แบบบันทึกเรื่องเล่า
หัวปลา (Knowledge Vision) การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน (สาระ/งานโครงการ)
m สาระ การเรียนรู้ภาษาไทย m งาน/โครงการ สอนซ่อมเสริมการอ่านการเขียน
คุณกิจ (ผู้เล่าเรื่อง)นางอุบล ยอดสลุง โรงเรียนบ้านโคกตูม สพท.ลบ 1
ดิฉันเป็นครูสอนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ , ๖ มามากกว่า๒๐ปีแล้ว สิ่งที่ดิฉันพบและเป็นปัญหาต่อการเรียนการสอนของดิฉันมากที่สุดก็คือ ปัญหาเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ , ๖ อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
ในช่วงแรกๆที่ดิฉันพบปัญหา ดิฉันได้จัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริมนอกเวลาเรียนให้กับเด็กเหล่านี้ แต่ก็ดูว่าจะไม่ค่อยได้ผล เด็กไม่สนใจมาเรียนต้องคอยตามกัน หรือบางครั้งครูก็งดสอนเพราะต้องไปทำงานอื่น สุดท้ายก็ให้เด็กจบป.๖ไปทั้งที่ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เป็นผลให้เด็กเหล่านี้ก็ไม่อยากที่จะเรียนต่อ บางคนเรียนต่อในชั้นมัธยมแต่ก็เรียนไม่จบ ออกกลางคันในที่สุด เมื่อมองเห็นผลของปัญหาตรงนี้แล้วดิฉันจึงพยายามที่จะหาวิธีการที่ดีที่สุดที่จะช่วยเด็กนักเรียนในโรงเรียนของดิฉันโดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ , ๖ ต้องได้รับการแก้ปัญหาให้อ่านออก และเขียนได้ทุกคนก่อนที่จะจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ไป
สิ่งแรกที่ดิฉันให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ การสร้างความเป็นมิตร ให้พวกเขารู้สึกไว้ใจ ว่าเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้ดิฉันแล้วเขาจะไม่ถูกดุว่าอ่านไม่ออก เขียนไม่ถูก ในช่วงแรกๆ ดิฉันจะคอยเล่าเรื่องสนุกๆ ผลัดกันทายปัญหาบ้าง เล่าเรื่องส่วนตัวทางบ้านบ้าง พวกเขาก็จะรักดิฉัน และอยากมาเรียนกับดิฉัน เพราะพวกเขารู้ว่าดิฉันเข้าใจพวกเขา
ดิฉันได้เลือกเวลาสอนซ่อมเสริมในช่วงเวลา ๐๘.๐๐ น. – ๐๘.๓๐ น. ของวันเปิดเรียนทุกวันซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าแถวเคารพธงชาติ ซึ่งแต่เดิมดิฉันเคยใช้เวลาพักกลางวันหลังที่พวกเขารับประทานอาหารกลางวันแล้ว ปรากฏว่านักเรียนมาบ้างไม่มาบ้าง มาก็ไม่ตรงเวลา เสียเวลาตามกัน เพราะในช่วงเวลาพักกลางวันเป็นเวลาเล่นของพวกเขากับเพื่อนๆ ที่พวกเขามีความสุขกับการเล่นตรงนี้มาก ดิฉันจึงเปลี่ยนไปใช้เวลาช่วงเช้าแลกกับการเข้าแถว ปรากฏว่าได้ผลดีมากพวกเขามาตรงเวลา และไม่ต้องตามกันด้วย และที่สำคัญที่ดิฉันยึดปฏิบัติอยู่เสมอคือ ความสม่ำเสมอในการสอนจะมีกิจกรรม หรืองานด่วนอะไรก็แล้วแต่ ดิฉันจะไม่งดสอน ดิฉันจะให้ความสำคัญกับการสอนซ่อมเสริมนี้ ก่อนกิจกรรมอื่นๆ
สิ่งที่ดิฉันพบกับนักเรียนชั้น ป. ๕ – ๖ ที่อ่านไม่ออก ก็คือ พวกเขารู้จักเสียงสระไม่ครบทุกเสียง และไม่แม่นยำเสียงสระ ไม่รู้จักเสียงสะกดในมาตราต่างๆ และไม่แม่นยำเสียงสะกด สิ่งที่ดิฉันทำก็คือ ให้นักเรียนฝึกเสียงสระ กับเสียงสะกด สองมาตรา เช่น สอนสระ -ะ ก็สอนเสียงสะกด แม่ กก กับแม่ กด พวกเขาก็จะรู้จัก คำที่ประสมสระ –ะ กะ จะ ตะ และก็จะรู้จักคำประสมสระ –ะแบบมีตัวสะกด กัก จัก ตัก และ กัด จัด ตัด และพวกเขายังได้รู้จักการเทียบเสียงคำที่มีตัวสะกดต่างมาตรากันด้วย กัก - กัด , จัก - จัด , ตัก - ตัด เป็นต้น หลังจากนั้นดิฉันก็ให้พวกเขาบอกความหมายของคำที่เขาอ่าน จากนั้น ก็จะแต่งประโยค หรือเรื่องสั้นๆเกี่ยวกับคำที่เรียนให้นักเรียนได้ฝึกอ่านกัน เช่น ตาจะไปดักปลา หมาจะกัดตา ตาตัดไม้ไล่หมา ........ จากนั้นก็จะตามด้วยการฝึกเขียน เริ่มจากการเขียนตาม การสร้างคำใหม่ การแต่งเป็นประโยค จนถึงเขียนเป็นเรื่องสั้นๆ ดิฉันก็จะใช้กระบวนการอย่างนี้กับสระ และมาตราตัวสะกดอื่นๆต่อไปจนครบถ้วน และสิ่งที่ได้พบก็คือนักเรียนไม่เบื่อที่จะอ่านและเขียน และสามารถสร้างคำใหม่ ได้เป็นอย่างดีและพัฒนาการเขียนได้พร้อมกับการอ่านได้ด้วย
และอีกสิ่งหนึ่งที่ดิฉันต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาคือ ลีลาในการสอน เช่นทำอย่างไรเด็กจึงจะจำรูป และเสียงของ สระ และตัวสะกดได้อย่างแม่นยำ เช่น สอนสระ –ะ มีตัวสะกด ก็ต้องเล่าเป็นเรื่องเป็นราวให้นักเรียนเห็น เป็นภาพ เช่น สระ -ะ กลัวผีมาก เวลาไปไหนกับพยัญชนะก็จะเดินตามหลังตลอด ( กะ ) พอดีเดินๆมามีพยัญชนะอีกตัวหนึ่งเดินสะกดรอยตามหลังมา (ด) - ะ จึงตกใจกระโดดกอดกันกลมขึ้นไปอยู่บนหลัง กอไก่ ( กัด ) เมื่อเล่าอย่างนี้นักเรียนก็สนุก แล้วพวกเขาก็เล่ากันเองโดยเปลี่ยนพยัญชนะต้น และตัวสะกดกันเองได้ พวกเขามีภาพในการจำเขาจึงจำได้แม่นยำขึ้น พอถึงสระตัวอื่นๆบางทีเขาก็แต่งแทนครูก็มี ก็สนุกดีค่ะ นอกจากนี้ ทั้งเพลง ทั้งเกม และทั้งสื่ออื่นๆ ดิฉันก็ได้มาจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูคนอื่นๆอีกมากมาย แล้วก็นำมาดัดแปลงให้ข้ากับเด็กของเรา
เมื่อถึงวันนี้มีนักเรียนหลายสิบคนแล้วที่ดิฉันได้ช่วยแก้ปัญหาให้เขาอย่างทันเวลา ให้เขาได้มีเครื่องมือที่จะช่วยให้เขาได้ไขว่คว้าหาความรู้ เพื่อการพัฒนาตนเองสู่อนาคตที่สดใสในวันข้างหน้าได้อย่างมีความสุข
อ่านแล้วปลื้มใจจริงๆ..ที่ทำเพื่อเด็ก..ชื่นชมนะคะ
ขอบคุณครับอาจารย์ที่ทำเพื่อ เด็กๆครับ