inter law
วิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บทที่ 8 กฎหมายระหว่างประเทศ

อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ข้อ 30-39


อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล

ข้อ 30

สถานที่

 

            1. รัฐผู้รับจะอำนวยความสะดวกในการได้มาของรัฐผู้ส่งในอาณาเขตของรัฐผู้รับตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ซึ่งสถานที่ที่จำเป็นสำหรับสถานทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่ง หรือช่วยเหลือรัฐผู้ส่งในการได้สถานที่โดยวิธีอื่น

            2. เมื่อจำเป็น รัฐผู้รับจะช่วยเหลือสถานทำการทางกงสุล ในการได้ที่อยู่ที่เหมาะสมสำหรับสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลด้วย

 

ข้อ 31

ความละเมิดมิได้ของสถานที่ทางกงสุล

 

            1. สถานที่ทางกงสุลจะถูกละเมิดมิได้เท่าที่กำหนดไว้ในข้อนี้

            2. เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับจะไม่เข้าไปในส่วนใดของสถานที่ทางกงสุลซึ่งใช้เพื่อความมุ่งประสงค์ในการปฏิบัติงานของสถานทำการทางกงสุลเฉพาะเว้นแต่ด้วยความยินยอมของหัวหน้าสถานทำการทางกงสุลหรือผู้ที่หัวหน้าสถานทำการทางกงสุลมอบหมาย หรือหัวหน้าคณะผู้แทนทางฑูตของรัฐผู้ส่ง อย่างไรก็ดีในกรณีเพลิงไหม้หรือวินาศภัยอื่นที่จำต้องกระทำการป้องกันโดยพลัน อาจถือว่าได้รับความยินยอมของหัวหน้าสถานทำการทางกงสุลแล้ว

            3. ภายใต้บังคับของบทบัญญัติของวรรค 2 ของข้อนี้ รัฐผู้รับมีหน้าที่พิเศษที่จะดำเนินการทั้งปวงที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสถานที่ทางกงสุลจากการบุกรุกหรือความเสียหายใด และเพื่อป้องกันการรบกวนต่อความสงบของสถานทำการทางกงสุล หรือการทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีของสถานทำการทางกงสุล

            4. สถานที่ทางกงสุลและเครื่องเรือน ทรัพย์สินและพาหนะของสถานทำการทางกงสุลจะได้รับความคุ้มกันจากการเรียกเกณฑ์ไม่ว่าในรูปใดเพื่อความมุ่งประสงค์ในการป้องกันประเทศหรือสาธารณูปโภค หากจำเป็นต้องมีการเวนคืนเพื่อความมุ่งประสงค์เช่นว่านั้น จะต้องดำเนินการทั้งปวงที่เป็นไปได้เพื่อหลีกเลี่ยงการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล และจะต้องจ่ายค่าทดแทนที่เพียงพอและมีประสิทธิผลแก่รัฐผู้ส่งโดยพลัน

 

ข้อ 32

การยกเว้นจากการเก็บภาษีของสถานที่ทางกงสุล

 

            1. สถานที่ทางกงสุลและที่อยู่ของหัวหน้าสถานทำการทางกงสุลอาชีพซึ่งรัฐผู้ส่งหรือบุคคลใดที่กระทำการในนามของรัฐผู้ส่งเป็นเจ้าของหรือผู้เช่า จะได้รับยกเว้นจากภาษีอากรทั้งปวงของชาติ ท้องถิ่น หรือเทศบาล นอกจากที่เป็นการชำระค่าบริการที่ได้ให้โดยเฉพาะ

            2. การยกเว้นจากการเก็บภาษีที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ จะไม่นำมาใช้กับภาษีอากรเช่นว่านั้นหากผู้ที่ได้ทำสัญญากับรัฐผู้ส่งหรือกับบุคคลที่กระทำการในนามของรัฐผู้ส่งจะต้องชำระภาษีอากรนั้นตามกฎหมายของรัฐผู้รับ

 

ข้อ 33

ความละเมิดมิได้ของบรรณสารและเอกสารทางกงสุล

 

            บรรณสารและเอกสารทางกงสุลจะถูกละเมิดมิได้ตลอดเวลา และไม่ว่าจะอยู่  ที่ใด

 

ข้อ 34

เสรีภาพในการเดินทาง

 

            ภายใต้บังคับของกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการเข้าไปในเขตซึ่งเป็นที่หวงห้ามหรือที่ควบคุมด้วยเหตุผลของความมั่นคงแห่งชาติ รัฐผู้รับจะประกันเสรีภาพในการเดินทางในอาณาเขตของตนแก่สมาชิกทั้งปวงในสถาน

ทำการทางกงสุล

 

ข้อ 35

เสรีภาพในการสื่อสาร

 

            1. รัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองเสรีภาพในการสื่อสารของสถานทำการทางกงสุลเพื่อความมุ่งประสงค์ใน

ราชการทั้งปวง ในการติดต่อกับรัฐบาลคณะผู้แทนทางฑูต และสถานทำการทางกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใดสถานทำการทางกงสุลอาจใช้วิธีการที่เหมาะสมทั้งปวง รวมทั้งผู้ถือสารทางฑูตหรือกงสุล ถุงทางฑูตหรือกงสุล และข้อความเป็นรหัสหรือกุญแจรหัส อย่างไรก็ดีสถานทำการทางกงสุลอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ

เท่านั้น

            2. หนังสือติดต่อทางราชการของสถานทำการทางกงสุลจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือติดต่อทางราชการหมายถึง หนังสือติดต่อทั้งปวงเกี่ยวกับสถานทำการทางกงสุล และหน้าที่ของสถานทำการทางกงสุล

            3. ถุงทางกงสุลจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้รับมีเหตุผลอันหนักแน่นที่เชื่อได้ว่า ถุงนั้นบรรจุสิ่งใดนอกเหนือจากหนังสือติดต่อ เอกสาร หรือสิ่งของตามวรรค 4 ของข้อนี้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นอาจร้องขอให้ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของรัฐผู้ส่งเปิดถุงนั้นต่อหน้าตน ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ส่งปฏิเสธการร้องขอนี้ ถุงนั้นจะถูกส่งกลับไปยังต้นทาง

            4. หีบห่อที่ประกอบเป็นถุงทางกงสุลจะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้แสดงสถานะของถุงทางกงสุล และอาจบรรจุหนังสือติดต่อทางราชการและเอกสาร หรือสิ่งของซึ่งมุ่งใช้ในทางราชการโดยเฉพาะเท่านั้น

            5. ผู้ถือสารทางกงสุลจะได้รับเอกสารราชการแสดงสถานะของตนและจำนวนหีบห่อที่ประกอบเป็นถุงทางกงสุล 

เว้นแต่ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับผู้ถือสารทางกงสุลจะต้องไม่เป็นทั้งคนชาติของรัฐผู้รับ หรือ เว้นแต่จะเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ไม่เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ผู้ถือสารทางกงสุลจะได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ผู้ถือสารทางกงสุลจะอุปโภคความละเมิดมิได้ในตัวบุคคล และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในลักษณะใด

            6. รัฐผู้ส่ง คณะผู้แทนทางฑูตและสถานทำการทางกงสุลอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางกงสุลเฉพาะกรณีได้ ในกรณี

เช่นว่านี้ ให้นำบทบัญญัติของวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ความคุ้มกันที่ระบุไว้ในวรรคนั้นจะสิ้นสุดลงเมื่อผู้ถือสาร เช่นว่านั้นได้ส่งถุงทางกงสุลในความรับผิดชอบให้แก่ผู้รับแล้ว

            7. ถุงทางกงสุลอาจถูกมอบหมายให้กับผู้บังคับการของเรือหรือเครื่องบินพาณิชย์ซึ่งมีกำหนดการถึงท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาต ผู้บังคับการของเรือหรือเครื่องบินพาณิชย์นั้นจะได้รับเอกสารราชการแสดงจำนวนหีบห่อที่ประกอบเป็นถุงทางกงสุล แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเรือหรือเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางกงสุล สถานทำการทางกงสุลอาจส่งสมาชิกในสถานทำการทางกงสุลคนหนึ่งไปรับมอบถุงทางกงสุลโดยตรงและอย่างเสรีจากผู้บังคับการของเรือหรือเครื่องบินนั้น โดยการตกลงกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เหมาะสม

 

ข้อ 36

การสื่อสารและการติดต่อกับคนชาติของรัฐผู้ส่ง

 

            1. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุลในส่วนเกี่ยวกับคนชาติของรัฐผู้ส่ง

            (เจ้าพนักงานกงสุลจะมีเสรีภาพที่จะสื่อสารและเข้าถึงคนชาติของรัฐผู้ส่ง คนชาติของรัฐผู้ส่งจะมีเสรีภาพเช่นเดียวกันในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารและการเข้าถึงเจ้าพนักงานกงสุลของรัฐผู้ส่ง

            (ถ้าคนชาติของรัฐผู้ส่งร้องขอ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้รับจะต้องแจ้งให้สถานทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งทราบโดยไม่ชักช้า ถ้าคนชาติของรัฐนั้นถูกจับกุม หรือถูกขังไว้ในเรือนจำ หรือถูกควบคุมตัวระหว่างการดำเนินคดี หรือถูกกักขังในลักษณะอื่นใดภายในเขตกงสุล การสื่อสารใดที่มีถึงสถานทำการทางกงสุลโดยบุคคลที่ถูกจับกุมที่อยู่ในเรือนจำ 

ที่ถูกควบคุม หรือที่ถูกกักขังนั้นเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะต้องส่งต่อไปโดยไม่ชักช้าด้วย เจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะต้องแจ้งให้บุคคล

ที่เกี่ยวข้องทราบโดยไม่ชักช้าถึงสิทธิของบุคคลผู้นั้นตามอนุวรรคนี้

            (เจ้าพนักงานกงสุลมีสิทธิเข้าเยี่ยมคนชาติของรัฐผู้ส่งซึ่งอยู่ในเรือนจำ ถูกควบคุมหรือถูกกักขัง สนทนาและ

ติดต่อทางหนังสือกับคนชาติดังกล่าวและจัดให้มีผู้แทนทางกฎหมายของบุคคลเช่นว่านี้ เจ้าพนักงานกงสุลมีสิทธิเข้าเยี่ยม

คนชาติของรัฐผู้ส่งคนใดซึ่งอยู่ในเรือนจำ ถูกควบคุม หรือถูกกักขังในเขตของตนตามคำพิพากษาของศาลด้วย อย่างไร

ก็ตาม เจ้าพนักงานกงสุลต้องงดเว้นการดำเนินการแทนคนชาติซึ่งอยู่ในเรือนจำ ถูกควบคุม หรือถูกกักขัง ถ้าคนชาติผู้นั้นคัดค้านการกระทำเช่นว่านั้นโดยชัดแจ้ง

            2. สิทธิที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ จะต้องใช้ให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ภายใต้เงื่อนไขว่ากฎหมายและข้อบังคับดังกล่าวต้องให้ผลอย่างเต็มที่ต่อความมุ่งประสงค์ที่ได้มุ่งประสาทสิทธิไว้ตามข้อนี้

ข้อ 37
การแจ้งในกรณีตาย แต่งตั้งผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลผลประโยชน์

เรืออับปาง และอุบัติเหตุทางอากาศ

            หากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้รับมีข่าวที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่เช่นว่านั้นมีหน้าที่
            (แจ้งสถานทำการทางกงสุลในเขตที่การตายได้เกิดขึ้นโดยไม่ชักช้าในกรณีคนชาติของรัฐผู้ส่งตาย
            (แจ้งสถานทำการทางกงสุลที่มีอำนาจโดยไม่ชักช้าถึงกรณีใดที่ปรากฏว่าการแต่งตั้งผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผลประโยชน์จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เยาว์หรือบุคคลอื่นที่หย่อนความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง อย่างไรก็ดี การแจ้ง

เช่นว่านี้จะไม่เสื่อมเสียต่อการใช้กฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการแต่งตั้งเช่นว่านั้น
            (แจ้งสถานทำการทางกงสุลที่อยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุที่สุดโดยไม่ชักช้า ถ้าเรือที่มีสัญชาติของรัฐผู้ส่งอับปางหรือเกยตื้นในทะเลอาณาเขตหรือน่านน้ำภายในของรัฐผู้รับหรือถ้าเครื่องบินที่จดทะเบียนในรัฐผู้ส่งประสบอุบัติเหตุในอาณาเขตของรัฐผู้รับ

ข้อ 38
การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับ

            ในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพนักงานกงสุลอาจติดต่อกับ
            (เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้มีอำนาจของเขตกงสุล
            (เจ้าหน้าที่ส่วนกลางผู้มีอำนาจของรัฐผู้รับ ถ้าและเท่าที่กฎหมายข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติของรัฐผู้รับ หรือความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้กระทำได้

ข้อ 39
ค่าธรรมเนียมและค่าบริการทางกงสุล

ในอาณาเขตของรัฐผู้รับ สถานทำการทางกงสุลอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการสำหรับการกระทำทางกงสุล ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง
            2. เงินที่เก็บได้ในรูปค่าธรรมเนียม และค่าบริการที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ และใบรับเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการเช่นว่านั้น จะได้รับยกเว้นจากภาษีอากรทั้งปวงในรัฐผู้รับ

หมายเลขบันทึก: 179519เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2008 16:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2012 01:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท