วันนี้ (๒๗ ส.ค. ๕๑) ภรรยาอายุครบ ๖๕ อีกไม่กี่เดือนผมก็จะอายุเต็ม ๖๖ พิจารณาว่าตัวเองความรู้ถดถอยลงไปมาก เมื่อวานได้เรียนรู้วิธีดำเนินการของ Ethics Committee (EC) ของศิริราชจาก ศ. พญ. จริยา เลิศอนรรฆมณี ท่านเป็นประธานคณะกรรมการ EC ฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่าการจัดการงานวิจัย และระบบวิจัยของประเทศมันก้าวหน้าไปมาก จนผมชักจะตามไม่ทัน
วันนี้มี ๒ ประชุม เกี่ยวกับ สช. (www.nationalhealth.or.th) ทั้ง ๒ ประชุม ผมบอกตัวเองว่า เดี๋ยวนี้กิจกรรมของผมส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่ผมมีเป้าหมาย “ตามไปเรียน” คือเพื่อการเรียนรู้ของตัวเอง ไม่ให้ตัวเองตกยุค หลุดโลก จนเกินไป
ผมหาทาง “สนุก” (enjoy) กับกิจกรรมประจำวันเหล่านี้ โดยการฝึกตัวเองให้มองเรื่องเหล่านั้นแบบ Systems Thinkling หัดมองว่าระบบนั้นๆ มันเคลื่อนหรือเปลี่ยนไปอย่างไรในช่วงเวลาประมาณ ๒๐ – ๕๐ ปี มันเปลี่ยนไปในระดับเปลี่ยนกระบวนทัศน์อย่างไรบ้าง หรือเกิดกระบวนทัศน์ใหม่ขึ้นมาแทนกระบวนทัศน์เก่าอย่างไรบ้าง ถ้ามองได้ทะลุอย่างนี้ ผมรู้สึกสนุกมาก เข้าใจว่า เอ็นดอร์ฟิน หลั่งด้วย
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวิธีมองของผมจะถูกต้องนะครับ มันเป็นการตอบแบบฝึกหัดที่ตัวเองตั้งให้ตัวเองตอบเท่านั้น จะถูกหรือผิดไม่สำคัญมากนัก ที่สำคัญคือต้องกล้าตั้งโจทย์ และกล้าตอบโจทย์
เอามาเล่าเพื่อ ลปรร. ชีวิตที่อาจหาความสุขได้อีกแบบหนึ่งในวัยสูงอายุ
วิจารณ์ พานิช
๒๗ ส.ค. ๕๑
ไม่มีความเห็น