ครูผู้สอนและผู้เรียนอาจจะต้องเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย
วางแผนการจัดการเรียนรู้(วิเคราะห์ผู้เรียน/ออกแบบแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้) |
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประเมินผล/ปรับปรุงแก้ไข |
ประเมินผลการเรียนรู้ (วิเคราะห์สรุปผล) |
จัดทำรายงานผลการเรียนรู้ (ด้วยเอกสาร/สื่อ) |
พบปัญหามาก/รุนแรง |
การทำวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ |
วิเคราะห์ปัญหา กำหนดนวัตกรรม วางแผนแก้ปัญหา/พัฒนา |
จัดกิจกรรมแก้ปัญหา/พัฒนา |
เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ผล สรุปผลการแก้ปัญหา/พัฒนา |
1.1 การวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ เป็นการวิเคราะห์คำอธิบายรายวิชาตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร แล้วเขียนเป็นแผนที่ความคิด (Mind Mapping) เพื่อแสดงภาพรวมเป็นโครงสร้างของสาระการเรียนรู้
1.2 การกำหนดสาระสำคัญของการเรียนรู้ เป็นการพิจารณาจากแผนที่ความคิดที่เป็น หัวเรื่องหลัก (Main Topic) และหัวเรื่องรอง (Sub Topic) แล้วนำมาเขียนเป็นข้อความที่เรียบเรียงมาจากลักษณะเด่นของเนื้อหาที่เป็นหัวเรื่องหลักหรือหัวเรื่องรองให้สั้นกะทัดรัด มีความหมาย ชัดเจน และเหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน หากมีหัวเรื่องหลักและหัวเรื่องรองหลายหัวข้อ ควรแยกเขียนสาระสำคัญของการเรียนรู้เป็นข้อ ๆ ด้วย
1.3 การกำหนดผลการเรียนรู้ เป็นการเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดกับ ผู้เรียน ซึ่งควรจะครอบคลุมผลการเรียนรู้ทางด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
1.4 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ เป็นการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สอดคล้องกับสาระสำคัญของการเรียนรู้ และตรงตามผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้
การออกแบบการจัดการเรียนรู้ จะต้องคำนึงถึงผู้เรียนเป็นศูนย์กลางมุ่งเน้นกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างมีความหมาย เหมาะสมกับผู้เรียนใกล้เคียงกับสภาพชีวิตจริงของผู้เรียน มีความยืดหยุ่น หลากหลาย เช่น การเรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง การเรียนรู้โดยการแก้ปัญหา การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problembased Learning) การเรียนรู้จากสภาพจริง การเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมการเรียนรู้โดยการค้นพบและสร้างความรู้เอง การเรียนรู้โดยใช้ทักษะกระบวนการ การเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่ม การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง การเรียนรู้โดยใช้พหุปัญญาและการเรียนรู้โดยการทำงานโครงงาน เป็นต้น
1.5 การออกแบบการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง เป็นการออกแบบวิธีการประเมินผล เครื่องมือวัดผล และแหล่งข้อมูลที่จะวัดและประเมินผลตามสภาพจริงให้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้หรือจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละข้อ
ขั้นตอนที่ 2 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควบคู่กับการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง ตามที่ได้มีการออกแบบจัดการเรียนรู้ไว้แล้ว
ขั้นตอนที่ 3 ประเมินผลการเรียนรู้ เป็นการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงควบคู่กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละครั้งจนครบทั้งหน่วยการเรียน โดยให้ผู้เรียนเป็นกลุ่มหรือรายบุคคลมีส่วนร่วมในการวัดประเมินผลตามสภาพจริงด้วย ผู้สอนจะต้องบันทึกผลการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นกลุ่มและรายบุคคลหลังจากจัดการเรียนรู้แต่ละครั้งเสร็จแล้วดังนั้นข้อมูลที่ได้จากการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง หลังจากการจัดการเรียนรู้ในครั้งใดครึ่งหนึ่งจบแล้วควรนำผลมาพิจารณา และปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ในครั้งต่อไปให้มีควาเหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่าแผนการจัดการเรียนรู้ ควรมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพการเรียนรู้ที่แท้จริงของผู้เรียน
การที่ครูที่ปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าครูได้นำกระบวนการวิจัยเข้ามาสู่การจัดการเรียนรู้แล้ว ขณะเดียวกันข้อมูลที่ครูได้จากขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนที่ 3 หากพบว่า นักเรียนไม่เกินการเรียนรู้ และ/หรือมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ย่อมไม่มีครูคนใดที่จะปล่อยให้เหตุการณ์นั้นผ่านไปโดยไม่ช่วยเหลือ หรือปรับปรุงแก้ไข ซึ่งการช่วยเหลือดังกล่าว อาจทำได้ทันทีที่พบหรืออาจต้องใช้การวิจัยช่วยในการแก้ปัญหา หรือแสวงหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาด้วย
ดังนั้นหากครูจะใช้การวิจัยเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวก็สามารถทำได้อีก โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้
1) วิเคราะห์ปัญหา กำหนดนวัตกรรม วางแผนแก้ปัญหา/พัฒนา เป็นขั้นตอนที่ครูกำหนดจุดประสงค์ หรือเป้าหมายของการแก้ปัญหาและพิจารณาวิธีการจัดกิจกรรม ซึ่งรวมถึงการกำหนดเครื่องมือในการวัดผลการเรียนรู้ และสื่อการเรียนการสอนต่าง ๆ ที่ครูนำไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับนักเรียน
2) จัดกิจกรรมแก้ปัญหา/พัฒนา คือ ขั้นตอนที่ครูนำกิจกรรมในแผนที่กำหนดไว้จากขั้นตอนที่ 1 มาปฏิบัติ ขณะเดียวกันครูก็จะวัดและประเมินผลการแก้ปัญหาหรือผลการพัฒนา ตลอดจนรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของนักเรียนที่เกิดจากการปฏิบัติกิจกรรมไปพร้อม ๆ กัน
3) เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ผล สรุปผลการแก้ปัญหา/พัฒนาเป็นขั้นตอน ที่ครูนำผลการวัดและประเมินผลการเรียนรู้และข้อมูลต่
ร่วมปฎิวัติการศึกษาเพื่อความเป็นไท