การนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ(Cooperative Professional Development)
หลักการ
เป็นกระบวนการนิเทศซึ่งครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตกลงทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาวิชาชีพด้วยการสังเกตการณ์สอนในชั้นเรียน การให้ข้อมูลย้อนกลับ การอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องเกี่ยวกับการปรับปรุงวิชาชีพด้านอื่นๆ ซึ่งครูสามารถเลือกวิธีการพัฒนาวิชาชีพของกลุ่มได้หลายวิธี แต่ควรยึดหลักการสำคัญ 4 ประการ คือ
1. ต้องเสนอเป็นข้อตกลงหรือโครงการให้แก่ผู้บริหารทราบ
2. ถ้าเป็นการสังเกตการณ์สอนควรกระทำไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง/ภาคเรียน และมีการปรึกษาหารือกันหลังการสังเกตแต่ละครั้ง
3. ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและอภิปรายต้องรู้กันเฉพาะครูในกลุ่มที่ร่วมพัฒนาวิชาชีพเท่านั้น
4. รูปแบบและมาตรฐานการประเมินเพื่อการนิเทศขึ้นอยู่กับกลุ่มครูนั้นๆ เท่านั้น
และจะไม่นำไปเกี่ยวข้องกับการประเมินผลความดีความชอบของครู
ความมุ่งหมาย
เพื่อให้ครูได้ทำงานร่วมกับเพื่อนโดยช่วยเหลือแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เป็นการยกระดับการพูดคุยเกี่ยวกับวิชาชีพ ทำให้เกิดเจตคติที่ดีต่อการนิเทศ รู้สึกชื่นชมในผลงานของเพื่อน ก่อให้เกิดแรงเสริมทางบวกในการสอนของครู และมีความเข้าใจใน
นักเรียนของตนมากขึ้น
ธรรมชาติและลักษณะของการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ
1. เป็นกระบวนการที่เป็นระบบพอควร (Moderately Formatized Process) และดำเนินการภายในโรงเรียน
2. เป็นการตัดสินใจร่วมกันของครูที่จะปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อความเจริญก้าวหน้าในอาชีพของตนเอง
3. มีการสังเกตการสอน ประชุมปรึกษาหารือและให้ข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับการสังเกต
4. มีการประชุมอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์
5. การสังเกตการสอน การวิเคราะห์ผลการสังเกตและการให้ข้อมูลย้อนกลับต้องไม่เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
6. ผู้บริหารหรือผู้นิเทศเป็นเพียงผู้ควบคุมดูแล อำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการให้ประสบผลสำเร็จ7. ไม่มีการนำข้อมูลจากการดำเนินโครงการนิเทศ เช่น นำผลจากการสังเกตการสอนไปใช้ในการบริหารงานและประเมินผลการปฏิบัติงาน เพื่อพิจารณาความดีความชอบของครู
ข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ
1. ผู้บริหารต้องเห็นด้วยและให้การสนับสนุนส่งเสริมอย่างจริงจังและจริงใจ (เจตคติผู้บริหาร)
2. คณะครูต้องเห็นด้วย และมองเห็นความสำคัญของการพัฒนาอาชีพของตนด้วย ส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ในทุกด้าน
3. บรรยากาศในโรงเรียน (ระหว่างคณะครู ผู้บริหาร นักเรียน) มีความเป็นมิตรส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ในทุกด้าน
4. จัดสรรทรัพยากรให้อย่างพอเพียง (เวลา เครื่องอำนวยความสะดวกและสื่อต่างๆ)
5. โครงการกำหนดจุดมุ่งหมายชัดเจนเพื่อการติดตามผล ดูแลให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกได้ง่าย
6. นำเสนอแผนการปฏิบัติและสรุปนำเสนอผลการปฏิบัติพอสังเขป
กระบวนการการนิเทศแบบร่วมพัฒนาอาชีพ
1. วางแผนร่วมกันระหว่างครูที่สนใจจะร่วมพัฒนางานของตน (ใช้เวลาไม่มากนัก)
2. เลือกประเด็นที่สนใจที่จะพัฒนาปรับปรุง
3. นำเสนอโครงการและขั้นตอนการปฏิบัติ
4. แสวงหาความรู้ วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศในแบบดังกล่าว เช่น การสังเกตการสอน การวิเคราะห์การสอน การให้ข้อมูลย้อนกลับ ฯลฯ
5. กำหนดวัน - เวลา ที่จะสังเกตการสอน ประชุมปรึกษาหารือ เพื่อการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์
6. ดำเนินการตามกระบวนการในแต่ละประเด็นที่จะพัฒนาอย่างน้อย 2 ครั้ง ในแต่ละประเด็นที่จะพัฒนาปรับปรุง
7. สรุปผลการพัฒนา รายงานผลและความสำเร็จ
ทักษะที่จำเป็นสำหรับการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ
1. สังเกตการสอนโดยไม่กำหนดประเด็น
2. วิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกตการสอนโดยไม่กำหนดประเด็น
3. ประชุมปรึกษาหารือกับเพื่อนครูเกี่ยวกับผลการสังเกตการสอน
4. สังเกตการสอนโดยระบุประเด็น
5. วิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกตการสอนโดยระบุประเด็น
6. ประชุม ปรึกษาหารือกับเพื่อนครูเกี่ยวกับผลการสังเกตการสอนเพื่อเสนอแนะให้ครูปรับปรุงและพัฒนา
สรุป
3 ทักษะที่จำเป็นต้องฝึกปฏิบัติ คือ การสังเกตการสอน การวิเคราะห์ข้อมูลและการประชุมให้ข้อเสนอแนะ
ข้อดีของการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ
1. ครูได้แลกเปลี่ยนวิธีสอน เทคนิคการสอนซึ่งกันและกัน
2. ได้กำลังใจจากการสอนของตนเอง
3. เข้าใจการทำงานของเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพมากขึ้น
4. เข้าใจนักเรียนมากขึ้น จากการได้สังเกตการสอนในชั้นเรียนระดับต่าง ๆ
5. สร้างบรรยากาศในความเป็นมิตร และเพื่อนร่วมวิชาชีพเดียวกันมากขึ้น
6. กล้าที่จะให้และรับฟังข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
ข้อจำกัดของการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ
1. ครูไม่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการสังเกตการสอน การวิเคราะห์การสอนและการให้ข้อมูลย้อนกลับอาจจะช่วยเพื่อนไม่ได้
2. การสังเกตการสอนและการประชุมอภิปรายต้องใช้เวลาอาจต้องให้ครูอื่นสอนแทน
3. การสังเกตการสอนอาจทำได้ไม่ต่อเนื่อง จากปัญหาด้านเวลาที่ว่างไม่ตรงกัน
4. โครงสร้างของสถาบันทำให้ครูแยกกันทำงาน มีการแข่งขันมากกว่าที่จะร่วมกันทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
5. บรรยากาศดั้งเดิมที่ต่างคนต่างฝ่ายต่างปฏิบัติงานของตนอาจจะยากต่อการประสานงาน
สรุป
ผลสำเร็จของการนิเทศแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสำคัญอย่างน้อย 3 อย่าง คือ
- การสนับสนุนส่งเสริมจากผู้บริหารโรงเรียน
- การร่วมมือกันปฏิบัติงานระหว่างครู และบุคลากรในโรงเรียน
- การร่วมปฏิบัติงานฉันท์เพื่อนอย่างไรก็ตามการนิเทศ
ในรูปแบบร่วมพัฒนาวิชาชีพอาจจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสอนของครูในทันที แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ครูจะพูดคุยปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติมากขึ้น ได้รับข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับการสอนของตนเองในส่วนของพฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข หรือพฤติกรรมที่เหมาะสม และเป็นแบบอย่างได้ ช่วยให้มองเห็นการปฏิบัติงานของครู ผู้ร่วมงานอื่น ๆ ที่มีเทคนิคการสอนที่แตกต่างกัน เสริมสร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นคณะมากขึ้น โดยที่ครูจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมีการสนทนากันในเชิงวิชาการมากขึ้นอันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป
(วัชรา เล่าเรียนดี 2544 :136)
กำลังใจหรือการช่วยเหลือซึ่งกันจะนำไปสู่การพัฒนาคะ