วันนี้ไปอ่าน นิตยสาร NATIONAL GEOGRAPHIC ฉบับเดือนมีนาคม 2551 ลงบทสัมภาษณ์ ทันตแพทย์สม สุจีรา
เรื่อง วิทยาศาสตร์บนหลักพุทธธรรม หวังว่าคงชอบอ่าน นะครับ
NG: อยากให้คุณหมอแนะนำตัวเองและเล่าประวัติสั้นๆ
ทพ.สม: ผมเรียนจบชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียน อัสสัมชัญ
จังหวัดระยอง หลังจากนั้นมาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพญาไท เรียน ม.4 ม.5แล้วสอบเทียบเข้าคณะทันตแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนจบก็เลือกไปใช้ทุน ที่โรงพยาบาลจังหวัดสตูล เมื่อย้อยมาอยู่กรุงเทพฯ เกิดความคิดอยากจะเรียนศาสตร์ในสาขาอื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติมจึงไปสอบเข้าเข้าเรียนปริญญาโทด้านจิตวิทยา ที่ มหาวิทยาลัยศรีนรินทรวิโรฒ ประสานมิตร จนจบมหาบัณฑิต ได้ความรู้จากการเรียนจิตวิทยาเยอะมาก
NG: ความสนใจในพุทธศาสนาของคุณหมอมีที่มาอย่างไร
ทพ.สม: หลังจากจบปริญญาโทด้านจิตวิทยา ผมรู้สึกว่าจิตวิทยาตะวันตกยังศึกษาเรื่องของจิตวิทยาไม่ละเอียดลึกซึ้ง จึงเริ่มหันมาศึกษาพุทธศาสตร์ ช่วงนั้นอ่านหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสตร์เยอะมาก จนพบว่า จะรู้จริงได้ ต้องปฏิบัติด้วยตนเอง ผมจึงไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับ
พระอาจราย์ชาวพม่าต่ออีกสองปี
NG: หลังจากได้เรียนรู้พุทธศาสตร์แล้วคุณหมอพบอะไรบ้างและมีสิ่งที่แตกต่างจากวิทยาศาสตร์อย่างไร
ทพ.สม: ก่อนปฏิบัติธรรม ผมเคยเชื่อว่าปัญญาชั้นสูงสุดชองมุนษย์คือการจบปริญญาเอก แต่ทุกวันนี้ ผมเข้าใจล้าว่า มีปัญญาที่สูงกว่าปัญญาที่สูงวาการคิดหรือการเรียนรู้ ที่เรียกว่าจินตมยปัญญา สิ่งนั้นคือภาวนามยปัญญาที่เกิดจากการฝึกฝนอบรมจิต แต่ปัญญาคือภาวนามยปัญญาไม่สามารถอธบายให้คนทั่วไปรับรู้ได้ (เพราะเป็นปัจจัยตังหรือต้องปฏิบัติและเห็นผลได้ด้วย ตังเอง-กองบรรณาธิการ) ขณะที่จินตมยปัญญาสามารถอธิบายได้ด้วยภาษาพูด ภาษาเขียน หรือ
ภาษาทางคณิตศาสตร์ วิทยาเองก็พยายามศึกษานามธรรม แต่เป็นนามธรรมภายนอกร่างกายมนุษย์
เช่น น้ำหนัก แรง ความเร็ว ความเร่ง พื้นที่ ปริมาตร เป็นต้น และที่นักวิทยาศาสตร์สามารถประดิษฐ์สิ่งต่างๆขึ้นมาได้ ก็เพราะค้นพบนามธรรมเหล่านี้ ถ้าเราจะพูดว่า นามเป็นต้นกำเนิดของรูป ก็ไม่ผิดแต่พระพุทธองค์ทรงศึกษานามธรรมในร่างกายมนุษย์จนเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง
เมื่อนามเป็นต้นกำเนิดของรูป และจิเป็นต้นกำเนิดของนาม ถ้าไม่มีจิต นามทั้งหลาย เช่น
ความสวย ความหอม ความดัน ความเร่ง หรือแม้แต่เวลา ก็ไม่มีอยู่จริง ดังนั้นพระพุทธองค์จึงทรงวางทางสายเอกแห่งมรรคไปที่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับจิตเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นกุญแจ
ดอกสำคัญที่สามารถไขความสับทุกสิ่งในจักรวาล
ดูความเห็นของผู้อ่านที่มีต่อหนังสือของ ทันตแพทย์สม สุจีรา ได้ที่ http://www.118doctor.com/book/book.htm