กายกับจิต ไม่ใช่ กายกับสมอง


เรานั้นต่างประกอบด้วยกายกับจิต แต่จิตนั้นไม่ได้หมายถึงสมองหรือผลผลิตจากการทำงานของสมอง

ในการเรียนรู้วิชาของพระพุทธเจ้านั้น ข้าพเจ้าพบว่าต้องปล่อยวางความคิดเห็นในทางวิทยาศาสตร์บางอย่างไปก่อน มิฉะนั้นแล้ว  เราอาจจะไม่เข้าใจคำนิยามใหม่ๆ เพราะติดยึดอยู่ในความเชื่อเดิมๆ ความคิดเห็นเดิมๆ ที่คุ้นเคย

ตอนที่ท่านวิปัสสนาจารย์ท่านกล่าวถึงเรื่องขันธ์ 5  แล้วบอกว่า  ขันธ์ 5  นั้นแยกเป็นง่ายๆ คือ รูปกับนามหรือ กาย กับจิต  

       พระพุทธองค์กล่าวว่า เราทั้งหลายนั้นต่างประกอบด้วย  กาย กับ จิต  พอได้ยินดังนั้นข้าพเจ้าก็คิดเห็นไปว่า จิต คือ สมอง  เพราะท่านว่า จิตเป็นตัวรู้  ซึ่งในความเห็นทางวิทยาศาสตร์นั้น  ตัวรู้ น่าจะเป็นสมอง  ถ้าเราไม่มีสมอง แล้วเราจะรู้อะไรเล่า  แต่ไม่ช้าไม่นานข้าพเจ้าก็เข้าใจใหม่ว่า ที่จริงแล้ว จิต ไม่ได้ หมายถึง สมองแต่อย่างได้ แต่จิต ใช้สมองที่มีอยู่ในร่างกายของเรา เป็นตัวติดต่อกับโลก  อันนี้อาจทำให้ใครหลายคนคิดไปไกลว่า ถ้างั้น หมายถึงดวงวิญญาน อะไรทำนองนั้นหรือเปล่า   ??   หมายถึงผีอะไรแบบนั้น ??

       แต่ความจริงแท้ก็คือ เรานั้นต่างประกอบด้วย รูป กับนาม   หรือ กาย กับ จิต

        โดยรูปนั้นหมายถึง เป็นที่ชุมนุมของ รูปกลาป                                                      

ซึ่งหมายถึง เซลล์ ตามศัพท์ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบัน

       เมื่อหมายความตาม คำนิยามนี้ สมอง จึงอยู่ในฐานกาย เพราะสมองก็คือที่ชุมนุมของรูปกลาปเช่นกัน   แล้วจิตล่ะคืออะไร และอยู่ที่ไหน เรื่องนี้ทำเอาเราผู้คิดแบบนักวิทยาศาสตร์  ซึ่งติดยึดกับสิ่งที่เป็นรูปธรรม คือต้องมองเห็น สัมผัสได้ หรือตรวจสอบได้ ยังมึนงงอยู่นั่นเอง  

       จิต เป็นตัวรู้และเป็นนามธรรม และมีคุณสมบัติพิเศษ แถมมักมีคำถามหนึ่งที่มักจะถามกันเล่นๆว่า อะไรเอ่ยที่เร็วยิ่งกว่าความเร็วแสง  หลายคนต่างตอบว่า  จิต 

       ที่น่าสนใจก็คือ ในวิชาของพระพุทธเจ้านั้น อธิบายเรื่องจิตได้ลึกซึ้งมาก แถมบอกว่ามีการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา  มีคุณสมบัติอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง มีการทำงานอย่างไร และมีกี่ระดับ   เรื่องของจิตจึงเป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึงและยังไม่เข้าใจมากนัก แต่ในการปฎิบัติธรรม ในภาคทฤษฎีนั้น เมื่อผู้ปฎิบัติได้ญานขั้นต้น คนผู้นั้นจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า ตนเองนั้นประกอบด้วยกาย กับจิตจริง  และจิตก็ไม่ได้อยู่ข้างในแล้วก็ไม่ได้อยู่ข้างนอกด้วย   น่าประหลาดใจจริงๆ  

หมายเลขบันทึก: 159609เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2008 19:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท