การสอนแบบอิงประสบการณ์ (Experience Based Approach - EBA) เป็นวิธีการสอนที่กำหนดประสบการณ์ที่คาดหวังสำหรับผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้เผชิญ ผจญ และเผด็จประสบการณ์ด้วยการเสาะแสวงหาความรู้ที่เป็นเนื้อหาสาระสำหรับประกอบภารกิจ/งาน และทักษะความชำนาญจากแหล่งวิทยาการที่ได้มีการชี้แนะแหล่งหรือจัดเตรียมไว้ให้บรรลุ ผลกระทบของวิธีการสอนแบบอิงประสบการณ์ ดังนี้ 1) ทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตและการทำงานโดยมุ่งให้ “ ทำได้ ” มากกว่า “ ให้รู้ ” แต่ไม่มีเป้าหมายเด่นชัดว่าจะนำความรู้ไปทำอะไร 2) เป็นการเลียนแบบระบบธรรมชาติของชีวิตจริงที่เมื่อมีปัญหาที่ต้องประสบ ผู้เรียนก็จะขวนขวายหาความรู้จากแหล่งต่างๆ มาใช้ในการแก้ปัญหา ทำให้ได้กระบวนการในการทำงานที่สามารถนำติดตัวไปใช้ได้ 3) สร้างคุณลักษณะที่สำคัญในการเป็นสมาชิกสังคมโลก คือ ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความเชื่อมั่นในตนเอง รู้จักเสาะแสวงหาความรู้ รู้จักตัดสินใจ และการทำงานเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้คิดและทำอย่าง “ มืออาชีพ ” 4) บทบาทผู้สอนและผู้เรียนจะเปลี่ยนไป (1) ผู้เรียนจะต้องมีความรับผิดชอบในการแสวงหาความรู้มาใช้ในการเผชิญประสบการณ์จากผู้รู้และแหล่งรู้ต่างๆ (2) ผู้สอนจะทำหน้าที่เกื้อกูล เอื้ออำนวยความสะดวกในการเรียน เป็นผู้ประสานงาน ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา และให้ข้อมูลตามที่ผู้เรียนขอร้องและทำหน้าที่ประเมินการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่กำหนดให้ผู้เรียนเผชิญ 5) ระบบการสอนแบบอิงประสบการณ์จะเป็นระบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล และเป็นระบบแห่งอนาคต ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ได้กำหนดขั้นตอนการสอนแบบอิงประสบการณ์ ทั้งหมด 7 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 ประเมินก่อนเผชิญประสบการณ์ โดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเผชิญประสบการณ์
ขั้นที่ 2 ปฐมนิเทศประสบการณ์ ครูต้องชี้แจงสิ่งต่อไปนี้ให้นักเรียนทราบ คือ แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ ประสบการณ์ที่นักเรียนจะต้องเผชิญ การจัดบริบท/สถานการณ์ ขั้นตอนการเผชิญประสบการณ์ (ภารกิจ/งาน) สื่อ/เครื่องมือ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ในการเผชิญประสบการณ์ และเครื่องมือการประเมินผล
ขั้นที่ 3 เผชิญประสบการณ์ คือ ผู้เรียนเข้าสู่ภาวะการณ์ หรือประสบการณ์หลักที่กำหนดไว้ในแต่ละหน่วยประสบการณ์ ในประสบการณ์หลักประกอบด้วยประสบการณ์รอง กิจกรรมที่ผู้เรียนต้องเผชิญประสบการณ์ครอบคลุมการวางแผน การเตรียมการ และการประเมิน กระบวนการที่กำหนดไว้ตามขั้นตอน คือ เผชิญประสบการณ์ ผจญประสบการณ์ ผสมผสานประสบการณ์ และเผด็จประสบการณ์ เพื่อจะได้งานที่เขาต้องการเสร็จสิ้นสมบูรณ์
ขั้นที่ 4 รายงานความก้าวหน้า ขึ้นอยู่กับว่าประสบการณ์นั้นมีปริมาณมากน้อยเท่าใด โดยให้ผู้เรียนนำมาพูดให้ครูผู้สอนและเพื่อนนักเรียนฟังว่าศึกษาไปถึงขั้นไหนแล้ว เพื่อให้เพื่อนแสดงความคิดเห็น และครูผู้สอนชี้แนะ เพื่อให้นักเรียนนำความคิดนั้นไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ขั้นที่ 5 รายงานผลการเผชิญประสบการณ์ หลังจากนักเรียนเผชิญประสบการณ์ และรายงานความก้าวหน้าแล้ว ให้นักเรียนนำงานที่สำเร็จรูปมาให้เพื่อน และครู ได้ชี้ให้เห็นจุดเด่นจุดด้อยของงาน
ขั้นที่ 6 สรุปผลการเผชิญประสบการณ์ เป็นขั้นที่สำคัญที่สุดอย่างยิ่ง ทำหลังจากที่นักเรียนได้เสนอผลงานเรียบร้อยแล้ว เป็นขั้นที่ต้องพูดให้ฟังอีกครั้งประสบการณ์หลักมีอะไร ประสบการณ์รองมีอะไร ภารกิจของงานที่จะต้องทำมีอะไร
ขั้นที่ 7 ทดสอบหลังเผชิญประสบการณ์ โดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเผชิญประสบการณ์
ไม่มีความเห็น