การจัดห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย
(Self Access Learning Center)
การเรียนรู้ หมายถึง การที่บุคคลมีความต้องการทำความเข้าใจรับรู้กับปัญหา เรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่ได้ประสบมา ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มพูนของทักษะความรู้ความเข้าใจและการพัฒนาของบุคคลนั้น ๆ เช่น การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้จากการทำงานหรือประสบการณ์ (ยืน ภู่วรรณ, และสมชาย นำประเสริฐชัย, 2546, หน้า 22)
การจัดการเรียนการสอนในเรื่องของกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เรียนจะต้องศึกษาจากสื่อและแหล่งความรู้ต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวทั้งในและนอกสถานศึกษา ในส่วนของห้องสมุดที่เป็นแหล่งทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ที่สำคัญ ซึ่งนับได้ว่าเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแหล่งสะสมความรู้และสติปัญญาของนักการศึกษาจากทั่วโลก ซึ่งปัญหาในปัจจุบันจะพบว่า บุคคลโดยทั่วไปไม่มีนิสัยรักการอ่านและการใฝ่รู้มากเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่การอ่านเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้ทั้งมวลและเป็นปัจจัยพื้นฐานในการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน อาจจะเนื่องมาจากสาเหตุบางประการ รวมทั้งปัญหาในการดำเนินงานของห้องสมุดที่เป็นปัจจัยบั่นทอน ไม่เอื้อต่อการแสวงหาความรู้ด้วย ได้แก่ มีจำนวนสารสนเทศไม่เพียงพอ ขาดคุณภาพ บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย การบริการที่ไม่สนองต่อผู้ใช้อย่างเต็มที่เท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งในปัจจุบัน บรรณารักษ์ก็มิใช่แต่จะเป็นผู้จัดจำแนกสารสนเทศ จัดหมวดหมู่ จัดเก็บและให้บริการเท่านั้น ยังต้องมีบทบาทอื่น ๆ โดยบรรณารักษ์จะเข้าไปมีบทบาทในการเอื้ออำนวยในการเรียนการสอนของผู้สอนและผู้เรียนอย่างมาก บรรณารักษ์ยุคใหม่ต้องเป็นบรรณารักษ์ที่พัฒนาตนเองด้วยการเข้าร่วมประชุม สัมมนา ค้นคว้า อ่านข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้โลกของบรรณารักษ์กว้างขึ้น ประการสำคัญคือเมื่อโลกของบรรณารักษ์กว้างโลกของห้องสมุดก็จะกว้างตามไปด้วย การจัดห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย หรือ Self Access Learning Center ก็เป็นไปได้ไม่ยาก
โลกและสิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การดำรงชีวิตของคนจึงต้องการเรียนรู้เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการเรียนรู้จึงเป็นครรลองของชีวิตที่เกิดได้ทุกที่ทุกเวลาต่อเนื่องยาวนานตลอดชีวิต เริ่มจากการเรียนรู้จากครอบครัว ชุมชน ศูนย์การเรียน โรงเรียน สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา และแหล่งความรู้ต่าง ๆ การจัดการศึกษาในปัจจุบันยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนและพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาจึงต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ เพื่อรองรับบทบาทการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เชื่อมโยงการศึกษานอกระบบและในระบบ จึงต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายประการที่จะจัดห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ เป็นการจัดสร้างบรรยากาศภายในห้องสมุดให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ และท้าทายให้ผู้ใช้อยากรู้ด้วยรูปแบบต่าง ๆ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ในหมวด 3 ระบบการศึกษา มาตรา 15 การจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ตามศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อม สื่อหรือแหล่งความรู้อื่น ๆ โดยเน้นความสำคัญทั้งความรู้คู่คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับการศึกษา ในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ในด้านการจัดกิจกรรมก็ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติ ให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง การจัดการศึกษาดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกกว้างได้ตั้งแต่เกิดจนตาย ให้ทุกคนได้มีโอกาสเป็นทั้งผู้เรียนและผู้สอนในเวลาเดียวกัน ให้การศึกษากับการดำเนินชีวิตประจำวันหลอมรวมเข้าด้วยกัน
จากเรื่องดังกล่าว สามารถนำมาประยุกต์การจัดห้องสมุดให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการศึกษาได้ ด้วยการจัดให้เกิดมุมต่าง ๆ ที่หลากหลายขึ้นในห้องสมุด ที่ผู้ใช้สามารถศึกษาหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างที่เรียกว่า “Self Access Learning Center” ในโลกปัจจุบันและอนาคต การรับรู้ข่าวสาร ข้อมูล หรือสารสนเทศ ต่างมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิตในสังคม เพราะจะทำให้เป็นคนฉลาด ทันคน ช่วยในการตัดสินใจ ช่วยในการแก้ปัญหาทั้งปัญหาชีวิตส่วนตัวและการงาน ช่วยในการพัฒนาประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานและทำให้เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ การที่ผู้ใช้บริการสนใจศึกษาตามมุมความรู้ต่าง ๆ ที่ห้องสมุดจัดไว้ให้จะเป็นการเสริมสร้างความสนใจใฝ่รู้และเกิดความคิดสร้างสรรค์ในบุคคลนั้น ๆ ทีละเล็กทีละน้อย ซึ่ง ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ได้ให้ความหมายของความคิดสร้างสรรค์ไว้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถของสมองที่คิดได้กว้างไกลหลายแง่มุม เรียกว่าความคิดแบบอเนกนัย ซึ่งทำให้เกิดความคิดแปลกใหม่แตกต่างไปจากเดิม เป็นความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ รอบตัว เกิดการเรียนรู้ เข้าใจ จนเกิดปฏิกิริยาตอบสนองให้เกิดความคิดเชิงจินตนาการ ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของความคิดสร้างสรรค์อันจะนำไปสู่การประดิษฐ์หรือคิดค้นสิ่งแปลกใหม่ หรือเพื่อการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะต้องอาศัยบูรณาการจากประสบการณ์และความรู้ทั้งหมดที่ผ่านมา(ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์, 2546, หน้า 7) มุมที่สามารถจัดให้มีในห้องสมุด เช่น มุมบริการ มุมนิทรรศการ มุมหรือห้องโสตทัศนูปกรณ์ มุมสืบค้น มุมหนังสือทั่วไป มุมหนังสืออ้างอิง มุมหนังสือคู่มือ มุมหนังสืออ่านนอกเวลา มุมแบบเรียน มุมวารสารและหนังสือพิมพ์ มุมอนุรักษ์หนังสือเก่า มุมเด็กและเยาวชน มุมอินเทอร์เน็ต มุมศิลปะวัฒนธรรม มุมข้อมูลชุมชน มุมหนังสือใหม่ เป็นต้น การจัดมุมต่าง ๆ ในห้องสมุดสิ่งที่สำคัญที่จะต้องคำนึงถึงในการจัด คือ
จะต้องไม่ลืมวัตถุประสงค์ในการจัด ในส่วนของการแบ่งพื้นที่ในการจัดมุมก็ขึ้นอยู่กับขนาดและพื้นที่ของห้องสมุดนั้น ๆ
บรรณารักษ์หลายท่านคงสงสัยว่า การที่จะจัดมุมต่าง ๆ ให้ได้ดีสามารถหาประสบการณ์ที่จะจัดมาจากไหนได้บ้าง ซึ่งประสบการณ์ที่เป็นภาพรวม ๆ ที่จะทำให้ผู้รับผิดชอบเกิดความคิดที่จะจัดมุมต่าง ๆ ให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้ ค้นคว้า ให้เกิดความรู้ได้ด้วยตนเองนั้น อาจจะเกิดจากปัจจัยหลาย ๆ ด้าน เช่น จากการไปศึกษาดูงานห้องสมุดของหน่วยงานอื่น การติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของห้องสมุด และจากการคิดและประมวลความรู้ในเรื่องห้องสมุดด้วยตนเองให้เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ ปัจจัยที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ จากการคิดและประมวลความรู้ในเรื่องห้องสมุดด้วยตนเอง ซึ่งผู้รับผิดชอบห้องสมุดแต่ละท่านจะใช้ระยะเวลาที่ต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยการศึกษาดูงานห้องสมุดและปัจจัยการติดตามข่าวสารต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ เมื่อมีปัจจัยจากการคิดและการประมวลความรู้เกิดขึ้น ห้องสมุดนั้น ๆ ก็สามารถเป็นอะไรก็ได้ตามที่ผู้รับผิดชอบต้องการและยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าผู้รับผิดชอบหยุดอยู่กับที่ไม่ปรับเปลี่ยนบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมภายในให้น่าสนใจและน่าเข้าไปใช้บริการ ผู้ใช้ก็จะเกิดความเบื่อหน่ายและถ้าไม่จำเป็นก็คงจะไม่เข้าไปใช้บริการ อีกทั้งมุมความรู้และกิจกรรมที่ห้องสมุดได้พัฒนานำมาใช้ต้องเอื้ออำนวยให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้ให้มากที่สุดด้วย
การจัดห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกฝังผู้ใช้ให้เป็นผู้ที่มีความใฝ่รู้รักการอ่านและพัฒนาตนให้ทันต่อการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการเสาะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมที่ทันสมัยหรือทันต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลก ในความหมายที่ว่าตามอัธยาศัยนั้นเป็นการจัดการศึกษาให้กับผู้ใช้บริการ ให้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ตามศักยภาพที่เขามีอยู่ตามความพร้อมและโอกาส ไม่เป็นการบังคับ จัดกิจกรรมให้น่าสนใจให้ผู้ใช้บริการเข้าไปศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองโดยเขาไม่รู้สึกว่ากำลังบังคับให้ต้องเรียนรู้เรื่องนั้น ๆ
การจัดห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย (Self Access Learning Center) ห้องสมุดบางที่อาจจะปรับเข้าสู่ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ และบางที่ไม่สามารถปรับเข้าสู่ระบบห้องสมุดอัตโนมัติได้เนื่องจากเหตุผลบางประการ แต่ทางห้องสมุดก็ควรที่จะนำคอมพิวเตอร์มาไว้เป็นส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งการปรับห้องสมุดเข้าสู่ระบบห้องสมุดอัตโนมัติจะเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างการเรียนรู้ของผู้ใช้ให้สะดวกก้าวไกลและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ หมายถึง การทำงานของระบบงานห้องสมุดที่ทำงานร่วมกันหรือเชื่อมโยงกัน ได้แก่ งานจัดหา งานวิเคราะห์หมวดหมู่ งานบริการยืม-คืน และงานบริการสืบค้นข้อมูล และการจัดการหรือการบริหารระบบห้องสมุด เป็นการบริหารระบบสารสนเทศรูปแบบหนึ่งที่ใช้กับระบบงานในห้องสมุด (น้ำทิพย์ วิภาวิน, 2545, หน้า 14) แต่การนำระบบห้องสมุดอัตโนมัติมาใช้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็เกิดจากความพร้อมของบุคลากรห้องสมุด การบริการด้วยความรับผิดชอบของบริษัทผู้แทนจำหน่าย ความมุ่งมั่นของผู้บริหารห้องสมุดและเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ รวมถึงการสนับสนุนด้านงบประมาณจากผู้บริหารองค์กร โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติทุกระบบสามารถใช้งานได้ในห้องสมุดทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก แต่ต้องพิจารณาว่าการนำระบบนั้นมาใช้มีความคุ้มค่าและเหมาะสมหรือไม่ และบุคลากรของห้องสมุดมีความพร้อมเพียงใด
ในส่วนของห้องสมุดจะเป็นการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยได้นั้น แนวทางการจัดจะต้องเป็นรูปแบบการจัดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และนำมาบูรณาการตามความเหมาะสมกับผู้ใช้ด้วย บทบาทของห้องสมุดที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของคนในสังคม การเรียนรู้ในปัจจุบันเน้นแนวคิดของการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เรียนมีแนวทางในการได้รับความรู้หลายรูปแบบ
ดังนั้นห้องสมุดเป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบในการให้บริการการเรียนรู้แก่ผู้มาใช้บริการให้สามารถใช้บริการได้อย่างทั่วถึง เพื่อสนองความต้องการของผู้มาใช้บริการให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านการศึกษาหาความรู้ การประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ และการพักผ่อนหย่อนใจ การเรียนรู้ยิ่งมากเท่าไร ยิ่งเพิ่มพูนความรู้และสั่งสมประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น บุคคลใดที่ต้องการจะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของตนให้มีคุณค่าจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้และศึกษาไปจนตลอดชีวิต เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การศึกษาคือชีวิต ดังนั้นห้องสมุดกับการศึกษาจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ได้