ขิง มีชื่อพื้นเมืองว่า ขิงแกลง ขิงแดง ขิงเผือก
เหง้าแก่ทั้งสดและแห้ง มีรสเผ็ดร้อน สรรพคุรช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อยอาหาร แก้เสมหะในลำคอ แก้ลม แก้บิด เป็นยาแก้อาเจียน บำรุงธาตุไฟ
ช่อดอกอ่อน ลวกสุก จิ้มน้ำพริก ช่วยขับลม ย่อยอาหาร
ในเหง้าขิงแก่ พบ menthol มีฤทธิ์ขับลม borneol , fenchone และ 6 - gingerol ,มีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน สารที่มีรสเผ็ด ได้แก่ 6 - gingerol ลดการบีบตัวของลำไส้จึงช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเกร็งของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารและลำไส้ พบสารออกฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและสารที่ออกฤทธิ์ต้านการอาเจียนได้แก่ 6-shogoal 8-shogoal 10-shogoal พบว่าสารสกัดขิงด้วยเมธานอลมีฤทธิ์ต้านการอาเจียนเมื่อทดลองกับอาสาสมัครที่มีอาการเมาเรือหลายครั้งบางรายงานได้ผลดี ขณะที่บางรายงานไม่ได้ผล อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสุขภาพของเยอรมันสรุปว่า การกินผงขิงเฉลี่ยวันละ 2- 4 กรัม สามารถป้องกันอาการเมารถเมาเรือรวมทั้งช่วยการย่อยอาหารได้ดีมีการทดลองให้ผู้ป่วยผ่าตัดทางสูตินารีเวชรับประทานขิง 1 กรัมก่อนการผ่าตัด พบว่าสามารถลดอาการคลื่นไส้จากยาสลบได้ดี
พบว่าขิงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอักเสบปวดข้อ ปวดเข่าด้วย จึงเหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราคาสูง แต่การใช้ของสดที่มีอยู่มากมายในประเทศปรุงเป็นอาหารเป็นทางออกที่ดีกว่าไม่พบความเป็นพิษของขิง
ขี้เหล็ก มีชื่อพื้นเมืองว่า ขี้เหล็กหลวง ขี้เหล็ก ขี้เหล็กเผือก ขี้เหล็กใหญ่ ยะหา
ดอกตูมและใบอ่อน ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบายอ่อนๆ
ใบ แก้กระดูขาว แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ
ราก แก้ไข้ ไข้กลับไข้ซ้ำ
ดอกตูมและใบอ่อน มีรสขม ใช้ปรุงแกงขี้เหล็ก แกงบวน
ใบขี้เหล็กมีเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและเบต้า แคโรตีนสูง ส่วนดอกมีวิตามินเอสูง
พบว่าสารสกัดจากใบพบสารกลุ่มแอนทราควิโนนไกลโคไซด์ ซึ่งเพิ่มความแรงของการบีบตัวของกล้ามเนื้อลำไส้สัตว์ทดลอง จึงมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ในสารสกัดดอกขี้เหล็กด้วนแอลกอฮอล์ มีปริมาณ polyphenols แสดงฤทธิ์ลดอนุมูลอิสระระดับที่สูง และสามารถป้องกันการทำลาย และความเสียหายของเซลล์ในร่างกายจากปฎิกิริยาจากออกซิเดชั่น มีสารสำคัญจำพวกโครฏมน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็น บาราคอล เมื่ออยู่ในสภาวะที่เป็นกรดช่วยระงับประสาท ทำให้คลายกังวล และนอนหลับ แต่ปรากฎความเป็นพิษต่อตับ สำหรับวิธีปรุงอาหารของคนไทยที่ต้มดอกตูมและใบอ่อนกับน้ำทิ้งก่อนปรุงอาหาร พบว่าบาราคอลละลายออกไปกับน้ำถึง 90%
ขมิ้นชัน มีชื่อพื้นเมืองว่า ขมิ้น ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว ขี้มิ้น หมิ้น
เหง้า มีรสเผ็ด รักษาโรคท้องอืด ท้องเฟ้อและแผลในกระเพาะอาหาร
สารสำคัญในหง้าขมิ้นชันมี 2กลุ่ม คือน้ำมันหอมระเหยและสารสีเหลืองส้ม ซึ่งเป็นสารกลุ่ม สารเคอร์คูมินอยด์ จากการวิจัยพบว่าน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นชันมีฤทธิ์แก้ท้องอืด ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นหารหลั่งน้ำย่อยและขับน้ำดี มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งเมือกในทางเดินอาหาร จึงใช้ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้สามารถยับยั้งการเกิดก๊าซที่สร้างโดยเชื้อโรคที่ทำให้ท้องเสีย แต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ มีฤทธิ์ลดอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ แก้ปวดข้อเข่า มีรายงานจากสหรัฐอเมริกาพบว่ากลุ่มทดลองที่กินแกงกะหรี่เป็นประจำมีอุบัติการของโรคมะเร็งในลำไส้ต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่กินและในผงกะหรี่มีขมิ้นชันเป็นเครื่องเทศหลัก
นอกจากนี้พบว่าสารกลุ่มที่มีสีเหลืองสามารถป้องกันเซลล์ของตับจากการทำลายของสารพิษที่เข้าในร่างกายและถูกส่งไปกำจัดที่ตับได้ ไม่พบความเป็นพิษจากการบริโภคขมิ้นชัน
สวัสดีค่ะ
สมุนไพรล้วนแต่มีประโยชน์มากมายเลยนะคะ
ขอบคุณที่นำข้อมูลดีๆมาฝากค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่พงษ์
มาให้กำลังใจค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่นำเสนอค่ะ
เจ๋งดีคับ
ผมอยากรู้ว่าผมจะหาสมุนไพรที่ชื้อว่า หนุมารประสารกายได้ที่ไหนครับ
cfdfhnjh