เรามีเรื่องที่อยากจะเล่าสู่พี่น้องธัญญารักษ์ฟัง คิดว่าคงมีประโยชน์บ้าง แต่พี่น้องเราคงทราบกันดีอยู่แล้ว เอาเถอะน่าคิดว่าเป็นการทบทวนองค์ความรู้ก็แล้วกันนะ...เรื่องที่จะมาเล่าในว้นนี้ ก็เป็นเรื่องของสุกใส... แต่เดิมทีเขาเรียกกันว่า โรคอีสุกอีใส ไปไปมามา ฟังดูไม่ค่อยไพเราะหู สักเท่าไหร่ ก็เลยตัดคำว่า"อี"ออกไป กลายเป็น..โรคสุกใส..อย่างทุกวันนี้ ก็ดีเหมือนกันนะ สั้นดี
ที่เราได้นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เพราะว่า เป็นเรื่องที่พวกเราตึกมุกได้มีโอกาสดูแลผู้ป่วย สุกใสอย่างใกล้ชิด เพราะทางตึกเราได้จัดห้องแยกไว้สำหรับที่จะดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ หลังเราจัดห้องแยกเสร็จทันทีทันใด เราก็ได้มีโอกาสรับผู้ป่วยฝากนอนจากตึกที่มีผู้ป่วยเป็นโรคสุกใส 3-4 ราย และห้องแยกที่เราจัดไว้แต่เดิมที อยู่บริเวณ ตึกมุก 2 จัดไว้ 2 เตียง แต่การระบาดของโรคนี้ยังคงระบาด ทำให้มีผู้ป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้น เราจึงต้องขยายการให้การพยาบาลตามสถานการณ์ ก็เลยจัดให้ตึกมุก 2 ทั้งหมดเป็นห้องแยกผู้ป่วยเพื่อรองรับกับการระบาดของโรค และปริมาณผู้ที่ติดเชื่อมากขึ้น...ความเป็นมาเป็นไปก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ
โรคสุกใส
สาเหตุ
สาเหตุเกิดจากเชื่อไวรัส
(Varicella Virus)
อาการและอาการแสดง
อาการเริ่มด้วยไข้ต่ำ ๆ ต่อมามีผื่นขึ้นที่หนังศีรษะ หน้า ตามตัว
โดยเริ่มเป็นผื่นแดง ตุ่มนูน แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มพองใสในวันที่ 2 – 3
นับตั้งแต่เริ่มมีไข้ หลังจากนั้นตุ่มจะเป็นหนอง
แล้วเริ่มแห้งตกสะเก็ด และร่วงในเวลา 5 – 20 วัน ผื่นอาจขึ้นใน คอ ตา
และในปากด้วย โดยทั่วไปโรคนี้มักมีโรคแทรกซ้อน
แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการทางสมองและปอดบวมได้
การติดต่อ
เชื้อไวรัสที่กระจายออกมาจากทางเดินหายใจของผู้ป่วยหรือตุ่มหนองที่เริ่มตกสะเก็ด
และปลิวมาถูกผู้สัมผัสโรคได้ ผู้ป่วย โรคสุกใสมีระยะฟักตัว 2
สัปดาห์ผู้ป่วยแพร่เชื้อได้ในระยะ 1 วันก่อนผื่นขึ้น มักเกิดในเด็ก
ผู้ที่เป็นโรคนี้แล้ว จะมีภูมิต้านทานไปตลอดชีวิต
เมื่อใดควรพบแพทย์
ปกติอาการต่างๆ
จะไม่รุนแรง บางรายอาจมีเพียงไข้ต่ำและรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย
แต่หากมีอาการที่รุนแรงจากอาการแทรกซ้อนจึงค่อยไปพบแพทย์
สำหรับอาการคันอาจใช้ยาแก้คันเพื่อบรรเทาอาการได้
การดูแลรักษา
การักษาเฉพาะโรคยังไม่มี มีแต่เพียงการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ
1. ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ
ให้ดื่มน้ำมาก ๆ และใช้ผ้าเช็ดตัวเวลาไข้สูง
ถ้ามีไข้สูงมากอาจพิจารณาให้ยาลดไข้
2.
อย่าให้ผู้ป่วยแกะหรือเกาตุ่มคัน
เพราะอาจติดเชื้อกลายเป็นตุ่มหนองควรตัดเล็บให้สั้น ให้ยาแก้ผื่นคัน
Calamine Lotion ทาบริเวณผื่นคัน วันละ 2-3 ครั้ง
ถ้าคันมากอาจให้ยาแก้แพ้ Chlorpheiramine
3. ถ้าเป็นตุ่มหนอง
ให้รีบส่งแพทย์
การป้องกัน
1. การป้องกันโดยทั่วไปเหมือนกับ
โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคหัด
2 จัดแยกผู้ป่วยไม่ควรให้ไปคลุกคลีกับผู้ป่วยอื่น แยกของใช้
3.
อธิบายการปฏิบัติตัวให้ผู้ป่วยรับทราบถึงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
ไม่มีความเห็น