วิธีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
ความหมายของโครงงาน
คำว่าโครงงานมีนักเรียนการศึกษาได้ให้ความหมายไว้มากมาย ดังนี้
กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความหมายโครงงานว่า เป็นการทำกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ภายใต้การดูแลและให้คำปรึกษาของครู ตั้งแต่การคิดสร้างโครงงาน
การวางแผนดำเนินการ การออกแบบลงมือปฏิบัติ รวมทั้งร่วมกำหนดแนวทางในการวัดผลและการประเมินผล
สถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ความหมายโครงงานว่าเป็นการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัด ตามความสามารถของผู้เรียนเอง ภายใต้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบหรือผลงาน ซึ่งมีความสมบูรณ์ในตัว โดยนักเรียนเป็นผู้วางแผนการศึกษาค้นคว้า ดำเนินการด้วยตนเองเพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ มีเจตคติที่ดีต่อกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ครูเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษาเท่านั้น
เปรี่อง กิจรัตนี ให้ความหมายว่า โครงงานเป็นกิจกรรมของนักเรียนเองที่อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ต้องมีการวางแผนการปฏิบัติอย่างชัดเจน ในการทำกิจกรรมโครงงานนั้นก็ต้องอาศัยเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ในการปฏิบัติงาน ครูมีบทบาทในการอำนวยความสะดวกเป็นที่ปรึกษา และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการทำงานที่นักเรียนมาขอคำปรึกษา
จากการให้ความหมายของโครงงานจากนานาทัศนะสามารถสรุปได้ดังนี้ การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงาน หมายถึง กิจกรรมการศึกษาวิชาการที่ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้เลือกขึ้นมาศึกษา ค้นคว้า ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานตามที่ตนเองมีความถนัด มีความพร้อมและสนใจ แล้วลงมือปฏิบัติให้บรรลุตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยมีรายละเอียดของงานที่จะทำไว้ล่วงหน้า เป็นขั้นตอน พร้อมทั้งคาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้โดยได้รับคำแนะนำปรึกษาจากครูอาจารย์ในโรงเรียนของตน
แนวคิด
การสอนแบบโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งตามความสนใจของผู้เรียนอย่างลุ่มลึก โดยผ่านกระบวนการหลักคือ กระบวนการแก้ปัญหา ผู้เรียนจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเพื่อค้นหาคำตอบด้วยตนเอง จึงเป็นการเรียนรู้จากการได้มีประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรียนรู้ การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงหลักการพัฒนาการคิดของบลูม (Bloom) ทั้ง 6 ขั้น กล่าวคือ ความรู้ความจำ (Knowledge ) ความเข้าใจ (Comprehension ) การนำไปใช้ (Application ) การวิเคราะห์ ( Analysis ) การสังเคราะห์ ( Synthesis ) การประเมินค่า (Evaluation ) และยังเป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในทุกขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้ ตั้งแต่การวางแผนการเรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ประยุกต์ใช้ผลผลิต และการประเมินผลงาน โดยผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้จัดการเรียนรู้
ลักษณะเด่น โครงงานเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองเป้าหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งวิธีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นวิธีหนึ่งที่ส่งเสริมการคิด การแก้ปัญหา ด้วยการใช้เทคนิคหลากหลายรูปแบบมาผสมผสานกัน ได้แก่ กรบวนการกลุ่ม การฝึกคิด การแก้ปัญหา การเน้นกระบวนการ การสอนแบบปริศนาความคิด และการสอนแบบร่วมกันคิด ทั้งนี้ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงด้วยตนเองหรือเป็นกลุ่ม ตามความสนใจและความถนัด โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้หรือกระบวนการวิทยาศาสตร์ ที่ผู้เรียนสามารถค้นคว้าหาคำตอบในสิ่งที่ผู้เรียนอยากรู้อยากเห็นหรือสงสัยด้วยวิธีการต่าง ๆ และผู้เรียนยังสามารถสรุปความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งความรู้ที่ได้ผู้เรียนได้มาไม่จำเป็นต้องตรงกับตำรา แต่ผู้สอนจะสนับสนุนให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้และปรับปรุงความรู้ที่ได้ให้สมบูรณ์ จนได้ชิ้นงานที่สามารถนำผลการศึกษาไปใช้ได้ในชีวิตจริง
ความสำคัญของโครงงาน
ด้านนักเรียน
1.1 สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจ
อย่างลึกซึ้งในโครงงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมา
1.2 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการที่จะเริ่มงานที่จะนำไปสู่งานอาชีพ และการศึกษาต่อที่
ตนเองมีความถนัด และสนใจ
1.3 ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเองและการแก้ปัญหาในงานที่ตนเองสนใจและมี
ความพร้อม ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในการทำงานต่อไป
1.4 ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้สร้างเกียรติประวัติในโครงงานที่ได้ริเริ่มสร้างสรรค์
1.5 ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและสัมพันธ์อันดีงามต่อกันในระหว่างเพื่อนนักเรียนที่
ปฏิบัติงานในกลุ่ม
1.6 ก่อให้เกิดความรู้ทางวิชาการที่กว้างขวางขึ้น โยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับความสำเร็จใน
การศึกษาตามหลักสูตรและตรงจุดมุ่งหมายที่กำหนด
ด้านโรงเรียน และ ครู-อาจารย์ ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง ๆ ดังนี้
1.1 เกิดการประสานงานทางวิชาการที่ผสมผสานหรือบูรณาการเกิดขึ้นในโรงเรียนตรงกับ
หลักสูตร และแนวทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
1.2 เกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า การเรียนการสอนในปัจจุบันขึ้นอยู่กับการฝึกปฏิบัติจริงใน
โครงงานของนักเรียนมากกว่าที่จะเรียนอยู่แต่ในห้องเรียนเท่านั้น
1.3 เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียน โรงเรียน ครูและอาจารย์ที่มีโอกาสปฏิบัติงาน
อย่างใกล้ชิด และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ด้านท้องถิ่น
1.1 การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความรู้ ผลงานในเชิงปฏิบัติของโครงงานที่ประสบ
ผลสำเร็จไปสู่ท้องถิ่น ทำให้ท้องถิ่นกับโรงเรียนมีความเข้าใจและประสานสัมพันธ์กันดียิ่งขึ้น
1.2 ทำให้ประชาชนและเยาวชนในท้องถิ่นมีการศึกษาดี โดยเฉพาะงานอาชีพที่หลากหลาย และการ
พัฒนาการศึกษาที่มุ่งเน้นให้เยาวชนของชาติมีนิสัยรักการทำงาน ไม่เป็นคนหยิบโหย่งและช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยดี
วัตถุประสงค์
การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน
1. มีประสบการณ์โดยตรง
2. ได้ทำการทดลองและพิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง
3. รู้จักการทำงานอย่างมีระบบ มีขั้นตอน
4. ฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
5. ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา
6. ได้รู้จักวิธีการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา
7. ฝึกวิเคราะห์ และประเมินตนเอง
ขอบข่ายของโครงงาน ดำเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษา มีองค์ประกอบดังนี้
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก
วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทำโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค
เรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตาม
ความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงาน
ผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กำหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการ
ใช้จ่ายเงินดำเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาน
1. ประเภทสำรวจข้อมูล โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ศึกษาสำรวจข้อมูลสำหรับดำเนินงาน
พัฒนาปรับปรุง เพิ่มเติมผลงานและส่งเสริมผลผลิตให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ข้อมูลดังกล่าวอาจมีผู้จัดทำขึ้น แต่มีการแปลเปลี่ยนไปแล้ว ต้องทำการสำรวจจัดทำขึ้นใหม่ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่น
- การสำรวจราคาผลผลิตเกษตรในท้องถิ่น
- การสำรวจราคาอุปโภคบริโภคในท้องถิ่น
- การสำรวจแหล่งวิชาการและสถานประกอบการในท้องถิ่น
- การสำรวจงานบริการในท้องถิ่น
- การสำรวจปริมาณการปลูกข้าวโพดในท้องถิ่น
- การสำรวจปริมาณการเลี้ยงห่านในท้องถิ่น
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่เกิดขึ้นจากการศึกษาหลักการต่างๆ ทางวิชาการแล้วนำมาทดลองค้นคว้าเพื่อยืนยันทฤษฎีหรือหลักการหรือต้องการทราบแนวทางเพิ่มคุณค่า และการใช้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น
- การศึกษาสูตรอาหารไก่ตอน
- การทดลองปลูกพืชในน้ำยาหรือการปลูกพืชโดยไม่ต้องใช้ดิน
- การควบคุมการเจริญเติบโตของไม้ประดับประเภทเถา
- การใช้ฮอร์โมนกับกิ่งกุหลาบ
- การศึกษาขนมชนิดต่างๆ
- การศึกษาสูตรเครื่องดื่มที่ผลิตจากผลไม้
- การศึกษาทำปุ๋ยชีวภาพ
- การควบคุมระบบการให้น้ำแปลงเพาะชำ
- การประดิษฐ์เคลือบรูปพลาสติก (กรอบรูปวิทยาศาสตร์)
- การประดิษฐ์หัวฉีดพ่นน้ำในแปลงปลูกผัก
- การประดิษฐ์ของชำร่วยจากเรซิ่น
- การประดิษฐ์เครื่องขยายเสียง
- การประดิษฐ์เครื่องหรี่ไฟฟ้า
- การประดิษฐ์กรอบกระจก
- การประดิษฐ์ป้ายชื่อหินอ่อน
- แกะลายกระจก
ที่ |
ชื่อโครงการ |
ประเภทโครงงาน |
|||
พัฒนาผลงาน |
ค้นคว้า ทดลอง |
สร้างสิ่ง ประดิษฐ์ |
สำรวจ ข้อมูล |
||
1 |
ประดิษฐ์ของชำร่วยจากเรซิ่น |
- |
- |
/ |
ไม่มีความเห็น