ตุลาการภิวัตร
การละเมิดอำนาจศาล
จากเหตุการณ์ที่มีผู้นำกล่องขนมบรรจุเงินจำนวน 2 ล้านบาทไปมอบให้เจ้าหน้าที่ของศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้สังคมยังคงสงสัยว่าเหตุใดจึงกระทำเช่นนั้น แต่ศาลได้มีคำสั่งจำคุกผู้นั้นในความผิดฐานละเมิดศาลแล้ว ประกอบกับความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันที่หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวหรือวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงบทบาทหน้าที่ของศาลซึ่งบางครั้งด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจเป็นการละเมิดอำนาจศาลโดยไม่รู้ตัว เช่น กรณีที่ศาลปกครองลงโทษนักการเมืองในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากนักการเมืองผู้นี้ได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การใช้ดุลยพินิจของศาล โดยไม่ได้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตทางวิชาการ จึงเป็นการละเมิดอำนาจศาลและไม่ใช่เพียงผู้ที่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เท่านั้นที่มีความผิด สื่อต่างๆที่นำคำวิพากษ์วิจารณ์ไปเผยแพร่ก็มีความผิดด้วยเช่นกัน
การพิจารณาคดีของศาลนั้นเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาคดีของศาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กฎหมายจึงบัญญัติให้ศาลมีอำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งในและนอกศาล การละเมิดอำนาจศาลเป็นหลักกฎหมายสากลที่ศาลทุกประเทศทั่วโลกยอมรับ ทั้งศาลในระบบกฎหมายจารีตประเพณี เช่น ประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา และศาลในระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร เช่น ฝรั่งเศส หรือเยอรมนี
ประเทศไทยได้บัญญัติเรื่องการละเมิดอำนาจศาลไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แบ่งออกเป็น 2 กรณีใหญ่ๆ คือ
1. การละเมิดอำนาจศาลโดยฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลที่กำหนดขึ้นเพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลและให้การพิจารณาคดีของศาลเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมและรวดเร็ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 30 โดยข้อกำหนดนี้ใช้บังคับทั้งกับคู่ความและบุคคลภายนอกที่อยู่ต่อหน้าศาล เช่น ศาลออกข้อกำหนดไม่ให้โจทก์ลุกขึ้นแถลงการณ์ใดๆ ในขณะที่ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาคดีอยู่ แล้วโจทก์ยังฝ่าฝืน (คำพิพากษาศาลฎีกา 2271/2537 ) หรือกล่าวเสียดสีศาลว่าหากให้ศาลพิจารณาคดีต่อไปเกรงว่าศาลจะทำลายเอกสารสำคัญ ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล (คำพิพากษาศาลฎีกา 1324/2539)
ข้อกำหนดนี้ยังรวมถึงการห้ามไม่ให้คู่ความดำเนินคดีในทางก่อความรำคาญ ประวิงเวลาให้ช้าหรือฟุ่มเฟือยเกินควรในส่วนของศาลยุติธรรมได้มีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องละเมิดอำนาจศาลไว้ในประมวลจริยธรมข้าราชการตุลาการว่า “ผู้พิพากษาจักต้องควบคุมการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งจะต้องไม่ให้ผู้ใดประพฤติตนไม่สมควรในศาล บทบัญญัติว่าด้วยเรื่องละเมิดอำนาจศาลพึงใช้ด้วยความระมัดระวังและไม่ลุแก่โทสะ”
2. การกระทำที่เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลโดยตรง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 กำหนดให้การกระทำดังต่อไปนี้เป็นการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งได้แก่ แสดงหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล การรู้ว่ามีการส่งคำคู่ความหรือเอกสารมาให้แล้วจงใจหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงไม่รับ การตรวจเอกสารทั้งหมดหรือฉบับใดฉบับหนึ่งซึ่งอยู่ในสำนวนโดยไม่ได้รับอนุญาต การขัดขืนไม่มาศาลการฝ่าฝืนข้อกำหนดศาลเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในศาลตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ซึ่งการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลนั้นต้องกระทำในบริเวณศาลหรือโดยมีลักษณะของการกระทำที่ต่อเนื่องเข้ามาถึงบริเวณศาลด้วย
เช่น กล่าวอ้างว่าจะเอาเงินไปให้ผู้พิพากษาเพื่อเป็นอามิสสินจ้างในการดำเนินคดีในศาล แม้จะกระทำนอกบริเวณศาลแต่ผลที่เกิดขึ้นนั้นมุ่งหมายให้ผลในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาล ถือว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6444/2540)
การนำยาบ้าไปส่งมอบให้แก่ผู้ต้องหาในศาล การพกอาวุธปืนเข้ามาในบริเวณศาล การทะเลาะวิวาทชกต่อยกันหรือใช้รองเท้าทำร้ายคู่ความในบริเวณศาล การประกันตัวไปแล้วเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย เหล่านี้ล้วนแต่เป็นการก่อความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในศาลเป็นการละเมิดอำนาจศาลเช่นกัน
การละเมิดอำนาจศาลของสื่อสิ่งพิมพ์ นอกจากที่กล่าวข้างต้นแล้วประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 32 ยังกำหนดเรื่องละเมิดอำนาจศาลไว้โดยให้ถือว่าเป็นผู้ประพันธ์ บรรณาธิการหรือผู้พิมพ์หนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์กระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล หากมีการฝ่าฝืนคำสั่งศาลที่ห้ามโฆษณาข้อความ หรือความเห็นในเชิงเปิดเผยข้อเท็จจริง พฤติการณ์อื่นๆ หรือกระบวนพิจารณาใดๆเกี่ยวกับคดี หรือมีการกล่าวข้อความ แสดงข้อความ หรือแสดงความเห็นในระหว่างการพิจารณาคดีทางหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์ โดยประสงค์ให้มีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชนเหนือศาล เหนือคู่ความหรือเหนือพยาน ซึ่งจะทำให้การพิจารณาคดีเสียความยุติธรรมไป
สำหรับความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้น ศาลอาจสั่งไล่ผู้นั้นออกนอกบริเวณศาลในระหว่างการพิจารณาหรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด จำคุกไม่เกิน หกเดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากการละเมิดศาลนั้นเป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทศาลด้วยก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาว่าด้วยเรื่องนั้นๆต่อไป
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลสามารถอุทธรณ์ได้ตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่หากการละเมิดอำนาจศาลนั้นเกิดขึ้นที่ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดก็ถึงที่สุดไม่สามารถฎีกาต่อไปได้อีก
สรุปได้ว่า ในการพิจารณาคดีนั้นทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลและช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างการพิจารณาคดี ถ้าทุกฝ่ายปฏิบัติได้ทุกอย่างก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาที่ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่ต่างฝ่ายนำมาเป็นเอกสารข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนไทยก็ยังมีความเชื่อและศรัทธาในศาล อำนาจศาลที่เชื่อว่าบริสุทธิ์ถูกต้องมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง
บรรณานุกรม
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์, ฉบับวันที่ 8 สิงหาคม 2551 หน้า 4.
หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน. ฉบับวันที่ 8 สิงหาคม 2551 หน้า 20.
ขอเติม "ประชาภิวัฒน์"ครับ ร่วมด้วยอีกแรง ระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต้อง empower ประชาชนไม่ใช่แค่ให้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ต้อง empower ผ่านการสร้างระบบคุณค่า วิถีปฏิบัติในสังคม และระบบสถาบัน ที่ส่งเสริมสิทธิ์นั้น และมีแนวโน้มว่าประชาธิปไตยในโลกจะมีลักษณะที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจโดยตรงมากขึ้น ปล่อยให้นักการเมืองตัดสินใจเอง น้อยลง ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายที่ต้องการประชาธิปไตยแท้ กับฝ่ายประชาธิปไตยลวง ต้นฉบับครับ