ผู้วิจัย นางทิพวรรณ สารีรัตน์
ส.ม.1 มมส สาขาการจัดการระบบสุขภาพ
บทคัดย่อ
โรคเบาหวานเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์เกิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุข
การตัดกรองเป็นแนวทางหนึ่งในการค้นหาผู้ป่วยเบาหวาน
เพื่อที่จะได้ให้การวินิจฉัยและรักษาโรคเบาหวานได้เร็วขึ้น
ในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโคเบาหวาน
อาจมีปัจจัยในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน
อันเนื่องมาจากทรัพยากรการบริหารจัดการละกระบวนการบริหารจัดการ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ มีความมุ่งหมาย
เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะประชากร ทรัพยากรการบริหารจัดการ
และกระบวนการบริหารจัดการ
กับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัย
ในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ผู้รับผิดชอบงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานประจำสถานีอนามัยในจังหวัดสกลนคร
กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 166 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม
วิเคราะห์หาความเชื่อมั่นชองแบบสอบถามด้านความรู้ โดยใช้สูตร kuder-
Richardson (KR-20) ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.71
และแบบสอบถามด้านกระบวนการบริหารจัดการ โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา
ของ ครอนบาค (Cronbach's Alpha Coefficient) ได้ค่าความเชื่อมั่น
0.95 ได้รับแบบสอบถามกลับ จำนวน 156 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 93.98
นำมาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยใช้การทดสอบไคสแควร์
ผลการวิจัย พบว่า เพศ มีความสัมพันธ์กับ
ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำสถานีอนามัย
ในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P <
0.05) ส่วนอายุ รายได้ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา
ตำแหน่งที่ปฏิบัติงาน และความรู้ ในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน
ไม่มีความสัมพันธ์กับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ประจำสถานีอนามัย ในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน
ส่วนปัจจัยด้านทรัพยากรการบริหารจัดการโดยรวม ได้แก่ กำลังคน งบประมาณ
และวัสดุอุปกรณ์ พบว่า
ไม่มีความสัมพันธ์กับผลการปฏิบัติงานของเจ้ากน้าที่สาธารณสุขประจำสถานี
อนามัยในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน
ปัจจัยด้านกระบวนการบริหารจัดการโดยรวม ได้แก่ ด้านการวางแผน
ด้านการจัดการองค์กร ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการอำนวยการ
และด้านการควบคุม พบว่า
มีความสัมพันธ์กับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัย
ในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P <
0.05)
สำหรับผลการปฏิบัติงาน ในงานป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานทุกกิจกรรม
พบว่า ผลการปฏิบัติงานอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 78.40 และระดับดี
ร้อยละ 21.60 คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 2.58
โดยสรุป จากการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า กระบวนการบริหารจัดการ
มีผลต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัยในงานป้องกัน
และควบคุมฌรคเบาหวาน
ความมุ่งหมายของการวิจัย
1. ความมุ่งหมายทั่วไป
เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่าง คุณลักษณะประชากร ทรัพยากรการบริหารจัดการ
และกระบวนการบริหารจัดการ
กับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัยในงานป้องกันและ
ควคุมโรคเบาหวาน
2. ความมุ่งหมายเฉพาะ
2.1 เพื่อศึกษาคุณลักษณะประชากร ทรัพยากรการบริหารจัดการ
กระบวนการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัย
ในงานป้องกันและควบคุมโรค เบาหวาน
2.2 เพื่อศึกษาผลการปฏิบัติงาน และปัญหาอุปสรรค
ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัย
ในงานป้องกันและควบคุมโคเบาหวาน
2.3 เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่าง คุณลักษณะประชากร
ทรัพยากรการบริหารจัดการ กระบวนการบริหารจัดการ
กับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานีอนามัยในงานป้องกันและ
ควบคุมโรคเบาหวาน