วันนี้ผมได้รับเชิญจากชุมชนคนพัสดุ ซึ่งหัวหน้าส่วนพัสดุและน้อง ๆ ในส่วนพัสดุเป็นหัวแรงหลัก ให้ผมไปเปิดและร่วมเสวนาเล็กๆ น้อย ๆ กับชุมชนคนพัสดุ ตอนช่วง 9.00 น. ประทับใจมากครับ ที่ได้เห็นพวกเราที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องพัสดุมาร่วมแลกเปลี่ยนรู้กันเต็มห้องประชุม ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 73 คน เยี่ยมจริง ๆ ครับ การบริหารพัสดุของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับสถาบันอื่น ๆ แล้ว ของเราก็ถือได้ว่าทำได้ดีมาก ๆ ถึงขั้นเป็น Best Practice ได้ทีเดียว ผมมั่นใจว่าไม่นานหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ จะต้องเข้ามาขอศึกษาดูงานกันไม่น้อย แต่เราก็ต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจึงจะถือว่าดีที่สุด เพราะสิ่งที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้ หากไม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในอนาคตก็เป็นไปได้นะครับ นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญในเรื่องของการบริหารพัสดุ ไม่ได้อยู่ที่การจัดซื้อ จัดจ้าง และตรวจรับ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการควบคุมดูแลการใช้พัสดุเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย การที่วลัยลักษณ์จะสามารถบริหารพัสดุในครบวงจรเช่นนั้น ก็คงไม่สามารถทำได้เฉพาะส่วนพัสดุเท่านั้น แต่จะต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจากเพื่อนพนักงานทุก ๆ คน ที่ทำงานเกี่ยวกับพัสดุในหน่วยงานทุก ๆ หน่วยงานด้วย จึงจะทำให้การบริหารพัสดุของวลัยลักษณ์ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมได้เห็นในวันนี้ นับว่าเป็นบรรยากาศที่ดีมากของชุมชนคนพัสดุ ที่จะได้ร่วมกันพัฒนาการทำงาน เพื่อวลัยลักษณ์ของเรา ซึ่งว่าเป็นการร่วมเดินที่ถูกทางของพวกเราชาววลัยลักษณ์ ในการไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย หวังว่าผมคงจะได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้ของชุมชนคนพัสดุอยู่เรื่อย ๆ นะครับ และไม่ต้องเป็นห่วงนะครับมหาวิทยาลัยโดยแนวคิดของท่านอธิการบดี ก็พร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆของชุมชนทุกชุมชนที่จัดกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ทั้งต่อตัวพนักงาน ต่องาน และต่อวลัยลักษณ์ของพวกเรา ท้ายนี้ขอให้กำลังใจชุมชนคนพัสดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าส่วนพัสดุและทีมงานครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นาย สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ ใน KM ใน ม.วลัยลักษณ์
ลองเล่าผลสำเร็จของการพัฒนางานด้านพัสดุ ที่น่าชื่นชม สัก ๒ - ๓ ตัวอย่าง และเล่าว่าผลเลิศเช่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็จะเป็นการ ลปรร. แก่หน่วยงานภายนอกด้วยครับ
วิจารณ์ พานิช