วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2551 ได้มีการเลือตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร (อ.บ.จ.) พร้อมกันทั่วประเทศ เช้านี้ได้ทำหน้าที่ประชาชนคนไทยที่ดี สนับสนุนการปกครองในระบบประชาธิปไตย โดยไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งฯ ตั้งแต่เลือกตั้ง ส.ส.เมื่อ 23 ธันวาคม 2550 เลือกตั้ง ส.ว. เมื่อ 2 มีนาคม 2551 และวันนี้เลือกตั้งนายกอ.บ.จ.การไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยในระบบประชาธิปไตย และเป็นการยึดมั่นในการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นจรรยาบรรณของครูเราพึงปฏิบัติ การเลือกตั้ง ส.ส. และส.ว. ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ทำหน้าที่อะไร ก็ไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนวัดวังไผ่ หมู่ที่ 3 ตำบลวังไผ่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดชุมพร ปฏิบัติตัวตามขั้นตอนจนถึงขั้นตอนสุดท้ายหย่อนบัตรเลือกตั้ง ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
เลือกเสร็จแล้วก็สงสัย ชาวบ้านเขาจะรู้ทุกคนไหมหนอ! ว่าเลือกนายก อ.บ.จ.ไปทำอะไร? เวลาเขาหาเสียงเขาบอกจะสร้างนั่น จะทำนี่ให้ชาวบ้าน เหมือนกับหาเสียง ส.ส.อย่างไรก็อย่างนั้น ผู้สมัครบางคนก็เป็นอดีต ส.ส. หลายสมัย เราได้ยินเขาโฆษณาหาเสียง จะสร้างโน่น สร้างนี่ให้พี่น้องชาวชุมพร เรายืนฟังเขาพูดด้วยความสนใจ (บังเอิญเดินผ่านไปได้ยิน)จึงหยุดฟัง ฟังแล้วก็คันปากยิบ ๆ อยากจะถามเขาว่า "แล้วทำไม?เมื่อเป็นส.ส.จึงไม่คิดจะทำ" เพิ่งจะคิดทำเมื่อสมัครนายก อ.บ.จ.นี่นะ เฮ้อ!! เราเองเป็นครูก็เห็นประโยชน์ของการมีอ.บ.จ.ก็ตอนผู้บริหารโรงเรียนทำโครงการของบประมาณสนับสนุนการศึกษา 2-3 ปีติดต่อกัน และก็ได้ตามที่ขอถึง 90 % ขณะนี้โรงเรียนมีโปรแจคเตอร์ มีคอมพิวเตอร์ใช้ในงานบริหารโรงเรียน (เพราะโรงเรียนมีห้องคอมฯเพื่อการเรียนการสอนเท่านั้นจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจาก สพฐ.) แต่เมื่อจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ตามกระบวนการของหลักสูตรตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไม่พอเพียงกับการจัดการเรียนการสอน (เดิมมี 15 เครื่อง นักเรียนบางห้อง ถึง 50 คน) จะทำอย่างไรดีล่ะคราวนี้ งบจัดสรรจากหน่วยเหนือก็ไม่มีให้ หรือถ้ามีก็ต้องรอก่อน ผู้บริหารโรงเรียนได้ทำโครงการเสนอของบประมาณจาก อ.บ.จ.เพื่อซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์อีก 15 เครื่อง รวมกับของเดิม ก็เป็น 30 เครื่อง ผู้สอนก็ชื่นใจมีคอมฯให้เด็กได้เรียนอย่างทั่วถึง เป็นคอมฯจอ LCD เครื่องประกอบเอง ในวงเงิน 250,000 บาท ไม่ต้องคิดอะไรมากขั้นตอนและที่ไปที่มาเป็นอย่างไรนั้น ไม่ต้องสนใจ คิดแต่เพียง "มีคอมฯสอนเด็กก็พอแล้ว" และที่เห็นชัดเจนก็คือหนังสือห้องสมุดจำนวนมากที่โรงเรียนไม่ได้ขอ แต่ได้รับมา สำนักงานเขตพื้นที่ได้มีหนังสือสั่งการให้ตรวจสอบคุณภาพของหนังสือเหล่านั้น บรรณรักษ์และคุณครูได้ช่วยกันตรวจสอบก็ใช้ได้นะหนังสือมีปะปนกันหลายประเภท สรุปว่าใช้ได้ ทั้งหมดที่กล่าวนี้เราเห็นประโยชน์ที่ได้รับจากนายก อ.บ.จ.ในด้านการศึกษา แต่ในด้านอื่นเราไม่ทราบเพราะไม่ได้สัมผัส
ก็เป็นประชาชนคนไทยที่ไม่ดีคนหนึ่ง ที่หูตาไม่กว้างไกล บังเอิญโรงเรียนอยู่ในเขตพื้นที่ของเทศบาลตำบล ก็เห็นก็รู้เฉพาะเรื่องของเทศบาลตำบลเท่านั้น รู้เพียงเท่านี้ก็ปวดหัวแล้วเรา
อุ๊ย !!!ทำไมนอนหลับทับสิทธิล่ะ
ไม่มีความเห็น