การพัฒนาของเด็กวัย 5 ขวบ
เด็กวัย 5 ขวบ เป็นวัยที่ร่าเริง แจ่มใส ใช้พลังงานกับการเล่น และกระตือรือร้น ชอบวางแผน และถกคุยกันว่าใครจะเป็นคนทำอะไร เด็กวัยนี้จะสนใจการเล่นละคร กับเด็กคนอื่นๆ มีอารมณ์อ่อนไหว เกี่ยวกับความต้องการ และความรู้สึกของคนอื่นรอบๆ ตัวเขา รู้จักการรอคอยและการแบ่งปันให้คนอื่น "เพื่อนที่ดีที่สุด" จะมีความหมายต่อเขามากในวัยนี้
ส่วนใหญ่เด็กวัย 5 ขวบ กำลังจะเข้าโรงเรียนอนุบาล เข้าจะมีความรู้สึกอยากกลับบ้านหลังเลิกเรียนมาพักผ่อนและเล่น ในสิ่งที่เขาอยากเล่น โดยไม่ต้องมีใครบอกให้ทำอย่างโน้นทำอย่างนี้ หรือต้องทำตามกลุ่มเพื่อนให้ทัน ในช่วงบ่ายของการเรียนอนุบาล จึงต้องจัดเวลาให้สมดุลระหว่างการเล่นกิจกรรม และการพักผ่อนตลอดเวลาทั้งวัน ระหว่างอยู่โรงเรียนอนุบาล ต้องได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันในทุกๆ เรื่อง เมื่อกลับถึงบ้านเด็กอาจจะเหนื่อย พูดมาก หิว หรืออยากเล่าประสบการณ์ทั้งวัน ที่ได้เจอมา
การพัฒนาด้านสติปัญญา
· ใช้ 5-8 คำในการสร้างประโยค
· ชอบเถียงและใช้เหตุผล เช่น ใช้คำว่า เพราะว่า
· รู้จักแม่สีหลักๆ คือ แดง เหลือง น้ำเงิน เขียว ส้ม
· สามารถจำที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์
· เข้าใจเรื่องเล่า รู้การเริ่มต้น ตอนกลาง และตอนจบ
· สามารถจำเรื่อง และเล่าได้
· มีความคิดสร้างสรรค์ และเล่าเรื่องได้
· เข้าใจหนังสือที่อ่านจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง
· วาดรูปสัตว์ คน สิ่งของได้
· เข้าใจและแสดงความเปรียบเทียบได้ เช่น ใหญ่กว่า
· จัดเรียงสิ่งของตามขนาด
· บอกตัวอักษรและตัวเลขได้ 2-3 ตัว
· เข้าใจ มากกว่า น้อยกว่า เท่ากับ
· นับสิ่งของได้ 10 อย่าง
· จำหมวดหมู่ได้ เช่น กลุ่มของสัตว์
· เข้าใจก่อน หลัง ข้างบน ข้างล่าง
· มีความคิดด้านการวางแผน เช่น การสร้างอย่างมีแบบแผน การเล่นละคนสมมติ การเล่นแบบหลายทางเลือก
· สามารถเข้าใจถึงเวลา เมื่อวานนี้ วันนี้ พรุ่งนี้
การพัฒนาด้านร่างกาย
· สามารถแต่งตัวได้โดยได้รับความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย
· ขี่จักรยานสามล้อด้วยความชำนาญมากขึ้น อาจขี่จักรยานสองล้อได้
· ยืนกระต่ายขาเดียวได้นาน 5-10 นาที
· ใช้ช้อนและส้อมได้ดี
· ใช้กรรไกรตัดเส้นตรงได้
· เริ่มถนัดซ้าย หรือขวา
· กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางเตี้ยๆได้
· วิ่งเหยาะๆ และวิ่งบนปลายเท้า และวิ่งข้ามสั้นๆได้
· กระโดดเชือกได้
· มีทักษะการประสานงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ซับซ้อนขึ้น เช่น การเล่นสเก็ต การขี่จักรยานสองล้อ
· สามารถผูกเชือกรองเท้าได้
· อาจจะสามารถคัดลอกรูปแบบและรูปร่างง่ายๆ ได้
การพัฒนาด้านอารมณ์ และสังคม
· คิดค้นเกมที่มีกฎง่ายๆ
· รวบรวมเด็กและของเล่นเพื่อเล่นละครสมมติ
· บางครั้งยังคงสับสนระหว่างเรื่องปรุงแต่งและเรื่องจริง
· บางครั้งที่จะกลัวเสียงดัง ความมืด สัตว์ และคนบางคน
· รอคอยคิวและรู้สึกแบ่งปันได้ในบางเวลา
· ชอบเล่นเฉพาะกับเพื่อนสนิทเท่านั้น
· ชอบตัดสินใจเอง
· มีความอ่อนไหวต่อการรับรู้ความรู้สึกของเพื่อนเมื่อเห็นเขาโกรธหรือเสียใจ
· ชอบเล่นกับเพื่อน 2-3 คนในเวลาเดียวกัน อาจไม่พอใจเวลามีคนอื่นเข้ามาเล่นเพิ่ม
· เริ่มมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความถูกต้อง และความผิด
· เล่นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องอยู่ในความดูแลของพี่เลี้ยงตลอดเวลา
· สนุกสนาน กับการเก็บสะสม
แนวคิดสำหรับผู้เลี้ยงเด็ก
· ส่งเสริมเรื่องการประสานงานระหว่างอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น โดยเล่นเกมและทำท่าตามผู้นำ เช่น การกระโดด การกระโดดเชือก การวิ่งเหยาะ การร้องเพลง สอนการเต้นรำพื้นบ้าน การเล่นเกม การทรงตัวบนท่อนไม้ การปีนต้นไม้ การผูกปมเชือกจากกรอบที่แข็งแรง
· สอนการเดินด้วยกระสอบ เดินสามขา เกมแปะโป้ง เกมแตะเป็น เพื่อพัฒนาด้านการเคลื่อนไหวต่างๆ
· เล่นเกมตบแผะ
· ช่วยให้เด็กได้ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงด้วยกรรไกร เช่น การตัดตั๋ว
· พัฒนากล้ามเนื้อเล็กๆ โดยฝึกการใช้มือร้อยลูกปัดผ่านเชือกเส้นด้าย
· เรียนรู้การแยกแยะชิ้นส่วน และรวมชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น แกะเครื่องมือช่างไม้และนาฬิกาที่ไม่ใช้แล้ว
· แสดงให้เด็กดูถึงการซ่อมของเล่น และหนังสือ
· เสริมการเล่นละครเข้ากับการอ่านทุกๆวัน ใช้โทนเสียงต่างๆกัน และบุคลิกที่แตกต่างกัน ขณะที่อ่านหนังสือที่เด็กคุ้นเคยแล้ว พยายามให้เด็กแสดงความเห็นโดยให้เด็กแต่งเรื่องตอนจบด้วยจินตนาการของเด็กเอง
· ขอให้เด็กวัย 5 ขวบเล่านิทานให้เราฟัง ให้เขียนและติดไว้ที่กำแพงหรือตู้เย็น
· ถามโดยใช้ประโยค ถ้า...อะไรจะเกิดขึ้น เช่น ถ้าเรื่องหนูน้อยหมวกแดง เปลี่ยนจากหมาป่าเป็นกระต่ายแล้วอะไรจะเกิดขึ้น ที่สำคัญ เด็กวัยนี้จะยึดติดกับกฎเกณฑ์ และสามารถพัฒนาเกมต่างๆ ตามกฎที่มากขึ้นและเป็นพิธีกรรมที่มากขึ้น
ที่มา : http://advisor.anamai.moph.go.th/tamra/child/brain07.html สืบค้นเมื่อ 4 ส.ค. 51
จากความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กวัย 5 ขวบ จะเป็นแนวทางให้ครูปฐมวัย และบรรดาพ่อ แม่ ผู้ปกครองนำไปประยุกต์ใช้ในการอบรม เลี้ยงดู และกระตุ้นพัฒนาการของลูกรักได้เป็นอย่างดี ถ้าพ่อ แม่ และคุณครูร่วมมือกันพัฒนาเด็กๆอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยแล้ว ย่อมส่งผลให้เด็กๆเจริญเติบโต อย่างมีคุณภาพ เขาจะเป็นพลเมืองของชาติที่มีศักยภาพสูงช่วยพัฒนาประเทศชาติสืบไป