จดหมายถึงญาติมิตรพัฒนาสังคม ฉบับที่ 40 (8 ม.ค. 51)


ไม่คาดคิดว่าผมกำลังจะอำลากระทรวงการพัฒนาสังคมฯไปพร้อมกับความรู้สึกเศร้าแลเสียใจ แทรกอยู่ในความรู้สึกดีๆ

                อีกประมาณ 1 เดือน คงเป็นเวลาที่ผมจะต้องอำลากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ ที่ได้ทำหน้าที่มาปีเศษ

                ผมมีความรู้สึกดีๆสะสมอยู่เป็นอันมากเกี่ยวกับการทำงานกับกระทรวง พม.

                แต่ที่ไม่เคยคาดคิด คือ เมื่อวันอำลามาถึงผมจะมีความรู้สึกเศร้าและเสียใจ แทรกอยู่ด้วยในความรู้สึกดีๆเหล่านั้น

                กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีฐานมาจาก กรมประชาสงเคราะห์ ซึ่งเคยสังกัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนย้ายมาสังกัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม จนในที่สุดเปลี่ยนชื่อเป็น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สังกัดกระทรวง พม.

                ผมรู้จักและคุ้นเคยกับ กรมประชาสงเคราะห์ ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2529 รู้จักคุ้นเคยกับอธิบดีของกรมนี้เป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ คุณหญิงสมศรี กันธมาลา คุณไสว พราหมณี เป็นต้น และยังรู้จักคุ้นเคยกับข้าราชการอีกหลายคน

                ได้ช่วยงานและร่วมงานกับกรมนี้มาเป็นอันมากและตลอดมา จนกระทั่ง กรมประชาสงเคราะห์ เปลี่ยนชื่อและมาเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวง พม. ผมก็ยังตามมาช่วยงานต่อ

                สำหรับกระทรวง พม. ในฐานะเป็นกระทรวงใหม่นั้น ผมเกี่ยวข้องตั้งแต่การตั้งชื่อกระทรวงและการกำหนดวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ ฯลฯ ในช่วงการพิจารณาจัดตั้งและต่อมาถึงระยะแรกหลังการจัดตั้ง

                เมื่อกระทรวงฯดำเนินงานเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ผมก็ได้ช่วยงานและร่วมงานกับกระทรวงฯมากขึ้นและอย่างใกล้ชิด

                ผมจึงรู้สึกเหมือนเป็น ญาติสนิท หรือ เพื่อนสนิท ของกระทรวงฯมาเป็นเวลานาน

                เมื่อพลเอกสุรยุทธ์มาทาบทามให้ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ในรัฐบาลของท่าน (เดือนตุลาคม 2549) ผมจึงรับเป็นรัฐมนตรีโดยไม่รู้สึกลำบากใจเท่าใด เนื่องจากรู้สึกคุ้นเคยกับกระทรวงนี้ดี

                หลังจากที่ผมเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรี พม. แล้ว ผมเห็นว่างานของกระทรวงฯเดินหน้าไปได้ดีและเร็ว ทั้งนี้โดยความร่วมแรงร่วมใจพากเพียรพยายามของผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของกระทรวงฯ ซึ่งผมชื่นชมและขอบคุณมาตลอด

                ผู้บริหารตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดีหรือเทียบเท่า และคนอื่นๆ ล้วนมีความสามารถและความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน

                เราทำงานอย่างเป็นทีม ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ร่วมมือสนับสนุนกันด้วยความเป็นมิตรไมตรีต่อกัน ทำให้งานของกระทรวงฯลุล่วงก้าวหน้าไปด้วยดี เป็นที่พอใจของผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย

                โดยเฉพาะปลัดกระทรวง ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของข้าราชการประจำ มีประสบการณ์และความสามารถสูง ผมให้ความชื่นชม ให้ความนับถือ และให้การสนับสนุนมาตลอด เช่น แต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงฯ มอบอำนาจในการสั่งการและดำเนินงานของกระทรวงฯอย่างเต็มที่ ให้ความไว้วางใจในการช่วยแก้ปัญหาและจัดการงานยากๆหลายเรื่อง เป็นต้น

                ส่วนอธิบดีและผู้บริหารอื่นๆ ผมก็ชื่นชมในความสามารถและความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ จึงให้ความไว้วางใจและให้การสนับสนุนในทางต่างๆมาโดยตลอดเช่นกัน

                มีคำกล่าวหา มีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียน เกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ อยู่เป็นระยะๆตั้งแต่ในช่วงแรกที่ผมเข้ารับตำแหน่ง แต่ในเมื่อไม่ปรากฏชื่อผู้ร้องเรียน และไม่มีเหตุหลักฐานชัดเจนพอที่จะทำให้คำร้องเรียนมีน้ำหนัก ผมจึงไม่ได้ลงมือทำอะไร เพียงแต่เก็บเรื่องไว้เฉยๆ

                จนกระทั่งคำกล่าวหาร้องเรียนสะสมบานปลายปรากฏในสื่อมวลชนจำนวนมาก (เมื่อเดือน ต.ค. 50) ผมและรมช. (พลเดช) จึงต้องตัดสินใจเสนอท่านนายกฯให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยพยายามสรรหาประธานและกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่เชื่อว่าได้รับการยอมรับสูงในความเที่ยงธรรมและความสามารถ

                คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน สามารถสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงเสนอท่านนายกฯได้ในเดือนธันวาคม 2550

                ผลของการสอบข้อเท็จจริงแสดงว่า ข้อร้องเรียนต่างๆต่อผู้บริหารระดับสูงนั้น มีมูลเหตุอยู่จริง ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการต่อไปอีก และจะเป็นการสมควรหากจะย้ายผู้บริหารระดับสูงออกจากตำแหน่งที่ดำรงอยู่ไปดำรงตำแหน่งอีกตำแหน่งหนึ่ง

                นี่คือที่มาของการที่ได้มีคำสั่งย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง พม. ดังเป็นที่ทราบกัน

                ผมและรมช.พลเดช ได้ไตร่ตรองพร้อมทั้งปรึกษากับท่านนายกฯด้วยแล้ว เห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด คือ ดีต่อประโยชน์ส่วนรวม อันได้แก่ ประโยชน์ของกระทรวง พม. ประโยชน์ของข้าราชการ พม.โดยรวม และประโยชน์ของสังคมและประชาชน

                ไม่มีประโยชน์ของผม หรือของ รมช.พลเดช หรือของท่านนายกฯเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ประการใด

                พวกเราทั้งหมดที่มาเป็นรัฐบาล กำลังจะลาจากในเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเท่านั้น เรามิได้ต้องการอำนาจต้องการประโยชน์ หรือต้องการอิทธิพลใดๆ เราขอเพียงที่จะอำลาจากกันด้วยความรักและความเป็นมิตรไมตรีต่อกันก็พอใจแล้ว

                แต่ดูเหมือนว่า กรณีของผมและรมช.พลเดช กับกระทรวง พม. และข้าราชการกระทรวง พม. ทำท่าจะไม่เป็นดังที่ผมคาดหวังเสียแล้ว จากการที่มีข่าวลงในสื่อมวลชนว่า ผู้บริหารและข้าราชการจำนวนหนึ่ง ได้ทำหนังสือร้องเรียนท่านนายกฯ กล่าวหาผมกับ รมช.พลเดช ว่าปฏิบัติไม่เหมาะสมและทำความเสียหายให้กับกระทรวงฯและข้าราชการของกระทรวงฯนานาประการ

                แม้ผมจะมีสติและปัญญาพอที่จะไม่หวั่นไหวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าและเสียใจ

                เหมือนพ่อแม่ที่รักลูก พยายามทำเพื่อลูกและเพื่อครอบครัวมาตลอด แล้วมาได้รับคำกล่าวหาจากลูกว่า พ่อแม่ เป็นผู้ทำร้ายลูก ทำร้ายครอบครัว

                อดไม่ได้หรอกครับที่จะรู้สึกเศร้าและเสียใจไม่มากก็น้อย

                                                                                                                สวัสดีครับ

                                                                                                                          ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม

คำสำคัญ (Tags): #รองนายก
หมายเลขบันทึก: 158119เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2008 14:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 19:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (44)

เรียนท่านอาจารย์ฯ ที่เคารพ

  • ผมเป็นผู้หนึ่งที่ติดตามข่าวสารนี้ และรู้สึกกังวลว่า  กระทรวงนี้เกี่ยวข้องกับ สังคม+ความมั่นคง+มนุษย์
  • ผมเคยได้ยินสมัยหนึ่งที่ทางจังหวัด ได้รับหนังสือสนเท่ห์แล้วทิ้งตระกร้า และที่อ่านมานำสนเท่ห์มาสอบจนมีมูลขึ้นจนได้
  • บ้านเมือง  มีขื่อแป  แม้ในชีวิตจะอาศัยความรู้สึก เราจำมีกรักกติกามารยาท ผมสนใจว่า ความมั่นคงของมนุษย์คนในกระทรวงนี้  อยู่ที่ไหน
  • การสื่อสารในโลกยุคนี้กว้างไกล  หากจะเอาผิดกันก็ดูจะง่ายดาย จึงมองว่า ในวันข้างหน้า จะไม่มีคนกล้า คนดี คนเสียสละมาทำงานแถวหน้า เพราะกลัวโดน
  • ผมสนใจว่า  ยังไม่มีข้าราชการในกระทรวงกล้ามาพูด และมาตรฐานความดีงานของข้าราชการประจำย่อมต้องมี หากมีการเคลื่อนด้วยจำนวนรายชื่อมา ก็น่าสนใจ และแสดงว่าที่นี่มีความเป็นปึกแผ่น
  • ผมยอมรับนับถืออาจารย์และคุณหมอพลเดชฯ แต่ผมก็ไม่สบายใจ  โดยได้ตรวจจากเนื้อข่าวยังผู้ให้ข่าวยังไม่ได้รับหนังสือกล่าวหาท่านก็ยิ่งแปลกใจอีก
  • " พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือร้องเรียน พร้อมล่ารายชื่อ 2,000 ชื่อของข้าราชการกระทรวง พม. เห็นจากข่าวเท่านั้น  นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือข้อร้องเรียนของข้าราชการกระทรวง พม. เชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวลือหรือข่าวปล่อยมากกว่า "นสพ.มติชนฯ วันที่ 06 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10893
  • ระยะเวลาที่เหลือก่อนอาจารย์และคุณหมอพลเดชพ้นจากตำแหน่ง  ขอให้กำลังใจและได้กรุณาใช้สรรพกำลังและสติปัญญาเพื่อให้กระทรวงแห่งนี้มีความเป็นปึกแผ่นและให้อยู่กันมีจิตบริสุทธิ์ มีความเป็นสุภาพบุรษ ตามที่มีสัญญาใจต่อกัน ที่จะทำงานให้เกิดประโยชน์สุขแก่ปวงชน พวกเรายังต้องพบเจอกันอีกบนผืนแผ่นดินไทย อันเป็นที่รักของพวกเราอีก ต่างสถานที่และสถานะ

                                         ด้วยความเคารพ

                                                    ธนู

                                               08-01-2551

ผมขอต่ออีกหน่อยครับ เพราะสนใจเป็นพิเศษอีกว่า มาจนถึงวันนี้พลเอกพงษ์เทพและนายปรีชา  ได้รับหนังสือหรือไม่  และหนังสือเป็นข้อความว่าอย่างไร  เพราะอาจารย์ไม่ได้พูดถึง บอกแต่ไม่สบายใจ

ขอเรียนให้อาจารย์ทราบว่า  การสื่อสารทางเดียวนั้น แม้มีอำนาจก็ดูกระไร ที่มีนักข่าวเอาสำเนาที่มีไปยัง นสพ.มติชน มาถามเลยกลายเป็นว่า สำเนานั้นมามีความชอบธรรมไปจนได้ ก็เลยกลายข่าวใหญ่ที่สนใจทั่วกัน แต่ผิดเวลาครับ เราเสียใจต่อกรณีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สิ้นพระชนม์ ผมเองยิ่งเป็นกังวลจนต้องเขียนข้อความห่วงใย ครับhttp://gotoknow.org/blog/varity/157639  

เรียน อาจารย์ไพบูลย์

ติดตามข่าวด้วยความไม่สบายใจเช่นกันค่ะ  แต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติของสังคมนี้   ที่ผู้คนไม่รู้จักคำว่า "สำนึกผิด" หรือ "ขอโทษ"   แต่มักจะลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง  ทำ"ถูก" ให้กลายเป็น "ผิด" และทำ "ผิด" ให้กลายเป็น "ถูก" ได้ทุกเมื่อ

ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรง   เป็นกำลังใจให้อาจารย์ เพื่อเดินตามรอยอาจารย์ป๋วยต่อไปค่ะ

ขอแสดงความนับถือ

  • ทำได้เท่านี้ก็เท่านี้แหละครับท่านอาจารย์
  • แต่ผมรู้สึกเสียดายครับ ที่เห็นอะไรๆ กำลังสวยงามขึ้นเป็นลำดับ แต่แล้วก็มีอันต้องอำลาเวที
  • ขอบคุณครับ
ข้าราชการกระทรวง พม.
ขอเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์

ขอให้อาจารย์อย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอเป็นกำลังใจ  เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพื่อส่วนรวมอย่างน้อยก็ฉุดรั้งผู้บริหารระดับสูงในฐานะผู้นำองค์กรเพราะเบื่อมากกับการประพฤติสอพอ  ขอเรียนมาพฤติกรรมล่ารายชื่อเป็นดังนี้

1.การให้เขียนชื่อที่โรงอาหาร และสถานที่ทั่วไป โดยมีกลุ่มคนมายื่นกระดาษ โดยบอกว่าขอชื่อหน่อย โดยเป็นกระดาษที่มีการเซ็นชื่อต่อๆมา  และอ่านหัวกระดาษเขียนว่า ขอความเป็นธรรมให้ท่าน ป. ขอเรียนมาทุกคนก็ต้องเซ็นเพราะเกรงใจคนที่เอามาให้เซ็น หากไม่เซ็นก็อาจหาว่าเราเกลียดท่าน ป. อาจไปฟ้องกับลูกน้องของท่าน ป. ที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่มีมากมาย  ทุกคนอยู่ในภาวะจำยอม ปฎิเสธไม่ได้

2. หน้าห้อง รอง  อธิบดี พส.  , ผอ.ส่วนกลางที่คุมหน่วยงานโทรไปขอให้หัวหน้าหน่วยงานต่างๆให้ล่ารายชื่อลูกน้องมา เป็นที่แน่นอนว่าทุกหน่วยงานต้องทำ  หากไม่ทำจะมีผลกับหน้าที่การงานของตนและหน่วยงานได้  และที่สำคัญต้องการหยุดการตรวจสอบของท่านอาจารย์  ซึ่งส่งผลกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้

ขอเรียนมามีการคุกคามในสำนักงานโดยอาศัยอำนาจของผู้บังคับบัญชา  หากนำรายชื่อนี้ไปใช้เป็นเอกสารแนบร้องเรียนอื่นๆขอเรียนว่ามันคนละประเด็นกัน  และที่สำคัญควรมีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นบรรทัดฐานการหยุดยั้งการตรวจสอบต่างๆ เพราะการกระทำแบบนี้เป็นพวกสิบแปดมงกุฎ  หลอกลวง  สุดท้ายขอเป็นกำลังใจ  อย่าหวั่นไหวกับกระบวนการของหมู่โจร  เพื่อต้องการสืบทอดอำนาจ  สิ่งที่ท่านทำเป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมภาพรวมอยู่แล้ว และให้หยุดได้แล้วกับการสอพอเจ้านาย หาผู้หญิงให้นาย ยอมเป็นนางบำเรอ เพื่อหน้าที่การงาน เงินทอง มีอำนาจสามารถข่มเพื่อนร่วมงานได้

อ่านบันทึกฉบับนี้แล้วเครียดมากๆครับ

เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยอีกแล้วครับนี่ หรือเกิดมานานแล้วแก้ไขไม่ได้ หรือแก้แล้วแต่กลับมาใหม่ หรืออีกมากมายความคิดที่ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจครับ

กระผมขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ข้อความที่เป็นจริงที่อาจกระทบกระเทือนต่อสวัสดิภาพของตนแต่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม

 

 

 

ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน

 ครับ

ข้าราชการ พม. อีกคนหนึ่งอีกเช่นกัน

หากได้มั่นใจว่าตนเองทำถูกต้องและยุติธรรมอย่างแท้จริงแล้ว
ก็ไม่ควรต้องมีความรู้สึกเศร้าและเสียใจ
แต่หากกระบวนการไม่โปร่งใส มีอคติ ไม่แยกแยะ
ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ผลกรรมจะส่งผลต่อคนที่กระทำสิ่งนั้นลงไป

พวกเราต่างหากที่รู้สึกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ข่าวลือหรือบัตรสนเทห์ที่ส่งมาทำร้ายคน
อันเกิดด้วยจิตที่ไม่เป็นกุศล ขุ่นมัวด้วยความอิจฉาริษยา
ถึงไม่กล้าเปิดเผยตัว พวกเราก็ไม่หวั่นไหวหรือบ้าจี้เชื่อตามโดยไม่ไต่ถามตรวจสอบเสียให้ดีก่อน

เมื่อมีการตรวจสอบ เราก็ไม่หวั่นไหว ด้วยเราเชื่อมั่นว่า
กระบวนการตรวจสอบจะโปร่งใสและเป็นธรรม
สมคำอ้างในความเป็นคนดี มีศีลธรรมอันสูงส่งของคนสั่ง
เราเชื่อมั่นว่า อย่างไรเสียคนทำความดี รับใช้พระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด พระย่อมคุ้มครอง

แต่ตอนนี้ กลับเกิดความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น
ความระส่ำระสายแตกแยกเกิดขึ้นในองค์กรนี้
ผลการตรวจสอบก็ขัดแย้ง เดี๋ยวตอนแรกออกข่าวว่าไม่มีมูล
ตอนหลังกลับมามีมูล มันคืออะไรกันแน่

เมื่อไม่มีความชัดเจน โปร่งใส ก็เป็นที่แน่นอนว่า
ย่อมต้องเกิดกระแสความไม่พอใจเกิดขึ้น
และกระแสนี้ คงต้องเรียนว่า ไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าท่าน
ได้กระทำต่อคนไม่ดี

เรียน คุณคนความเห็นที่แล้วด้วยว่า
ไม่มีใครสามารถบังคับจับมือใครเซ็นต์ได้หรอกในยุคนี้
หากท่านไม่เกิดความยินยอมพร้อมใจ
และหากหนังสือร้องเรียนจะนำเภทภัยต่อตัวเองแล้ว
คงไม่มีใครกล้าทำ หากรู้ว่าตนเองจะต้องเดือดร้อนในภายหลัง
หากแน่จริง กรุณานำคนที่เขียนบัตรสนเท่ห์มาบอกสิว่าเป็นใคร
จะได้บอกว่าคนๆ นั้นมีพฤติกรรมเป็นมาอย่างไร
กรุณาอย่าฟังความข้างเดียว

และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งหากจะกล่าวอ้างว่าเซ็นต์ไปด้วยความเกรงใจ หรือกลัวว่าจะถูกฟ้อง เพราะนั่นก็เท่ากับว่า
ท่านไม่บริสุทธิ์ใจที่จะยืนยันหลักการของท่าน
ท่านทำงานบนพื้นฐานของการเห็แก่พวกพ้อง ตกอยู่ใต้อิทธิพลระบบอุปถัมภ์
ท่านมาทำงานในกระทรวงไม่ได้หรอก
หรือหากท่านทำอยู่ ก็ขอให้ลาออกไปซะ
คนอย่างท่านมีแต่จะทำให้กระทรวงตกต่ำลง

ขอยืนยันว่า เราทำทุกอย่างอย่างมีสติรู้ผิดชอบชั่วดี
ไม่มีใครมาจูงจมูกของเราได้
ระบบสอพลอมีหรือไม่ อ่านในบล๊อคนี้ ก็พอเห็นได้ว่ามันเป็นอย่างไร

และขอยืนยัน ไม่มีลูกคนไหนที่จะทำร้ายพ่อแม่ได้หรอก
หากรับรู้ว่า พ่อแม่นั้นมีความห่วงใยรักใคร่ตนอย่างแท้จริง

หากท่านมั่นใจว่าตนเองเป็นคนดี ทำความดีอย่างแท้จริง
ก็ไม่เห็นความจำเป็นจะต้องมาเศร้าโศกเสียใจทำไม
กลับอยากเห็นท่านใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบ
ท่านก็เหนื่อยมามากแล้ว แต่อย่าให้เรานึกถึงท่านในแง่ลบเลย
เคยเคารพนับถือท่านมาก แต่ตอนนี้ เสียใจที่ต้องบอกว่า
ภาพในอดีตของท่านมันลางเลือนจริงๆ


เรียน ท่านรองนายก ที่เคารพค่ะ

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับคนดีของแผ่นดินแบบท่านคะ และอยากเรียนว่าอย่าเสียเวลา อย่าไหวหวั่นหรือเสียใจกับการกระทำของกลุ่มคนที่เห็นผิดเป็นชอบเห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปเลยคะ

ตลอดเวลา๑ปีที่ท่านดูแลกระทรวงนี้มาท่านสร้างความก้าวหน้าและทำประโยชน์อย่างมากมายให้กับกระทรวงนี้มากมาย โดยผู้คนในสังคมได้รับรู้มาโดยตลอด และสิ่งที่ท่านทำนั้นถือว่าเป็นคุณูประการกับเด็กเยาวชนและประเทศชาติอย่างยิ่ง

ในทางตรงกันข้ามบรรดาพวกข้าราชการแย่ๆที่คอยหาเรื่องท่าน หากตรวจสอบพฤติกรรมกันจริงๆคงหนีไม่พ้นพวกทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม หายใจลดทิ้งไปวันๆ มองความเป็นปัจเจกมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ แม้กระทั่งคนพาลคนผิดกับแผ่นดินและประเทศชาติก็ยังดูไม่ออก กลับไปเข้าพรรคเข้าพวก

ชื่อกระทรวงดูเหมือนว่าจะเป็นกระทรวงที่ทำหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่..ตั้งมาหลายปีแล้วทำไมสังคมถึงไม่พัฒนา ผู้คนกลับมีแต่ปัญหาจนน่ากลัว เพียงแค่เด็กขายพวงมาลัย และปัญหาค้าเนื้อสด ค้าแรงงานเด็ก แค่นี้ยังแก้ไขไม่ได้เลย คำตอบก็คือ ข้าราชการไม่เอาถ่าน เอาแต่คอรัปชั่น และมีกิ๊ก

ท่านไพบูลย์อย่าไปสนใจเลย เอาไว้ให้นักการเมืองเขี้ยวรากดินมาปราบจะดีกว่ามั๊ย

พวกเราชาวพม.ส่วนหนึ่งที่อยู่ในชนบทที่ทำงานกับชาวบ้านไม่เคยเดินทางไปกระทรวงเพราะเราเป็นแค่ชั้นผู้น้อยผู้ปฏิบัติงานในท้องถิ่นแต่ก็ทราบข่าวของกระทรวงมาตลอด ขอเรียนท่านไพบูลย์ว่าเราภูมิใจ ยุกที่ท่านนำพาองค์กรของเราอยู่ในสังคมได้อย่างมีเกียรติ คุณความดีของท่านจะยังคงอยู่ตลอดไป

ขอให้กำลังใจ

ขอท่านอย่าเหมารวม คนดีในกระทรวงนี้ที่ดีและตั้งใจทำงานยังมีอีกมากครับขออย่าเหมารวมครับ

ขอบคุณครับ

เราเป็นข้าราชการ  แต่ไม่เคยเช้าชามเย็นชาม

กว่าจะได้กินข้าวสักชามก็สาย บ่ายแก่แล้ว

อย่ามาว่าข้าราชการอย่างนี้นะดูหมิ่นกันชัด  ๆ

แต่ก่อนตอนอยู่ห่าง คุณไพบูลย์ก็ศรัทธาอยู่หรอก

แต่พอมาเป็น รมว.พม. ไม่ได้เรื่อง ความศรัทธาก็หมดไปด้วยยิ่งมาได้คู่ดูโอ้คุณพลเดช  วงแตกเลย  เพราะเอาดีเข้าตัวแท้ เชียว

อะไรนะที่ทำให้กระทรวงก้าวหน้า โถ โถ โถ นามธรรมลอยไปลอยมา  ไม่เชื่อก็ลองมาทำงานกับคู่ดูโอ้คู่นี้ดูดิ

พม.ตอบกระทู้คนที่ 10

อย่าข่มขู่กันอีกเลย  เหตุที่เกิดขึ้นเพราะท่านผู้ใหญ่คนนั้นมั่วเมากับกิเลศตัณหาจนหน้ามืด  สร้างความอัปยศให้กับองค์กร เหตุเกิดจากการประชุมสัมมนาของหน่วยงานภายในของ พส. ที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ท่านผู้บริหารระดับสูง(ป.) ไปทำไม  ผมอยู่ สท .ไม่เห็นท่านเมตตาไปเลย  สค.ก็ไม่ไป  เหตุที่ไปของ พส. เพราะมีแฟนที่กำลังคบหาดูใจกัน  แต่ต้องการประกาศให้สังคม ลูกน้อง รับรู้ ว่าผู้หญิงของข้าใครอย่าแตะ  จึงต้องมีการหยุดรถรับระหว่างทาง  นอกจากเรื่องนี้แล้ว ได้ข่าวว่าในช่วงเวลา 3 เดือน

มิย. - สค. 50  ท่านผู้บริหารระดับสูงท่านนี้ พาแฟนสาวที่เป็น ข้าราชการในกองกลาง พส. (งานการเจ้าหน้าที่)ตระเวนไปต่าง ประเทศ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 .แคนาดา  ครั้งที่ 2 . อเมริกา  ทั้งที่เป็นทวีปเดียวกัน ใช้งบทางราชการนอกจากนี้ ยังมีในประเทศอีกหลายจังหวัด เช่น อุบล, สกลนคร ,สงขลา โดยใช้งบราชการเป็นล้านๆ เวลาราชการ  กลุ่มคนที่ไปก็พวกเดียวกัน  เป็นเพื่อนอนาคตเจ้าสาว , แม่สื่อ  เรียกว่าตระเวนทัวร์เลย ทั้งนอกประเทศและในประเทศ  (หากฮันนีมูนจะแค่ไหน)  ทำไมข้าราชการผู้อื่นไม่ได้สิทธิเล่านี้

        ถึงเวลาแล้วที่ท่านอาจารย์ต้องสะส้างปัญหานี้กลุ่มคนอิทธิพลที่ถูกสั่งสอนสิ่งเลวๆเหล่านี้ ไม่ควรมาเป็นผู้บริหารนำพาองค์กรได้   ขอให้อาจารย์สู้นะครับ  ขอให้สิ่งศักดิ์ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คุ้มครองอาจารย์  และกระผมคิดว่าสิ่งศักดิ์มีจริง ทำให้อาจารย์หายจากโรคภัย ไข้เจ็บ สามารถทำงานให้กับประเทศชาติ เสริมสร้างสังคมต่อไป

อย่าเสียใจเลยค่ะอาจารย์  เคยเข้าฟังการเสวนาขององค์กรสตรีที่จัดขึ้น เรื่องของผู้บริหารของบิ้ก พม. แต่ไม่รู้รายละเอียดพฤติกรรมมากนัก  หากกระทู้ท่านที่  16  เป็นจริง   ถือว่าท่านได้ดำเนินการสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

เป็นที่แน่นอนที่กลุ่มคนชั่วที่สูญเสียผลประโยชน์ ย่อมออกมาตอบโต้ท่าน  โปรดอย่าเสียใจกับรายชื่อที่ตอบโต้ท่าน เพราะสิ่งเลวๆยังประพฤติได้นับประสาอะไรกับการหลอกลวงล่ารายชื่อ  และที่สำคัญรายละเอียดลึกๆรู้มากน้อยแค่ไหน  หากดิฉันเป็นข้าราชการกระทรวงฯนี้ คงไม่พอใจ  ทุกคนทำงานโดยเป็นเงินเดือนของภาษีประชาชน มีระเบียบ   แต่มีบางกลุ่มได้รับอภิสิทธิ์

ดิฉันอ่านกระทู้ต่างๆแล้ว รู้สึกเห็นใจกับข้าราชการกระทรวงนี้เหลือเกิน  และเมื่อไรจะหมดไปกับวัฒนธรรมส่งส่วยให้นาย  การเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน การก้าวหน้าโดยอาศัยร่างกายเข้าแลก  และเรื่องนี้ดิฉันจะแจ้งไปยังองค์กรสตรีตรวจสอบต่อไป

อ่านอย่างไรจึงมองว่าข่มขู่

กรุณาอย่าใช้พฤติกรรมที่เคยกระทำต่อคนอื่นมาวัด

หายใจลึกๆ แล้วตั้งสติดีๆ อ่านอย่างคนมีปัญญาเขาอ่านกัน

ในที่สุด ก็เผยตัวออกมาแล้วสิว่าอยู่ สท.

เวลาคงว่างมากจริงๆ ถึงได้รู้เรื่องคนอื่นเขาเสียละเอียดถึงขนาดนั้น

ก็ไม่แปลกใจ ถ้าจะไม่ได้รับความสนใจ หรืออยากจะเรียกร้องสิทธิ

น่าสงสารนะ วันๆ คงไม่ได้ทำงาน เอาแต่จะคอยจ้องจับผิดเรื่องคนอื่น แล้วเอาแต่สิทธิประโยชน์เข้าตัวเอง

ขอร้องเถอะ ไม่รู้จริง อย่าตกเป็นทาสของสื่อ ของกระแส

คนอย่างพวกคุณ ทำให้คนดีๆ เขาถอดใจทำงาน

ขอภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองด้วยเช่นกัน

คนทำไม่ดี ไม่บริสุทธิ์ใจ ขอให้มีอันเป็นไป

ทำกรรมอะไรไว้ ก็ขอให้ได้รับผลกรรมตอบแทน

 

อนิจจา  คน พม. ทำไมไม่รักกันนะ  ขณะนี้ต้องหันกลับรักและสามัคคีกันนะครับ  อย่างให้คนนอกมายุยุงให้เราแตกเป็นฝ่าย ๆ เลย  นักการเมืองมาแล้วก็ไป  ก่อนไปก็พุงกางแล้ว  คุณไพบูลย์อาจดี  แต่ถ้าดีจริงก็ต้องปรามคนของตัวมิให้อยากมี อยากเป็นในสิ่งที่ไม่เคยมี  ไม่เคยเป็น  อย่าทำเป็นรู้ไม่เห็นด้วยเกรงภาพพจน์ของตัวมัวหมอง  ใครทำอะไรก็รู้อยู่ใจ  อย่าให้ พม. บอบช้ำไปมากกว่านี้เลย  คน พม.ต้องมีจุดยืนที่หนักแน่น นะ

เรียน  อาจารย์ไพบูลย์

ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามข่าวเรื่องนี้มาพอสมควร แต่ดิฉันมั่นใจในตัวท่านอาจารย์มากคะ คิดว่าท่านทำดีที่สุดแล้ว ใครที่ไม่เห็นความดีขอเราและคอยใส่ร้ายเรา ดิฉันเชื่อว่าสักวันผลร้ายอันนั้นก็คงจะกลับไปถึงตัวเขาเองคะ สู้ๆๆ นะคะ ดิฉันภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับท่านอาจารย์คะ

เป็นกำลังใจให้อาจารย์ไพบูลย์

อย่ามาว่าท่านอาจารย์ไพบูลย์เลยครับ

ท่านอาจารย์ไม่เคยยุยงใครให้แตกแยก อย่างที่คนในกระทรวง พม. ในกระทู้นี้กำลังทำ กำลังเป็นกันครับ (กัดกันอย่างกับตัวอะไร)

และเมื่อเดือนมิถุนายน 2550 ที่ข่าวลงว่าท่านอาจารย์ขัดแย้งกับกระทรวงมหาดไทยจนมีการเคลื่อนไหว ในข่าวของรัฐสภา "องค์กรชุมชนยกขบวนหนุน"ไพบูลย์-พลเดช" เสนอปลดรมว.มหาดไทย http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=68455

ท่านก็ไม่ได้ทำนะครับ

ท่านพูดแต่เรื่องการเมืองสมานฉันท์ครับ ผมคิดว่าท่านเป็นคนเก่ง มีความรู้ ความสามารถ ไปอยู่ที่ไหนก็เกิดความสมานฉันท์ ครับ

 

บุคคลที่ดีงามทั้ง 2  เป็นที่ยอมรับของประชาสังคม คนในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์คิดอย่างไรจึงร่วมกันทำเรื่องร้องเรียนได้ ขอให้ชั่งนำหนักระหว่างความถูกต้องมีจริยธรรมกับประโยชน์ส่วนตนให้ดี ผู้ร้องเรียนจะกวาดต้อนคนดีออกจากสังคมหรือ เป็นอะไรไปกันแล้วคนกระทรวง พม.

    คนเป็นกลาง  มองด้วยจิตว่าง ปราศจากอคติใดๆ

พระท่านว่า ก่อกรรมใดไว้ย่อมได้ผลกรรมนั้น

ความสุขหรือทุกข์เกิดจากการกระทำของบุคคล หาก

ทำดี พูดดี คิดดี ก็รับผลดี

ผมขอเรียนว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ลงชื่อไว้ เพราะหัวหน้าเอามาใหเซ็น บอกว่าขอความเป็นธรรมให้กับกระทรวงซึ่งเป็นองค์กร  เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความผิดตัวบุคคล  ผมก็เห็นด้วยและเห็นว่าไม่เห็นเสียหายอย่างไร  อย่างน้อยอาจอาศัยอำนาจท่านขอร้องสื่อมวลชนในการลงข่าว  เพราะต้องเห็นใจคนทำงานลงพื้นที่ ประชุมต่างๆ บางครั้งก็นำมาเป็นเรื่องชู้สาวของผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงฯมาขำๆในที่ประชุม โดยเฉพาะเค้าอยากรู้ว่าจะวิวาห์กันไหม  ผมไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรมันอายๆครับ ผมก็ลงชื่อไป 

         ต่อมาทราบว่ารายชื่อที่เซ็นกันมานั้นเพื่อร้องเรียนท่านอาจารย์  ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรครับ ไม่รู้จะมีกลุ่มคนนำไปแปลงถึงขนาดนี้  แต่ผมยังแปลกใจอยู่ครับว่าหากมีรายชื่อจริงใครจะเป็นคนส่ง  เพราะเท่าที่สืบข่าวมาทราบว่าเป็นกลุ่มคนที่เป็นโต้โผ้ใหญ่อยู่ที่กรมฯ อาจถูกตรวจสอบและกังวลต่อการถูกโยกย้ายเพราะจะกลายเป็นน้ำลดต้อผุด  ฐานอำนาจบารมีที่ปล้นระดมไว้จะหมดไป  และที่สำคัญการให้ส่ง fax รายชื่อ ก็ใช้เบอร์ราชการของกรมพัฒฯ น่าจะเป็นเป็นการเห็นพ้องต้องกัน และก็ดีต่อองค์กร  แต่ทำไมกลายเป็นเรื่องร้องเรียนท่านอาจารย์

        ตอนนี้ผมวิเคราะห์แล้วว่ามันเรื่องอะไรกัน  ถึงเรื่องชู้สาวที่ดังสนั่นทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ทำกันแบบนี้และก่อนทำทำไมไม่คิด  ไม่รู้หรือว่าตัวท่านเป็นใครแฟนสาวที่คนหาดูใจจะเป็นคู่สร้างคู่สมหรือคู่เคราะห์ร้ายกรรมซัดแน่ ไม่ท้วงติง ไม่ห้ามปราบ ร่วมคิดสร้างเสริมชีวิตให้เป็นมงคล  และอย่างนี้เพื่อนร่วมงานไม่สาปแช่งหรือ บรรดาเหล่าลูกน้องทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหน่วยที่แฟนสาวทำอยู่ไม่ท้วงติง หรือเคยผสมโรงไปด้วย ทุเรศสิ้นดีหน่วยงานต่างจังหวัดจะไปรู้อะไร เล่นพาท่านนั่งพาหนะมีความสุขสำราญด้วยกัน บินข้ามทวีปบินไปบินมา  สุดท้ายก็เหมือนเครื่องบินตก  ตกไปสู่นรกอเวจี สร้างความอัปยศให้กับกระทรวงฯ แล้วยังใช้วิธีสกปรกต่อสู้ขอความเป็นธรรม

จะขออะไรก็บอกตรงๆ ขอโอกาสสร้างสมเรื่องชั่วร้ายใหม่หรือ    อาจารย์ครับ ท่านไม่ต้องกังวลหรอกครับเพราะถูกวันนี้กลุ่มคนเหล่านี้บารมีไม่มีแล้ว  มีแต่เวรกรรมตามติด คิดดูซิครับ กระทู้คนที่ 18 เวลา เกือบตีสองยังไม่ได้หลับนอน เพราะไฟเผาไหม้ในทรวงอกแล้ว   สุดท้ายนี้นี้ผมขอเรียนกับอาจารย์ว่าผมไม่ขอโทษท่านนะครับ  เพราะผมไม่ได้รับรู้เรื่องราว จุดประสงค์ซ้อนเร้นความชั่วร้ายเพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบขยายผลหรือการโยกย้ายออกจากตำแหน่ง  และที่สำคัญเพื่อซื้อเวลาคอยรัฐบาลใหม่  ผมยอมรับครับว่าเขาเก่งเรื่องเลวจริงๆ  นี้   ถึงอย่างไรก็ตามผมก็เป็นกำลังให้กับท่านและคิดว่าอาจารย์คงตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง  ตามครรลองครองธรรม  ถึงแม้ใบปลิวที่โจมตีท่านส่งมาให้หน่วยงานเรามีมาตลอดแต่ทุกคนก็แปลกใจอยู่เหมือนกันก็มันเรื่องอะไร แล้วมีหรือว่าข้อมูลความชั่วร้ายจะปกปิดได้  ท่านเข้าใจเถอะครับครับว่า เป็นพวกสูญเสียประโยชน์ อับอาย ไม่โทษตัวเอง ที่ไหนได้ก็กว้างงูไม่พ้นคอ

จะกล่าวหาอะไรช่างเถิด  ไม่ได้เรียกร้องสิทธิหรือผลประโยชน์อะไร  แปลกใจจังท่านยอมรับกับการเอาเวลาราชการ  งบประมาณ ไปสร้างสัมพันธ์สวาทได้อย่างไร  เวลาไปพลอดรักจนตามต่างจังหวัด  หรือต่างประเทศ เป็นการรบกวนหน่วยงานต่างจังหวัดหรือเปล่า  เรียกว่าประกาศศักดาในส่วนกลางไม่พอ  ถูกคนครหาก็หาว่าเป็นพวกเรียกร้องสิทธิประโยชน์ งานการทำไม่ทำ  อ่านแล้วท่านกำลังกล่าวหาใคร ให้ดูแลตอบกระทู้ก่อนว่าเวลาราชการหรือไม่  และที่สำคัญเวลา  22.00 น. ก็เข้านอนหลับสบายใจแล้ว

ญาติมิตรพัฒนาสังคม

ท่านอาจารย์ครับ  อย่ากังวลนะครับ ขอให้ท่านทำงานให้ดีที่สุด  และผมขอบอกว่าภาคภูมิใจในตัวท่านเสมอ  ผมเข้าใจท่านต้องการสื่อสารให้กลุ่มบางกลุ่มเข้าใจ   ผมรู้ดีหลายคนเห็นใจท่าน เข้าใจท่านว่าท่านมีความพยายามและเป็นผู้ให้เสมอ  ท่านเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี  ผมสังเกตุท่าน  ท่านก็คืออาจารย์ดีๆ สั่งสอนและเป็นผู้ให้กับสังคมเสมอ  และผมเชื่อว่าในสังคมเราทุกวันนี้มีคนดีมากกว่าคนไม่ดี  และในกระทรวง พม. ก็เช่นกัน   ผมเชื่อว่าคนดีมากกว่าคนไม่ดี อาจมีบางกลุ่มที่พวกเราเห็นแตกต่างกับพวกเค้าโดยสิ้นเชิง  อาจเปรียบเสมือน กาฝากของ พม.และเรื่องนี้คงไม่ใช้บทบาทของท่านเพียงลำพังแล้ว  ผมคิดว่าชาวพม.ต้องช่วยกัน  หากคิดว่าจะช่วยกันเทนําเน่าทิ้ง  หรือปัดกว่างบ้านช่องก็ควรทำ เพราะท่านอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้  หากคิดว่าต้องร่วมกันสมัครสมานสามัคคีเพราะพรรคพวกถูกรังแก ทั้งที่พรรคพวกท่านไปลักทรัพย์ หรือประพฤติตัวเหมือนพระภิกษุเสพเมถุน  ก็ตามใจเถอะครับ

        อาจารย์ครับ  ขอให้ท่านตั้งใจทำงานตามหน้าที่  ตามปฏิธานที่ตั้งไว้ และที่สำคัญตามที่ท่านถวายสัตย์ปฎิญานไว้กับสิ่งที่พวกเราชาวไทยเทิดทูนเป็นที่สุดอย่างภาคภูมิใจจนถึงเวลาสุดท้ายที่หน้าที่หรือบทบาทตามที่มอบหมายให้ท่านสิ้นสุดลง  ซึ่งท่านจะจดจำสิ่งดีงามนี้ตลอดไป  ...เราเคารพรักท่านเสมอ

 

นายธีรพงษ์ วิชญเนตินัย
เรียนท่านอาจารย์ครับพวกผมขอให้กำลังใจท่านครับ ผมรู้เพียงว่าท่านทำดี ทำส่งที่ถูกใจพวกกระผมมาตลอด  เพื่อคนยากจน คนด้อยโอกาสแล้วท่านได้แสดงเจตนารมณ์ ที่ให้เขาอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ผลักดันให้เกิดขบวนการสวัสดิการชุมชนท้องถิ่น ถึงแม้ว่าท่านจะต้องหมดภาระในกระทรวง พม. พวกผมก็จะสานต่อเจตนารมณ์ของท่านต่อไป ขอท่านจงมีสุขภาพแข็งแรง เป็นเสาหลักให้พวกผมต่อไปด้วยความเคารพยิ่งจาก  คณะทีมงานสวัสดิการชุมชน –“องค์กรชุมชนฅนตราด
ญาติมิตรพัฒนาสังคมเช่นกัน
อ่านกระทู้ในหน้า 1 เรื่อยมา รู้สึกเห็นใจท่านนะคะ แต่เชื่อเถิดบ้านเมืองนี้คนดีมีมากกว่าคนไม่ดี  ดิฉันขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองท่าน  และดิฉันเชื่อมั่นในการตัดสินใจของท่าน และดิฉันก็เห็นว่าท่านและคุณหมอพลเดช ตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูก  หากปล่อยปะละเลยไปกระทรวงฯที่ทำงานเพื่อเสริมสร้างสังคมจะเป็นอย่างไร   เมื่อถึงจุดนี้ขอให้ท่านเมตตากับข้าราชการนี้ให้มากนะคะ  เพราะเขาคงต้องเผชิญกลุ่มคนเลวที่มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต  ไม่กล้าขัดแย้ง  แล้วอย่างนี้งานด้านพัฒนาสังคม เสริมสร้างคุณธรรมก็ทำอย่างไร

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ และท่านรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ  ที่จะนำสิ่งที่ดีมาสู่ พม. หรือ กรมประชาสงเคราะห์เก่า 

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า  เวลาท่านน้อยเกินไปพอที่จะทำให้สำเร็จลงได้  และกับอิทธิพลหลาย ๆ ด้านที่มีผลต่อการให้ข้อมูลต่างๆ 

น่าเสียดายที่บางครั้งความดีนั้นไม่สามารถต่อสู้ความไม่ดีในโลกใบนี้ได้

แต่ในที่สุดก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า  ความตั้งใจจริง  ความต้องการที่จะเห็นกระทรวงฯนี้เป็นกระทรวงฯทางด้านจริยธรรม  และคุณธรรม  จะช่วยส่งผลให้ความดีนั้นสามารถชนะความไม่ดีได้ แม้ว่า ความไม่ดีจะมีอยู่น้อยนิดในกระทรวงฯแต่มีอิทธิพลมากในกระทรวงก็ตาม ( แบบโครงสร้างใยแมงมุม)

ด้วยความเคารพและนับถือเสมอ 

 

 

 

 

ตลอดระยะเวลา 1 ปี รู้ว่าท่านพยายาม และตั้งใจที่จะทำงานมาโดยตลอด เพียงแต่มีบางคนที่ทำตัวเสมือนโฆษก ส่วนตัวของท่านประกาศต่อสาธารณะชนไปทั่ว ว่าพม.เป็นอย่างโน้น อย่างนี้ในแง่มุมที่ทำให้เหล่าคนทำงานในกระทรวงรู้สึกท้อแท้ และที่สำคัญยังทำให้ประชาชน กลุ่ม องกรทั่วไปรู้สึกมีอคติต่อหน่วยงาน ซึ่งทุกครั้งที่มีการออกไปทำงานที่ไหน ประสานงานกับใคร มักจะได้ยินคำถามซึ่งรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจคนทำงานเสียเหลือเกิน บางทีคนข้างกายที่ท่านมีอาจไม่ดีอย่างที่ท่านคิดก็เป็นได้

อ่านแล้วเข้าใจและเห็นใจท่านอาจารย์และคุณหมอพลเดชคะ  ดิฉันมีความคิดเห็นขัดแย้งกับท่านกระทู้ที่ 30 เพราะเห็นว่าท่านและคุณหมอพลเดช ท่านมีประสบการณ์ที่เข้าใจชุมชนหรืองานมวลชนเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะเวทีประชาธิป  ซึ่งบทบาทนี้คนส่วนใหญ่หรือสังคมไทยยังไม่เคยชิน  เพราะเป็นโอกาสที่น้อยมากที่จะมีรัฐมนตรีด้านสังคมที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านนี้มาทำงานซึ่งแตกต่างจากทีมเศรษฐกิจ  ส่วนใหญ่เคยชินกับรัฐมนตรีจากสายการเมืองจริงๆ สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีหลักการ สนใจแต่ฐานคะแนนเสียงและผลประโยชน์ของพรรค แน่นอนคะ  บางครั้งก็ดูเหมือนลิงหลอกเจ้า    การให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆก็คงไม่ตรงไปตรงมา  เพราะกลัวเป็นประเด็นทางสังคมหรือก่อศัตรูสิ่งเหล่านี้ทำให้คนทั่วไปโดยเฉพาะข้าราชการเคยชินแต่ดิฉันเห็นว่า การปรับเปลี่ยนหรือการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดี  ซึ่งอาจดูเหมือนไม่ดีต่อ พม.ในระยะต้น  แต่อาจจะเกิดการขับเคลื่อนใฝ่หาคุณธรรม กติกาใน พม. ซึ่งจะเห็นได้จากกระทู้ใน หน้า 1 หลายกระทู้ ที่ คนพม. สะท้อนถึงปัญหาที่เผชิญอยู่  ซึ่งอาจจะมีการรวมพลังทั้งในคน พม. และเครือข่าย ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก รวมแรงร่วมใจกันพา พม. สู่สังคมธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง

อยากสาปกลุ่มคนที่หลอกลวงพวกพ้อง พม. ด้วย ให้เซ็นชื่อให้กำลังใจกับท่านผู้บริหารระดับสูง ก็เซ็นให้ไป  พอทราบมีการนำรายชื่อนี้ไปเพื่อร้องเรียน

รัฐมนตรีเพราะให้ข่าวว่าจะถูกย้าย  แต่ยังไม่มีคำสั่งจึงอาศัยถึงอำนาจว่า ข้ามีเพื่อนพรรคพวก 2,000 ชื่อ จะร้องเรียนรัฐมนตรี ทุเรศสิ้นดี  เห็นไหมกระทู้ที่ 7,16 ,24 (หน้า1) อายเค้าไหม  แทนที่เรื่องจะจบไป กลับทำเรื่องให้ดัง  มีใบปลิวส่งมาหน่วยงานตลอด ว่าแล้วมันต้องมีอะไรแน่ๆ  เพราะที่ผ่านมาไม่เคยรักกันเลย ขอโทษขนาดเงินคนยากคนจน คนพิการ ผู้ป่วย ยังจ่ายไม่ครบ  ว่าแล้วจะรักอะไรกับองค์กร 

สุดท้ายนี้ขอบอกคำเดียวกับอาจารย์ว่า ผมขอโทษ  แล้วผมจะดูหน้าพวกนี้จะเอารายชื่อไปทำอะไร

ไม่สำนึกบุญคุณเจ้านาย ทุกวันนี้ที่ได้ซี ก็เพราะใคร  เห็นดีเห็นงามพวกนักการเมือง  ทั้งที่เข้ามากระทรวงฯทำแต่เรื่องเสียชื่อเสียง นักข่าวถามอะไรตอบหมด  ไม่ตอบก็ได้ ไม่รู้มีผลประโยชน์แอบแฝงหรือเปล่าขอบอกเรื่องชู้สาวมันมีอยู่ทั่วไป ทำไมไม่เรียกไปตักเตือนก่อน  ในเมื่อมันเป็นบัตรสนเทห์  จะบอกว่าเจ้านายเราเป็นผู้บริหารระดับสูงมีผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรจึงต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น  ทำไมไม่ไปดำเนินการย้ายข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ทำเรื่องแบบนี้ด้วย  อย่างนี้เรียกว่าจงใจกลั่นแกล้งแล้ว  และที่สำคัญควรปิดเว็บไซต์ไม่นั้นจะสร้างความแตกแยกให้กับกระทรวง พม.

พม.เหมือนกัน แต่ไม่เคยโกงดรับ
คห 33 ได้ดีเพราะนายเหรอ ไม่ได้ทำงานรับใช้ประชาชน นายคุณไม่เคยมีบุญคุณกับผม เมื่อทำผิดก็ถูกสอบสวน ไม่ผิดก็กลับมาได้ ไม่เห็นต้องดิ้นรนล่ารายชื่อเลย ฟ้องศาลปกครองก็ได้ ไม่กล้าฟ้องเพราะกลัวถูกสาวไส้อีก จะเอาสักเรื่องไหม จะเล่าให้ฟัง เรื่องอะไรดีมีเยอะซะด้วยเอาเรื่องบัณฑิตอาสามั๊ย 55555555555  ลูกเราและเพื่อนอีก 5 คน เคยเป็นบัณฑิตอาสาและออกไปทำงานที่อื่น  ที่ไหนได้เพื่อนอยู่กลางคลัง ทัก เห็นชื่อลูกชายยังเป็นบัณฑิตอาสาอยู่และมีการเบิกจ่ายเพราะตอนนั้นยังคงเบิกจ่ายเป็นเงินสด  เพื่อนจึงแอบถ่ายเอกสารมาให้ ที่ไหนลูกเราและเพื่อนไปทำงานที่อื่นตั้ง 4 - 5 เดือน ยังเบิกเงินอยู่เลย  ท่านรู้ไหมว่าตอนนั้นใครเป็นผอ.กองสัมมา...วะ   ทุเรศสิ้นดีอยู่  การล่ารายชื่อควรมาจากใจบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมาหน่อย  เล่นหลอกกันอายชาวบ้านชาวช่องไหม

ตั้งแต่เปิดบล็อคมากลายเป็นกระทู้ฮอทสุด

คงสมใจแล้วมั้ง

 คุณกระทู้ 34 ตอบแปลก

บอก  "นายคุณไม่เคยมีบุญคุณกับผม เมื่อทำผิดก็ถูกสอบสวน"

ไม่ทราบถ้ามีบุญคุณกับคุณคงจะคิดช่วยละมัง

ดูแกว แล้วก็คงชอบได้ดีเพราะนายด้วยเช่นกัน

แถมรู้เรื่องทุจริตกับเพื่อนที่กองคลัง กลับไม่แก้ไข

แถมยังบอกว่ามีเรื่องอีกเยอะ

คนอย่างคุณ ทำให้แผ่นดินต่ำลงเยอะ

เฮ้อ กระทรวงนี้มีแต่ความขัดแย้ง

สมกับที่มีท่านมาบริหารจริง เฮ้อ การเมืองแบบสมานฉันท์ สมานกันจริง แค่ในกระทู้นี้ยังทะเลาะกันเลย

งั้นขอให้ท่านไพบูลย์และหมอพลเดชลาออกไปเถอะครับ แล้วให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบต่อไปเถอะครับ เพื่อที่ข้าราชการใน พม จะได้มีความคิดไม่แตกแยกโดยที่ไม่รู้อะไรเป็นอะไรกันอย่างนี้ พวกที่ท่านเคยสอนเคยทำอะไรให้ไว้ก็ช่วยท่านไป คนในพมที่ได้รับความช่วยเหลือ หรือคนที่รักท่านปลัดก็ช่วยท่านปลัดไป ผมว่าทำตามที่ผมคิดเถอะ คนใน พม จะดูจากการตรวจสอบเอง อย่าได้มาโพสต์ในนี้อีกเลย อายครับที่จะบอกคนอื่นเพราะแต่ก่อนภูมิใจที่ได้อยู่กระทรวงนี้ ตอนนี้ก็ยังภูมิใจอยู่มากแต่ขอเรื่องนี้นะครับท่านทั้งหลาย
ต่างคนต่างคิด  ต่างคนต่างชอบ นานาจิตตัง แต่ขอให้ พม.อยู่ได้ในความแตกต่าง  กติการะเบียบต้องมี  มีแล้วใครจะปฏิบัติหรือไม่ก็ช่างมัน เพราะตอนจบมันจะปรากฏเอง แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยนะกลับการโพสต์ขับไล่ใคร  หรือว่าประนามใคร หากใครทำผิดและมีหลักฐานก็ควรส่งไปหน่วยที่มีหน้าที่ตรวจสอบ  ทางที่ดีควรสื่อสารว่าเราจะทำอะไรให้ พม.ดีขึ้นกว่าเดิม  เพราะ พม.คือองค์กรราชการ  ไม่ใช่ของใคร พวกใคร บรรพบุรุษใคร แต่เป็นของแผ่นดินที่ขับเคลื่อนงานสังคมเพื่อประชาชน

อยากจะบอก ชื่อกระทรวงการพัฒนาสังคม และ ความมั่นคงของมนุษย์ ใครก็ได้ที่มีอำนาจ มีหน้าที่ ช่วยทำให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่ข้าราชการมั่นคงหน่อยได้ไหมครับ และที่สำคัญขอความกรุณาท่านที่เป็นพี่ๆๆข้าราชการอย่าแสดงอาการข่ม ขู่ น้องๆ งานที่ท่านข้าราชการทำบางคนยังสู้เด็กๆไม่ได้ เลยเกลียดนักกับคำว่าแค่ลูกจางชั่วคราว  จ้างเหมาบริการ ทั้งๆที่ความรู้พวกเราก็มี เสียดายที่พ่อ แม่ของเราสั่งสอนให้เป็นคนดี เป็นข้าราชการพ่อแม่ได้พึ่ง ปัจจุบันมาทำงานราชการกลับต้องพึ่ง พ่อแม่ มันเดอะไรขึ้นครับ เราเองยังไม่มั่นคง แล้วใครจะมั่นคงครับ

ทินารมภ์ แกล้วกล้าวิชิต

เรียนท่านรัฐมนตรีพม.สนง.เขตกรุงเทพครับ

กระผมนายทินารมภ์  แกล้วกล้าวิชิต   อายุ31 ปีชาวไทยด้วยกันผมเป็นคนใต้เกิดจังหวัดพัทลุง  ได้มาทำงานที่กรุงเทพมหานครระยะหนึ่งแล้วผมอยากจะร่วมงานและปฏิบัติงานกับพม.  ซึ่งหลายปีผ่านไปผมเคยได้สมัครเป็นเจ้าหน้าที่ อพม.ในเขต9 ของจังหวัดยะลาตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแต่เวลามีประชุมเจ้าหน้าที่อพม.ในเขต จว.ผมก็เข้าประชุมกับเขาและได้ไปสำรวจการเป็นอยู่ของชาวบ้านส่วนที่ผมรับผิดชอบแต่กระนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร....เหตุและผลที่ผมอยากทำตรงนี้คือผมอยากพัฒนาศักยภาพตนเองว่าผมมีสิทธที่จะยื่นมือเป็นหูเป็นตาช่วยรัฐบาลและเป็นฐานที่จะสุ่มหาข้อมูลเพราะว่าตอนนี้รัฐบาลเข้าไม่ถึงระบบรากหญ้ารวมถึงคนชราและเด็กด้อยโอกาศที่ขาดแคลนในทุนทรัพย์เช่นยารักษาโรค ฯลฯขอถวายแด่พระองค์ท่านมีความสุขบนสวรรค์กับพระราชชนนี และจะสารต่อคับ.  ขอให้ส่งเอกสารสมัครมาที่ไปรษณีย์ซอย29  รามคำแหง ท่าเรือสุดซอย ชื่อ ทินารมภ์  แกล้วกล้าวิชิต แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ  กรุงเทพฯ  10240-ขอบคุณคับ084-4562030-087-3484169 

    เข้าดูเว็บไซต์ของอาจารย์ไม่คิดว่าจะพบจดหมายของอาจารย์ที่เขียนสะท้อนความรู้สึกต่างๆในฐานะที่มาบริหารกระทรวงฯ ซึ่งเดิมผมคิดว่าอาจารย์คงนำความรู้และประสบการณ์มาใช้บริหารและถ่ายทอดสู่คนปฏิบัติได้เป็นอย่างดี  แต่แล้วผมก็รู้สึกว่าอาจารย์คงประสบพบกับปัญหาของคนในองค์กรมากกว่าแล้ว  ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดกระทู้ลักษณะนี้ขึ้นในเว็บไซต์อาจารย์    งงครับ...ไม่คิดว่าจะมีการกระทำที่บ้าบอเหมือนคนหลงยุคหลงสมัยเกิดขึ้น  เกิดการกระทำหรือเหตุการณ์อย่างนี้ได้อย่างไร    ระบบเชิงจริยธรรมหายไปไหน  จิตสำนึกของข้าราชการไม่สามารถแยกแยะได้  ระบบสร้างความก้าวหน้าเหมือนการค้ามนุษย์  ไม่ได้จากความสามารถและคุณธรรม   จึงทำให้มีการส่งมนุษย์ในคราบข้าราชการที่ไร้ระเบียบวินัยบำบัดกิเลศอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการเหมือนการค้ามนุษย์  เมื่อมีการล้างระบบเลวๆก็ต่อต้านเป็นกระบวนการ   อาจารย์ครับผมว่าอาจารย์ไม่ต้องไปแก้ปัญหาสังคมที่ไหนแล้วละครับ  ขอให้ท่านแก้ใครจุดใกล้ตัวที่สุดดีกว่า   งง อย่าท้อนะครับ

  

คิดว่าเคารพความคิดของกระทู้ที่ 36 และ 37 เรื่องก็น่าจะจบ ไม่น่าจะต้องมาโพส์ตอะไรแล้ว ให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปของมันเอง แม้แต่อาจารย์ไพบูลย์ท่านก็หยุดพูดเรื่องนี้แล้ว แต่กลับต้องมาสังเวชใจกับแนวคิดกระทู้ 40  คำก็ระบบเชิงจริยธรรม คำก็ระบบสร้างความก้าวหน้า หรือระบบเลวๆ ใช้มากเกินไปหรือเปล่ากับคำว่า "ระบบ" เนี่ย ขยันสร้างคำง่ายๆ ให้เข้าใจยากกันจริงๆ หากจะอวดอ้างความเป็นนักวิชาการ ขอจงอธิบายด้วยเหตุและผล กรุณาอย่าใช้คำที่สร้างขึ้นแล้วคิดว่าสละสลวยมาอธิบายให้กับชาวบ้านฟัง มันไม่ได้ทำให้คุณดูดีเลย ยิ่งสิ่งที่อ้างมาเปรียบเทียบกันแล้วส่อให้เห็นว่า ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องที่พูดมาจริง

แล้วขอความกรุณาข้าราชการก็เหมือนกับคนในสังคมทุกที มีชั่วดีปะปนกันไป กรุณาอย่าเหมารวมแล้วด่ากราด คนดีๆ เขาจะถอดใจ

นึกอยู่แล้วเชียวว่า ทำไมอาจารย์จึงค่อนข้างมีอคติกับข้าราชการ ก็เพราะมีอย่างพวกคุณมาค่อยเป่าหูให้อยู่นี่เอง ขอเถอะ ดีอย่าใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น หากจะเปิดเว็บบล็อก ก็ต้องทำใจล่วงหน้าว่าคนในสังคมไม่จำเป็นจะต้องเห็นด้วยกับคุณเสมอไป เว็บบล็อกไม่ได้มีเพื่อให้มาอวยกัน ไม่อย่างนั้น ก็กรุณาติดคำเตือนไว้ก่อนว่า กรุณาเขียนชมได้อย่างเดียว

 

บุญเผื่อน ชาวหญ้าปล้อง

กระทรวงฯนี้เขาแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ใช่หรือ   หากเขาสมัครใจรักชอบกันก็อย่าไปนินทาเลย เห็นผู้บริหารระดับสูงไม่มีหัวใจหรือ  เขาคงมีเรื่องเคลียดๆมากมาย  เป็นเรื่องที่ลูกน้องที่ดีต้องทำเพื่อให้เจ้านายหายเคลียดอย่างมีเทคนิคก็เท่านั้นเอง

อยากสร้างภาพให้มากนักนะ  ทำอะไรอยู่ก็รู้แก่ใจดี    ดีแต่พูดเอาดีเข้าตัว   ระวังกรรมตามสนอง  อดทุเรศไม่ได้   

 กลับบ้านไปได้แล้ว 

ทินารมภ์ แกล้วกล้าวิชิต

. ทินารมภ์ แกล้วกล้าวิชิต

เมื่อ จันทร์ที่21 เมษายน 2551

เรียนท่านรัฐมนตรีพม.สนง.เขตกรุงเทพครับ

กระผมนายทินารมภ์ แกล้วกล้าวิชิต อายุ31 ปีชาวไทยด้วยกันผมเป็นคนใต้เกิดจังหวัดพัทลุง ได้มาทำงานที่กรุงเทพมหานครระยะหนึ่งแล้วผมอยากจะร่วมงานและปฏิบัติงานกับพม. ซึ่งหลายปีผ่านไปผมเคยได้สมัครเป็นเจ้าหน้าที่ อพม.ในเขต9 ของจังหวัดยะลาตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแต่เวลามีประชุมเจ้าหน้าที่อพม.ในเขต จว.ผมก็เข้าประชุมกับเขาและได้ไปสำรวจการเป็นอยู่ของชาวบ้านส่วนที่ผมรับผิดชอบแต่กระนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร....เหตุและผลที่ผมอยากทำตรงนี้คือผมอยากพัฒนาศักยภาพตนเองว่าผมมีสิทธที่จะยื่นมือเป็นหูเป็นตาช่วยรัฐบาลและเป็นฐานที่จะสุ่มหาข้อมูลเพราะว่าตอนนี้รัฐบาลเข้าไม่ถึงระบบรากหญ้ารวมถึงคนชราและเด็กด้อยโอกาศที่ขาดแคลนในทุนทรัพย์เช่นยารักษาโรค ฯลฯขอถวายแด่พระองค์ท่านมีความสุขบนสวรรค์กับพระราชชนนี และจะสารต่อคับ. ขอให้ส่งเอกสารสมัครมาที่ไปรษณีย์ซอยศรีบำเพ็ญ ชื่อ ทินารมภ์ แกล้วกล้าวิชิต 203/1 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 ขอบคุณคับ084-4562030-02-3504051

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท