พ.ร.บ. การคึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้วางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า เพื่อพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ มีสติปัญญา ความรู้ และสิ่งสำคัญ คือ ต้องใส่ความมีคุณธรรม จริยธรรมลงไปในตัวคนด้วย สิ่งที่เป็นหัวใจหลักในการที่จะทำให้สำเร็จตามเป้าหมายของ พ.ร.บ. นี้ คือครู ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในฐานะผู้สอน ถ้าผู้สอนอ่อนล้าทั้งกำลังกายกำลังใจและขาดจิตวิญญาณของความเป็นครูแล้ว ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร แน่นอนครูต้องผจญกับการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูบางท่านผ่านการอบรมไปแล้วแต่ยังขาดความชัดเจนยังหาความแน่นนอนไม่ได้
ทั้งนี้กระบวนการเรียนการสอนแต่และวิชานั้นมีความแตกต่างกัน บางวิขาครูอธิบายกันนิดๆ หน่อยๆ เด็กก็สามารถลงมือปฏิบัติได้แล้ว แต่บางวิชา ต้องอาศัยทักษะของครู และอุปกรณ์การเรียนการสอนมากมายกว่าเด็กจะเกิดทักษะ
ผมคิดว่าครูไม่ควรยึดการเรียนการสอนแบบใดแบบหนึ่งอย่างตายตัว ควรคิดค้นวิธีการสอนของตนเอง เพราะ เทคนิคการสอนขึ้นอยู่กับความสามารถของบุคคลนั้นๆ ซึ่งผู้สอนจะคิดค้นจากประสบการณ์ของผู้สอนเอง หรือด้วยวิธีลองผิดลองถูก จึงจะทำให้เด็กเกิดประสบการณ์หรือทักษะจากวิธีการสอนของผู้สอนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
สวัสดีครับครูขจร
- ได้อ่านข้อมูลของคูณแล้วเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ
- สู้ๆน่าครับพี่
ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม
เมื่อวานฉันได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขียนโดย Christopher Wright
เล่มนี้เกี่ยวกับ Cross-cultural หรือ การ"ข้าม"วัฒนธรรม
วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษแล้วไม่ได้ผล
(ที่สนใจเล่มนี้เพราะฉันเป็นครูภาษาอังกฤษค่ะ)
ได้แนวคิดหลายอย่าง ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับ การเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ซึ่ง.. ฉันคิดว่า ต้องอาศัยการวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน
พร้อมทั้งต้องพิจารณาถึงตัวนักเรียน ทั้งภาพรวมและรายบุคคล
จึงสามารถออกแบบการสอนชนิดนี้ได้ ดังนั้นการวางแผนจึงเป็นงานหนัก
และนั่นยังไม่ได้รวมการเตรียมอุปกรณ์ เวลา และความพร้อมด้านอื่นๆ
ไม่พูดถึงสารพัดงานที่ครูต้องทำด้วย นอกจากงานสอนหรอกค่ะ
พูดแล้วบั่นทอนตัวเอง 55+