ลองอ่านบทสนทนานี้ดูนะคะนักศึกษา : ไหนยาย ลองลุกนั่งซิ (กระตุ้นให้ทำกิจกรรม)
Case ได้ยินก็พยายามลุกขึ้นช้า ๆ บ่นว่าเจ็บไปหมด ปวดต้นคอ แต่ก็ลุกขึ้น
นักศึกษา : เก่งจัง คุณยาย ลุกนั่งได้เอง (กล่าวชม) ไหนลองลุกยืนซิ (กระตุ้นให้ทำกิจกรรมต่อ)
Case มองหน้านักศึกษา
นักศึกษา : ไหวไหมถ้าไม่ไหวเดี๋ยวจะช่วยประคองนะ นะลองดูนะ นักศึกษาพยายามกระตุ้น
Case ทำท่าจะลุกยืน แขนทั้งสองข้างเกาะนักศึกษา แต่พอยกสะโพกขึ้นมา ขณะที่เท้ายันพื้นอยู่ case ก็ร้อง และบอกว่า เจ็บ เสียวเท้ามาก ขอทำเท่านี้ก่อน แล้วก็นั่งลงไปที่เตียงนอน
นักศึกษา : คุณยายรู้สึกอย่างไรบ้างตอนยืนเมื่อกี้นี้ (Close Question)
Case: เจ็บ แล้วก็เสียวที่เท้ามาก ปวดมาถึงเอวเลย
นักศึกษาจึงตรวจดูว่า Case มีอะไรผิดปกติหรือไม่ (ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม) เมื่อตรวจพบว่าปกติจึงบอกกับ case ว่า จากที่ตรวจร่างกายคุณยายก็ปกตินะคะ (ให้ข้อมูล)
Caseเงียบไม่พูด
นักศึกษา : ไหนลองลุกยืนอีกทีหนึ่งนะคะ คราวนี้จะให้หลานช่วยพยุงด้วยอีกคนหนึ่ง คุณยายจะได้ไม่ต้องกลัวล้ม (กระตุ้นให้ทำกิจกรรมต่อ)
ได้อ่านแล้วรู้สึก.. นศ.ก็ยังเป็น นศ.มุ่งเน้นวิชา อยากทำได้ตาม ทฤษฎีที่เรียนมา ที่ อ.สอนมาแต่ยังนึกถึงจิตใจ ความรู้สึกของ case ค่อนข้างน้อย ยังไม่มุ่งเน้นที่ผู้รับบริการ หรือ Pt.เป็นศูนย์กลาง
เมื่อเราย้อนกลับมาดูตัวเราเอง หรือตัว อ.นกเองสมัยเป็น นศ.พยาบาล เป็นอย่างนี้บ้างรึเปล่าน๊า บางทีเราอาจไม่รู้ตัวแต่นึกแล้วก็ขำดี อ.ของเราสมัยที่สอนเราก็คงคิดไม่ต่างจานี้มั๊ง แต่ประสบการณ์หลังจากเรียนจบแล้วมาทำงานก็จะค่อยๆสอนตัวเราเอง ให้ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดทั้งวิชาการ ประสบการณ์ คนรอบข้าง ฯลฯ
แต่ตอนนี้เมื่อเรารู้ก่อนก็สามารถสอน นศ.ก่อนได้ บางครั้งกว่าจะรอให้ประสบการณ์สอนเค้าก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเพียงไรเนอะ
ตัวคนนี้เองจบพยาบาลมาเช่นกัน ไม่ได้เป็นอาจารย์ เป็นเพียง อ.พี่เลี้ยงมี นศ.จากแหล่งฝึกต่างๆมาฝึกงานทั้ง ทันตฯ สาสุขศาสตร์ ฯลฯ มาฝึกที่ รพ.ทั้งคลีนิกบริการและลงชุมชน งานอีกอย่างที่ละเอียดอ่อนมากที่ดูแลอยู่ก็คือดูแลหญิงตั้งครรภ์-หลังคลอดและครอบครัวที่ติดเชื้อ HIV ต้องใช้เทคนิค Csg.และการใส่ใจคู่สนทนาเป็นอย่างมากที่สำคัญการได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการกลุ่มนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก
*-* เป็นกำลังใจให้พี่นกนะคะ *-*
ได้อ่านแล้วรู้สึก.. นศ.ก็ยังเป็น นศ.มุ่งเน้นวิชา อยากทำได้ตาม ทฤษฎีที่เรียนมา ที่ อ.สอนมาแต่ยังนึกถึงจิตใจ ความรู้สึกของ case ค่อนข้างน้อย ยังไม่มุ่งเน้นที่ผู้รับบริการ หรือ Pt.เป็นศูนย์กลาง
เมื่อเราย้อนกลับมาดูตัวเราเอง หรือตัว อ.นกเองสมัยเป็น นศ.พยาบาล เป็นอย่างนี้บ้างรึเปล่าน๊า บางทีเราอาจไม่รู้ตัวแต่นึกแล้วก็ขำดี อ.ของเราสมัยที่สอนเราก็คงคิดไม่ต่างจานี้มั๊ง แต่ประสบการณ์หลังจากเรียนจบแล้วมาทำงานก็จะค่อยๆสอนตัวเราเอง ให้ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดทั้งวิชาการ ประสบการณ์ คนรอบข้าง ฯลฯ
แต่ตอนนี้เมื่อเรารู้ก่อนก็สามารถสอน นศ.ก่อนได้ บางครั้งกว่าจะรอให้ประสบการณ์สอนเค้าก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเพียงไรเนอะ
ตัวคนนี้เองจบพยาบาลมาเช่นกัน ไม่ได้เป็นอาจารย์ เป็นเพียง อ.พี่เลี้ยงมี นศ.จากแหล่งฝึกต่างๆมาฝึกงานทั้ง ทันตฯ สาสุขศาสตร์ ฯลฯ มาฝึกที่ รพ.ทั้งคลีนิกบริการและลงชุมชน งานอีกอย่างที่ละเอียดอ่อนมากที่ดูแลอยู่ก็คือดูแลหญิงตั้งครรภ์-หลังคลอดและครอบครัวที่ติดเชื้อ HIV ต้องใช้เทคนิค Csg.และการใส่ใจคู่สนทนาเป็นอย่างมากที่สำคัญการได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการกลุ่มนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก
*-* เป็นกำลังใจให้พี่นกนะคะ *-*