สรุปบทที่ 1
เมื่อบริษัทมีขบวนการทางธุรกิจทางการค้าขาย
จะมีปัจจัยพื้นฐานทางการค้า คือ
ฝ่ายการตลาดและการขาย,
ฝ่ายผลิตภัณฑ์และการจัดการทรัพยากร,
ฝ่ายการบัญชีและการเงิน , ฝ่ายบุคคล
รูปแบบของปัจจัยต่างๆดังนี้
-
ฝ่ายการตลาดและการขาย ทำหน้าที่
กำหนดราคาสินค้า, การโฆษณาสินค้า, การวางแผนการตลาด,
ดูแลลูกค้า
-ฝ่ายผลิตภัณฑ์และการจัดทรัพยากร
ทำหน้าที่ การจัดซื้อ , การรับวัตถุดิบเข้าโรงงาน , การจัดส่ง ,
กำหนดตารางการผลิตของโรงงาน และวางแผนการซ่อมบำรุง
-ฝ่ายการบัญชีและการเงิน ทำหน้าที่
การทำบัญชี , ควบคุมค่าใช้จ่าย , การวางแผนและงบประมาณ ,
จัดการการหมุนเวียนเงิน
-ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ทำหน้าที่ จัดหาบุคคล
และว่าจ้างงาน , ฝึกฝนงาน , ค่าจ้าง , และสวัสดิการ
สรุปบทที่
2
ปัจจัยต่างๆที่นำไปสู่การพัฒนา
ERPคือ
- ความเร็วและกำลังของคอมพิวเตอร์ ,
ลดขนาดของฮาร์ดแวร์ ทำให้ราคาและขนาดลดลง
- สถาปัตยกรรมระหว่างเครื่องผู้ใช้บริการ ไปยังผู้ให้บริการ
ภายใต้เงื่อนไขของโครงสร้าง
แนวความคิดที่จะมีผู้ใช้บริการหลากหลายสามารถแบ่งบันข้อมูลด้วยกันได้
-ประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นของซอร์ฟแวร์จะทำให้การรวมกันสะดวกขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่าง 2 พื้นที่ เช่น
การจัดการ ,การเงิน ,และการวางแผนการจัดการทรัพยากรมนุษย์
-การเพิ่มขึ้นของขนาดธุรกิจ
ความยุ่งยากซับซ้อนและการแข่งขันที่ต้องการบริหารธุรกิจ
เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นและการแข่งขันของระบบ
การแข่งขันผลิตภัณฑ์ SAP
AG มาตราฐานของโปรแกรม ERP
ท่เรียกว่า R/3
โปรแกรมนี้ได้ทำการรวมธุรกิจทั้งหมดโดยการรวมข้อมูลหลัก ,ข้อมูลสามารถแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลาและทันสมัย
การซื้อโปรแกรม ERP จะมีราคาแพง เวลาที่ต้องการจะดำเนินการ
และต้องการที่จะให้ลูกจ้างมีความสนใจที่จะเข้ารับการฝึกอบรมแต่มีค่าจ้างเพียงพอ
สำหรับบางบริษัทจะมีการใช้ ROI
ซึ่งอาจจะไม่ทันทีทันใด หรือคาดคะเนได้
ในอนาคตผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ERP จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าการปรับปรุงแผรการและการทำการตัดสินใจและการเชื่อมโยงขั้นตอนผ่านทางอินเตอร์เน็ต