นอกตำรา : จากเมืองสู่บ้านนา ... ตามหาคุณค่าวิถีชาวนาไทย


นอกตำรา : จากเมืองสู่บ้านนา ... ตามหาคุณค่าวิถีชาวนาไทย
 นอกตำรา : จากเมืองสู่บ้านนา ... ตามหาคุณค่าวิถีชาวนาไทย

ข่าววันที่ 5 กันยายน 2551 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

 
 

 

                   ยัง เอ็ม อี เอ ดอท คอม เฮ้!  เสียงพลังเข้มแข็งของ 72 วัยซน สมาชิก www.yongmea.com ดังสนั่นทั่วที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เรียกความพร้อมทั้งกายและใจ อุ่นเครื่องให้ร้อนก่อนเดินทางไปเรียนรู้วิถีชีวิตติดดินนอกเมืองหลวง

                วิชาเรียนนอกห้องที่ กฟน. เต็มใจเสนออยู่ ไม่ไกลจากเมืองกรุง เพียงมุ่งหน้าไปตามเส้นทางสายบางบัวทอง สู่จุดหมายประทาง ณ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย  อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ด้วยระยะทางประมาณ 100 ก.ม. เท่านี้ เด็กๆ ก็จะได้เรียนรู้ความต่างจากวิถีชีวิตเดิมๆ ในเมืองหลวง เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนาและตามหาคุณค่าของเจ้าทุย

 

                                                      * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * 

                  เพียงระยะเวลา 2 ชั่วโมง ที่รถเคลื่อนตัวออกจากเมืองกรุง มุ่งหน้ามาถึงจุดหมาย ณ บ้านควาย เด็กๆไม่รอช้า เดินหน้ามุ่งเข้าสู่เขตฐานการเรียนรู้ที่มีทั้งหมด 5 สถานี คือ 1.ค.ควายน่ารัก 2.หมู่บ้านชาวนา 3.วัฏจักรข้าวและการทำนา 4.จากท้องนาสู่ลานข้าว และ 5.การแปรรูปข้าว

                ตลอดการร่วมกิจกรรมภาพที่เห็นคือ เด็กๆ เมืองกรุงที่ไม่เคยได้ทำอะไร วันนี้กลับแปลงร่างสวมบทบาทชาวนาจำเป็น     สองมือน้อยๆ และผิวขาวๆ ต่างเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนแต่ดูเหมือนว่าเขาเหล่านั้น พร้อมที่จะเรียนรู้ว่าวิถีชีวิตชาวนาเป็นเช่นไร แม้จะดูเก้ๆ กังๆ ไปบ้าง หากแต่สิ่งที่เห็นจากดวงตาคู่น้อยเหล่านั้นก็คือ ความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริง ที่จะค้นหาความจริงจากห้องเรียนธรรมชาติ โดยมีคุณลุงชาวนาใจดีกับพี่ควายตัวใหญ่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้       

                                                          * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

 

                   น้องข้าวปุ้น - ปุณยวีร์ จันทร์แสนวิไล  อายุ 9 ขวบ รร.อุดมศึกษา กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มาที่นี่ ได้มาเห็นกระบวนการปลูกข้าว ว่ากว่าที่จะมาเป็นข้าวให้เราได้กินนั้น ชาวนาต้องเหน็ดเหนื่อย และยากลำบากมาก ก็อยากจะขอบคุณชาวนา และขอให้ชาวนามีความสุขในการทำนามากๆ ถึงจะร้อน และเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม และข้าวปุ้นจะกินข้าวทุกเม็ดให้หมด ไม่เหลือแม้แต่เม็ดเดียวค่ะ หนูขอสัญญา

                   ส่วน น้องไทม์- อมฤต วณิชย์เจริญสกุล อายุ 14 ปี ชั้น ม.3 รร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ กล่าวว่า การเรียนรู้นอกห้องเรียนนั้นมีคุณค่าจริงๆ เพราะทำให้เราได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ได้ความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน รวมถึงได้เพื่อนใหม่ๆ อีก ด้วย และขอย้ำว่าควายนั้นไม่ได้โง่ ควายมีประโยชน์ และมีคุณค่ามากมาย และดีใจมากๆ ที่มีการอนุรักษ์ควายไทย รวมถึงสอนวิธีการปลูกข้าว อยากเชิญชวนมาเที่ยวที่นี่กันเยอะๆ

 

                ภายหลังกิจกรรมสนุกๆ ก่อนกลับไปสู่โลกแห่งแสงสี เด็กๆ ก็ไม่พลาดที่ไปสักการะ หลวงพ่อโตณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองของ จ.สุพรรณบุรี งานนี้เรียกว่า นอกจากประสบการณ์ดีๆ แล้ว ยังได้บุญแถมกลับบ้านไปเต็มๆ อีกด้วย     

             

                เยาวชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ คลิกเข้าไปดูรายละเอียด และสมัครสมาชิกได้ที่ www.youngmea.com ที่เป็นสื่อกลางให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อม    โดยกิจกรรมครั้งหน้าจะเป็น ค่ายเยาวชน...รักษ์ป่าชายเลน ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2551 งานนี้ฟรีไม่ชาร์จ ... รู้แล้วอย่ารอช้า รีบสมัครด่วนรับจำนวนจำกัดเพียง 80 คนเท่านั้น

 

                      

http://www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=39&nid=21990

หมายเลขบันทึก: 208385เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2008 13:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท