"ชีวจริยศาสตร์" หรือ bioethics ในภาษาอังกฤษ หากจะแปลตามศัพท์แล้ว คำว่า Bio คือ ชีว หรือชีวภาพ ส่วนคำว่า ethics หมายถึง จริยศาสตร์ เพราะฉะนั้น จึงอาจนิยามได้ว่า ชีวจริยศาสตร์ คือ การพิจารณาเรื่องของชีวิตในแง่มุมของจริยศาสตร์
เป็นสาขาวิชาใหม่ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น อันเป็นผลพวงมาจากความก้าวหน้าในการศึกษาวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
ปัญหาต่างๆ ดังกล่าวได้แก่ ปัญหาในเชิงจริยธรรม รวมไปถึงการศึกษาผลกระทบของความก้าวหน้าในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
ด้วยเหตุนี้ ชีวจริยศาสตร์จึงมีลักษณะเป็นสหวิทยาการ ซึ่งรวมเอาวิชาการต่างๆ ได้แก่ปรัชญา กฎหมาย สังคมวิทยา การบริหารจัดการ และอื่นๆ เข้าด้วยกัน เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาอันเกิดจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตีความได้หลากหลายมิติ และมีความซับซ้อนมาก จนทำให้แง่มุมและแนวทางการศึกษาของสาขาวิชาเดียว ไม่สามารถดำเนินไปเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจที่แท้จริงขึ้นได้
เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจน ขอยกตัวอย่าง เช่น ในกรณีของการโคลน (cloning) และการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิด (stem cell ) ซึ่งกำลังเป็นหัวข้อสำคัญในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพในปัจจุบัน ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้น ก็คือ การโคลนมนุษย์ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในทางศีลธรรมหรือจริยธรรมหรือไม่ การโคลนจะก่อให้เกิดมนุษย์ที่ผิดธรรมชาติหรือไม่ การโคลนเพื่อการสืบพันธุ์ (reproductive cloning) กับเพื่อการบำบัด (therapeutic cloning) ต่างกันหรือไม่ อย่างไร
ในแง่ของจริยธรรม หลักการของการทำวิจัยในมนุษย์ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป จะใช้ได้หรือไม่กับการทำวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นมนุษย์ได้ต่อไป รัฐควรจะมีมาตรการทางกฎหมาย หรือระเบียบวิธีการอย่างไร ในการควบคุมการวิจัยทำนองนี้ หรือถ้ามี กฎเกณฑ์ดังกล่าวจะมีรายละเอียดอย่างไร ผลกระทบทางสังคม วัฒนธรรม รวมไปถึงความสามารถในการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของประเทศจะเป็นอย่างไร มีหลักเกณฑ์อะไรที่จะใช้ตัดสินเพื่อเลือกทางเลือกต่างๆ
จะเห็นได้ว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะงานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพทำให้สังคมต้องตระหนักถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดถี่ถ้วนและด้วยความรอบคอบอย่างมาก
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่าง เช่น นักวิทยาศาสตร์ไทยสามารถถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสไข้หวัดนก นักวิทยาศาสตร์ไทยประสบความสำเร็จในการโคลนสัตว์ประเภทหมูและกระบือ นักวิทยาศาสตร์ไทยประสบความสำเร็จในการวิจัยด้านสเต็มเซลล์ในระดับหนึ่งเป็นต้น ตัวอย่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ตัวอย่างเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้มีการวิจัยที่ล้าหลังประเทศอื่น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ การทำความเข้าใจเกี่ยวชีวจริยธรรม รวมถึงผลกระทบทางสังคมในด้านต่างๆ อันเนื่องมาจากการวิจัย ก็ไม่ควรที่จะล้าหลังเช่นเดียวกัน และการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ก็ยิ่งมีความสำคัญ เนื่องจากการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะไม่สมบูรณ์ หากปราศจากความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาทางจริยธรรมและผลกระทบในด้านต่างๆเหล่านี้
ที่มา:www.vcharkarn.com
ไม่มีความเห็น