ก่อนอื่นต้องขอบคุณอาจารย์พุทธพร
พงศ์อารยะ รองผอ.โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
เป็นบันทึกของคุณจักรภพ เจือจันทร์
ดิฉันอยากให้บันทึกหน้านี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวในท้องถิ่นอันเป็นสาระสำคัญของการเรียนรู้จากโรงเรียนในฝัน
เราอ่านและแลกเปลี่ยนกันนะคะ
ท่านที่สนใจเปิดเข้ามาอ่านเรื่อง "ต้นแบบโรงเรียนในฝันรุ่น2
ตอนศีขรภูมิพิสัย" ที่ดิฉันติดค้างว่าจะเล่าเรื่อง
"ปราสาทระแงงหรือปราสาทศีขรภูมิ" (อ่านว่าปราสาท สี-ขอ-ระ-พูม)
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากดิฉันสนใจการเรียนรู้ของ เด็กชายทักษิณ เด็กชอบอ่าน
ทักษิณอยากเล่า เรื่องที่เขารู้ เรื่องที่เขาสนใจ
เขาสนในเรื่องปราสาท สนใจประวัติศาสตร์
(เขาอาจจะดูเรียนไม่เก่งในวิชาอื่นๆ แต่โรงเรียนในฝันโรงเรียนดีใกล้บ้าน
สนับสนุนความเก่ง ความถนัดเฉพาะด้านของนักเรียนทุกคน
เราดูแลเด็กทุกคน)
ข้อมูลที่ทักษิณได้สืบค้นอาจจะยังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อยอด
อาจารย์พุทธพร จึงมอบเอกสารเพิ่มเติม
จากบันทึกข้างต้นได้กล่าวถึงบันทึกของอาจารย์ประสงค์
จันทรา(อดีตครูใหญ่โรงเรียนบ้านระแงง)
ซึ่งมีข้อความให้ชวนมองย้อนประวัติศาสตร์ทำให้เรารู้ว่า
อำเภอศีขรภูมิเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์โลกทีเดียว
.... "
ทหารญี่ปุ่นมาตั้งกองบัญชาการที่วัดบ้านระแงง
ตอนเช้ามีการฝึกแถวตอนเย็นฝึกกายบริหาร เล่นกีฬา เข้มแข็งเด็ดขาด
มีระเบียบวินัยมากสมเป็นประเทศมหาอำนาจ เมื่อสงคราสงบ
ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ ฝ่ายพันธมิตรได้ส่งกำลังมาปลดอาวุธที่วัดระแงง
ทหารญี่ปุ่นได้ตั้งแถวและให้เกียรติผู้ชนะอย่างน่าสรรเสริญ
คือแสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตัว
เวลารับประทานอาหารก็ยืนคอยรับใช้ทั้งนายและพลหาร
เวลาอาบน้ำก็ตักให้อาบ ถูเหงื่อไคลให้
รู้สึกว่าญี่ปุ่นได้ฝึกพลเมืองของเขาให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย สมแล้วเป็นชาติที่เจริญแล้ว"
ค่ะดิฉันประทับใจกับบันทึกเรื่องราวข้างต้นมาก
พันธมิตรก็ไม่สังหารหรือทรมานเชลย (จากประวัติศาสตร์ค่ะ )
เพียงข้อความสั้นๆทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายอย่าง
เรื่องราวในประวัติศาสตร์จะบอก
จะสอนคนรุ่นหลังอย่างน้อยคงเคยได้ยิน...."อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย"....
(วันที่ประเมินโรงเรียนฝนตก
จึงไม่ได้เก็บภาพสวยๆมาฝากถ่ยด้านนอกได้บางส่วน
ต้องขอติดค้างที่จะนำภาพบริเวณ วัดระแงง บริเวณสระน้ำ ไว้ก่อน
ตั้งใจจะกลับไปเก็บภาพในเร็วๆนี้ )
ปราสาทศีขรภูมิ
ได้ร้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ
ปราสาทแห่งนี้เดิมเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ที่บูชาพระศิวะหรือเทพสิบกร
พระศิวะมีมเหสีชื่อ นางปารพตีหรือบรรพตี
ฟังดูอาจจะไม่คุ้นแต่ถ้าเอ่ยพระอุมา คุ้นแน่ๆค่ะ
เมื่อเอ่ยถึงทับหลังเราอาจจะคุ้นเฉพาะทับหลังที่ปราสาทพนมรุ้ง(จังหวัดบุรีรัมย์)
ซึ่งเราเคยเรียกร้องขอคืนจากอเมริกาเมื่อหลายปีมาแล้ว
ปราสาทศีขรภูมิก็มีทับหลัง จากบันทึกกล่าวว่าทับหลัง ณ
ปราสาทแห่งนี้สวยงามและสมบูรณ์ที่สุด (ขอติดค้างภาพไว้ก่อนนะคะ
ทับหลังที่เป็นของดั้งเดิมถูกเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย)
ภาพพระศิวะกำลังร่ายรำหรือเรียกว่า " ศิวะนาฏราช" สวยงามมาก
เรื่องราวจากทับหลังชวนให้ติดตามถามหาความงามที่ถ่ายทอดจากรุ่น
สู่รุ่นอย่างน่าภาคภูมิใจ
ทักษิณและเพื่อนชวนดิฉันชมปราสาทเท่าที่สภาพดินฟ้าอากาศในวันนั้นจะอำนวย
(มีต่อค่ะ)