ERP


สรุปบทที่ 1
กระบวนการทางธุรกิจเป็นการรวบรวมความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจ โดยมีหน้าที่ทางธุรกิจเป็นตัวดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ภายในบริษัทแต่ละบริษัทจะประกอบด้วยฝ่ายการทำงานต่างๆ ประกอบด้วย
1.     ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย: จะดำเนินการทางกระบวนการที่เกี่ยวกับการตลาด, ใบสั่งซื้อสินค้า, การบริการลูกค้า, การประเมินทิศทางทางการตลาด, การโฆษณาสินค้า
2.     ฝ่ายการผลิตและจัดการวัตถุดิบ: ฝ่ายนี้จะรวมไปถึงการสั่งซื้อวัตถุดิบ, การแปรสภาพวัตถุดิบให้กลายเป็นสินค้า, การขนส่งสินค้า, ตารางการผลิต, การจัดซ่อมแซมเครื่องจักร
3.     ฝ่ายบัญชีและการเงิน: เป็นการจัดการทางด้านบัญชีการเงิน, การควบคุมและกำหนดราคาสินค้า, จัดทำงบประมาณและจัดการทางด้านกระแสการเงิน
4.     ฝ่ายบุคคล: จัดหาและจัดจ้างบุคลากรและแรงงานที่เหมาะสม รวมไปถึงการฝึกฝนอบรมฝีมือบุคลากร, การกำหนดอัตราค่าจ้าง และผลกำไร
ถึงแม้ว่าแต่ละฝ่ายจะมีหน้าที่ในการดำเนินการที่แตกต่างกัน ถ้าหากแยกกันดำเนินการแต่เฉพาะในส่วนหน้าที่ของแต่ละฝ่ายแล้ว เมื่อถึงเวลาที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการข้อมูลหรือต้องการความร่วมมือของอีกฝ่ายแล้ว จะทำได้ยากเนื่องจากจะเกิดปัญหาทางด้านความล่าช้าของข้อมูลที่จะจัดส่งไปให้ ทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทโดยรวมเกิดความล่าช้าและถ้าเกิดปัญหาที่ต้องการแก้ไข จะไม่สามารถแก้ไขได้ทันตามความต้องการ และส่งผลกระทบโดยรวมต่อบริษัท ดังนั้นปัญหาในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างแต่ละฝ่ายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแต่ละฝ่ายถึงจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันแต่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันคือ แปรสภาพจากวัตถุดิบให้กลายมาเป็นสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ในการที่จะจัดการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละฝ่ายจะต้องทำงานร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันอยู่เสมอ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินกิจการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที ทันต่อความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและตลาดการค้าได้
สรุปบทที่ 2
ต่อเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฝ่าย จึงได้มีการคิดค้นโปรแกรม ERP ขึ้น ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถและประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูลและการจัดการในหน้าที่ของแต่ละฝ่ายการทำงานไว้ได้ แต่ไม่จำเป็นว่าทุกบริษัทจะต้องใช้โปรแกรม ERP ในการจัดการภายในเสมอไป เนื่องจากราคาของตัวโปรแกรมมีราคาที่สูงและเมื่อติดตั้งแล้วก็ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการใช้โปรแกรมจึงต้องมีการจัดอบรมซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นเดียวกัน โปรแกรม ERP จึงไม่เหมาะสมที่จะใช้ในบริษัทที่มีข้อมูลหรือหน้าที่ในการดำเนินการไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนักสามารถใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่จัดการเองได้ โดยตัวโปรแกรม ERP นี้มีหลายหน้าที่ให้เลือกใช้เพื่อการจัดการข้อมูลภายในบริษัทได้อย่างถูกต้องและตรงต่อความต้องการ ซึ่งแต่ละบริษัทก้อมีจุดประสงค์ในการดำเนินการทางธุรกิจที่แตกต่างกัน การจัดการข้อมูลภายในบริษัทได้อย่างถูกต้องและมีความรวดเร็วนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีของบริษัทในสายตาของลูกค้า ซึ่งบริษัทสามารถจัดการข้อมูลได้ตรงต่อความต้องการเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีความถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพทันต่อความต้องการ, เป็นการประหยัดเวลา, ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการดำเนินการทางธุรกิจและ ลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ซึ่งโปรแกรม ERP นี้สามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้อยู่เสมอเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการในด้านการประกอบธุรกิจได้ตลอดเวลา
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 15793เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2006 16:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 18:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท