เมื่อค่ำวันวานผมนั่งดูรายการทีวี ดูสารคดี ดูข่าว ดูละคร
ดูไปคิดไป คิดอย่างไรก็บันทึกอย่างนั้นครับ
คิดว่าทุกวันนี้การแข่งขันมีสูง แถมบางที่ไม่มีน้ำใจนักกีฬา
แพ้ไม่เป็น ชนะไม่เป็น ทำให้ผมนึกถึงคำพูด แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร
ชนะนั้นดีอย่างไร แล้วแพ้เป็นพระก็คงต้องไปบวชสิ...ไม่ต้องก็ได้
· แพ้เป็นพระ หากชนะใจตนเอง คือชนะจริงๆ
รู้แพ้เป็นพระ เหมาะย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องการความสันติ
เพราะในชีวิตคนๆหนึ่งไม่จำเป็นต้องชนะเสมอไป
ยอมแพ้เสียบ้างก็ไม่เลว หากว่ามันทำให้ใครต่อใครหลายคนรู้สึกดี
แพ้เสียบ้างก็ไม่เป็นไร หากว่าอะไรที่ร้อนอยู่จะดีขึ้น หรือสงบลงได้
หรือหากว่าแพ้ ด้วยแพ้จริงๆ เพราะสู้ไม่ได้ ก็ควรยอมรับให้ได้ รับมือให้เป็น
· ผู้ที่ยังมีไฟ มักไม่ยอมรับคำว่าแพ้
แพ้ไม่เป็น เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาใดๆ
แพ้ไม่เป็นควรมาพร้อมกับความมุ่งมั่น ความพยายาม
เพื่ออะไรสักอย่างที่เรารักหรือศรัทธา และเชื่อว่าสิ่งนั้นดีมีคุณค่าเพียงใดไม่ควรยอมแพ้ง่ายๆ
· รู้จักแพ้ เพื่อจะรู้จักชนะ
เพราะสิ่งที่ทำได้ยากสิ่งหนึ่งในโลกนี้คือ เอาชนะใจตน
ดังนั้น หากรู้ว่าสิ่งที่ได้รับจากการแพ้ มันเจ็บปวด
ความแพ้ขื่นขมเพียงใด จึงไม่มีใครปรารถนา
แต่ถ้าเรารับมันได้ ทำใจได้ ซึ่งมันไม่ง่ายนัก
ใช้ความขมขื่น สูญเสีย เพื่อเรียนรู้และทดสอบความแกร่งของจิตใจ
หากทำได้ก็เท่ากับชนะใจตน ไม่ใช่ชนะคะคาน
...............
ผมเป็นคนหนึ่งที่มักพบเรื่องแพ้มากกว่าชนะ
จึงเป็นวิธีคิดที่ผมใช้เป็นเครื่องมือต่อสู้บ่อยๆ
หลายครั้งผมก็ทำได้ แต่ก็บางครั้งมันฝืนๆ มันช่างยากมากๆ
ไม่มีความเห็น