เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ได้เข้าร่วมรับฟังเรื่องสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากสำนักงานประกันสังคม โดยมีน้องตั้ม สำเริง ฟากฟื้น ได้เข้าร่วมฟังด้วย โดยมีสิทธิประโยชน์ที่เราควรทราบ
เงินสมทบที่จะต้องถูกนายจ้างหักเข้ากองทุน เงินสบทบจะเก็บจาก 3 ฝ่าย คือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล โดยลูกจ้างจะหักร้อยละ 5 ของค่าจ้าง (หักไม่เกิน 750.- บาท หรือต่ำสุดไม่น้อยกว่า 83.- บาท ) นายจ้างจะสบทบให้อีก ร้อยละ 5 ของค่าจ้าง
อัตราร้อยละ 5 ของค่าจ้าง แยกได้ คือ
ร้อยละ 1.5 เก็บไว้กรณีเจ็บป่วย,คลอดบุตร,ทุพพลภาพ,ตาย
ร้อยละ 3 จัดเก็บกรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพ
และ ร้อยละ 0.5 กรณีว่างงาน
ประโยชน์ที่จะได้รับกองทุนประกันสังคม มี 7 กรณี
1. กรณีเจ็บป่วย ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ก่อนเจ็บป่วย กรณีทำฟัน ได้แก่ อุด ขูด ถอน เบิกได้ครั้งละ ไม่เกิน 250.- บาท ไม่เกิน 500.- กรณีทำฟันปลอมฐานอคิลิก ไม่เกิน 5 ซี่ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 1,200.- เกิน 5 ซี จ่ายไม่เกิน 1,400.-
2. กรณีคลอดบุตร ส่งเงินครบ 7 เดือนก่อนคลอดบุตร ได้รับค่าคลอดบุตรไม่เกิน 2 ครั้งๆ ละ 12,000.- บาท ผู้ประกันตนหญิงได้ค่าหยุดงาน ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นเวลา 90 วัน
3. กรณีทุพพลภาพ ส่งครบ 3 เดือน จะได้บำเหน็จชราภาพ ตามจำนวนงวดที่ส่งเงินมาแล้ว ได้รับเงินรายเดือนร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายเดือนตลอดชีวิต ตายมีค่าทำศพ พร้อมเงินสงเคราะห์
4. กรณีตาย ส่งเงินครบ 1 เดือน ก่อนตาย ผู้ทำศพได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท ทายาทจะได้เงินสงเคราะห์
5. กรณีสงเคราะห์บุตร ส่งเงินครบ 12 เดือน บุตรอายุไม่เกิน 6 ปี เบิกบุตรคราวละไม่เกิน 2 คน จะได้รับเงินรายเดือน ๆ ละ 350 .- บาท
6. กรณีชราภาพ จะได้รับเมืออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
7. กรณีว่างงาน หมดสัญญาได้รับเงินร้อยละ 30 ของค่าจ้างรายเดือนเป็นเงิน 90 วัน/ปี
ถูกเลิกจ้าง จะได้รับร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายเดือน เป็นเวลา 180 วัน/ปี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.sso.go.th สามารถตรวจสอบสิทธิประโยชน์ของตนเองได้
ขอบคุณค่ะ สำหรับเกร็ดเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่เลย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ