การเข้าไปทำการประมงในประเทศพม่า(ใหม่)
โครงการทำสัมปทานการทำประมงในประเทศพม่า
ผลจากการประชุมระหว่างกรมประมงไทยและกรมประมงพม่า ระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2547 ณ กรุงย่างกุ้ง พม่าได้แจ้งให้ทราบถึงการให้สิทธิการประมงแก่ประเทศไทย โดยจะดำเนินการผ่านผู้ประกอบการที่ผ่านพม่าคัดเลือกและผ่านมติของคณะรัฐมนตรี เงื่อนไขการทำประมงดังกล่าวสามารถสรุปได้ดังนี้
จำนวนเรือประมงไทยที่ได้รับสัมปทาน
เรือประมงอวนลาก จำนวน 450
ลำ
เรือประมงอวนล้อม จำนวน 50
ลำ
รวมทั้งสิ้น จำนวน
500 ลำ
อัตราค่าสัมปทาน
(ต่อเดือน)
ต่ำกว่า 80 ตก.
8,000 us. / 80 - 90 ตก. 8,500 us. / 91 - 100 ตก. 9,000 us. /
101 - 110 ตก. 9,500 us. / 111 - 120
ตก. 10,000 us. / 121 - 150 ตก. 11,000 us. / มากกว่า 150
ตก. 12,000
us.
หมายเหตุ ตก. = ตันกรอส
, us. = เหรียญดอลลาร์สหรัฐ
พื้นที่ทำการประมง
เรือประมงไทยที่เข้าร่วมโครงการ ต้องทำการประมงภายนอกทะเลอาณาเขต และในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศพม่า ตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตตามแผนที่ที่แนบ
ค่าประกันความเสียหาย
1.
บริษัทที่ได้สัมปทานจะเป็นผู้วางเงินค่าประกันความเสียหายจำนวนเงิน
100,000 เหรียญสหรัฐไว้ที่กรมประมงประเทศพม่า
(บัญชีหมายเลข 93916
ธนาคารการค้าต่างประเทศพม่า ก่อนเข้าทำการประมง)
2. ค่าประกันดังกล่าว
จะใช้เป็นค่าต่อใบอนุญาตทำการประมง และค่าปรับในกรณีทำผิด เป็นต้น
บริษัทผู้รับสัมปทานต้องวางเงินประกันเพิ่มเติมให้เต็มจำนวนโดยทันทีหลังจากมีการใช้จ่ายเงินประกันความเสียหายดังกล่าว
3. เงินประกันความเสียหายสามารถถอนคืนได้
ถ้าไม่ใช่กรณีเป็นการจ่ายค่าเสียหาย เมื่อสิ้นสุดโครงการ
จุดตรวจสอบ เกาะสอง (Kawthaung)
ระยะเวลาการให้สัมปทาน 5 ปี โดยในปีแรกพิจารณาให้เป็นระยะทดลองดำเนินการ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับเรือประมงต่างชาติ
ใบอนุญาตทำการประมงสำหรับเรือประมงต่างชาติทุกฉบับ
อยู่ภายใต้ข้อบังคับของข้อกำหนดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1. (1.1)
ห้ามเรือประมงต่างชาติจะเข้าไปในเขตน่านน้ำของประเทศพม่า
เพื่อประสงค์ทำการประมงไม่ได้ ยกเว้นได้รับอนุญาตจาก
-
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานทำการประมงสำหรับเรือประมงต่างชาติ
หรือ
- กฎหมายอื่นใดของสหภาพพม่า
(1.2)
ในน่านน้ำการประมงของสหภาพพม่า
ห้ามกระทำการดังนี้
(ก) ทำการประมงหรือเตรียมทำการประมง
(ข) ขนขึ้น นำขึ้นท่า
ถ่ายเรือหรือทำการขนส่งปลา ผลผลิตสัตว์น้ำ เสบียง และคนหรือลูกเรือใด
ๆ
(ค) ทำการวิจัยหรือสำรวจด้านวิชาการและเศรษฐกิจการทำประมง
ยกเว้นได้รับการอนุญาตให้กระทำได้จาก
-
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานทำการประมงสำหรับเรือประมงต่างชาติ
หรือ
- กฎหมายอื่นใดของสหภาพพม่า
2.
ผู้ประกอบการ ไต้ก๋ง
และลูกเรือของเรือประมงต่างชาติจะต้องยึดถือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานทำการประมงสำหรับเรือประมงต่างชาติ
หรือกฎหมายอื่นใดของสหภาพพม่า
3.
ผู้ประกอบการจะปฏิบัติและคงไว้ซึ่งข้อผูกมัดหรือเงินประกันความเสียหาย
หรือรูปแบบการประกันอื่นใดตามที่อธิบดีกรมประมงกำหนด
4.
เรือประมงต่างชาติลำใดจะเข้าทำการประมงในเขตน่านน้ำประเทศพม่าได้
ต่อเมื่อ
4.1 เรือประมงได้รับใบอนุญาต
ทำการประมงตามข้อกำหนดเงื่อนไขการทำการประมงต่างชาติ
4.2
เรือประมงได้แสดงหลักฐานการจ่ายเงินในการขอใบอนุญาต
โดยติดแสดงหลักฐานนั้นอย่างเด่นชัดไว้ในห้องถือท้ายเรือของเรือเจ้าของใบอนุญาตนั้น
4.3
เรือประมงต้องขึ้นทะเบียนกับกรมประมงพม่าตามกำหนดเวลา
5.
เรือประมงต้องติดตั้งและรักษาเครื่องมือติดต่อสื่อสาร
การเดินเรือ หลักฐาน และสัญญาณให้พร้อมใช้งานเสมอ
6.
เรื่อประมงต่างชาติใด
ๆ หลังเข้าไปในเขตน่านน้ำประเทศพม่า
จะต้องนำเรือตรงเข้าท่าเรือหรือสถานที่เพื่อทำการตรวจในขั้นต้น
7.
(ก)
เรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตทุกลำ
ในขณะที่อยู่ในเขตน่านน้ำทำการประมงของประเทศพม่า
ต้องเขียนเลขที่ได้รับอนุญาต
เป็นเลขอารบิคสีขาวบนพื้นสีเขียวไว้ที่สองข้างของตัวเรือในลักษณะและขนาดที่มองเห็นชัดเจนจากทางอากาศและทางทะเล
(ข)
โดยไม่มีกรณียกเว้น
-
ในกรณีเรือประมงมีขนาดความยาวทั้งหมดเกิน 20 เมตร ต้องเขียนขนาดอักษรต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า
1 เมตร และ
- ในกรณีเรือประมงมีขนาดความยาวทั้งหมดไม่เกิน
20 เมตร
ต้องเขียนขนาดอักษรและมีความสูงไม่น้อยกว่า 50
เซนติเมตร
8.
เรือประมงต่างชาติได้รับสิทธิผ่านน่านน้ำประมงพม่าโดยสุจริตหรือไม่ได้รับอนุญาตทำการประมงในขณะนั้นและในพื้นที่นั้น
ต้องเก็บเครื่องมือทำการประมงไว้ใต้ดาดฟ้าเรือ
หรือเคลื่อนย้ายเครื่องมือประมงจากบริเวณเรือที่โดยปกติใช้ทำการประมง
หรือให้อยู่ในบริเวณที่ไม่พร้อมทำการประมง
9.
ไต้ก๋งเรือหรือผู้แทนที่ได้รับอนุญาตต้องแจ้งอธิบดีกรมประมงถึงกำหนดวันและเวลาโดยประมาณก่อนการนำเรือประมงเข้าเขตน่านน้ำพม่าภายในไม่น้อยกว่า
48 ชั่วโมง พร้อมทั้งรายละเอียดต่อไปนี้
9.1
รายละเอียดเรือประมง
9.2
เส้นทางเดินเรือและท่าเรือที่จะเดินทางไป
10.ใบอนุญาตทำการประมงที่ออกให้แก่เรือประมงใดเรือประมงหนึ่ง
จะมีผลบังคับใช้เฉพาะเรือประมงลำนั้น
โดยไม่สามารถใช้กับเรือประมงลำอื่นใด
11.
การทำประมงภายใต้ใบอนุญาต
จะมีการกำหนดชนิดปลา ปริมาณปลา วิธีทำประมง เครื่องมือทำประมง
พื้นที่ทำการประมงและระยะเวลาทำการประมง
ตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
12. การขนถ่ายปลา ขนส่งหรือแปรรูปปลา
จะกระทำได้ต่อเมื่อมีใบอนุญาตให้ทำได้เฉพาะสำหรับปลาบางชนิด
ในปริมาณที่จำกัดจากเรือที่ระบุไว้ในใบอนุญาตเท่านั้น
13.
ไต้ก๋งเรือประมงต่างชาติที่ได้รับใบอนุญาต
ต้องกระทำ ดังนี้
13.1 ต้องดำเนินการนำเรือไปยังที่หรือท่าเรือเพื่อทำการตรวจในทันที่
เมื่ออธิบดีกรมประมงหรือผู้ตรวจสอบต้องการ
13.2
ต้องอนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์
ขึ้นไปบนเรือเพื่อทำวิจัยเมื่ออธิบดีกรมประมงต้องการ
13.3
ให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและเพียงพอ
แก่ผู้ตรวจหรือผู้สังเกตการณ์ในการปฏิบัติงานบนเรือ
14.
ห้ามทำการประมง รบกวน
จับสัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนม หอยมุก
ล็อบสเตอร์ที่มีไข่เต่าทะเลและไข่เต่าทะเล ในเขตน่านน้ำพม่า
15.
ในกรณีที่สัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนม หอยมุก
ล็อบสเตอร์ที่มีไข่
เต่าทะเลและไข่เต่าทะเลถูกจับหรือนำมาโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ระหว่างทำการประมง
สัตว์เหล่านั้นหากยังมีชีวิตอยู่จะต้องปล่อยในทันที
16.
ห้ามใช้สารพิษ ระเบิด
สารที่ทำให้มึน สารเคมี หรือเครื่องกระแสไฟฟ้าในการทำประมง
17.
ห้ามกระทำการใดกับชาวประมงท้องถิ่นอันเป็นสาเหตให้สูญเสียหรือทำลายเรือประมง
เครื่องมือประมง และผลจับสัตว์น้ำของชาวประมงท้องถิ่น
18.ผู้รับสัมปทานหรือไต้ก๋งเรือประมงต่างชาติจะต้องจ่ายค่าชดเชยอย่างเป็นธรรมให้แก่ชาวประมงท้องถิ่น
ในกรณีที่ตนทำให้เกิดความสูญเสียหรือเกิดความเสียหายแก่เรือประมง
เครื่องมือประมงหรือปลาที่จับได้ของชาวประมงท้องถิ่น
19.
ห้ามทิ้งหรือปล่อยสิ่งมีชีวิต
สิ่งของหรือวัตถุ อุปกรณ์หรือเครื่องมือทำการประมง
อันอาจเป็นเหตุให้เกิดภัยอันตรายแก่ปลา สัตว์ทะเลและสิ่งแวดล้อมในทะเล
จากเรือต่างชาติลงไปในน้ำ20. ไต้ก๋งเรือทุกลำในเขตน่านน้ำพม่า
ต้องแน่ใจว่ารักษาระยะให้เรืออยู่ห่างจากเครื่องมือทำการประมงของเรือลำอื่น
ไม่น้อยกว่า 0.5 ไมล์ทะเล ตลอดเวลา
21.
ไต้ก๋งของเรือจะต้องเก็บรักษาบันทึกรายงานในรูปแบบที่อธิบดีกรมประมงต้องการ
22.ไต้ก๋งเรือต้องส่งผ่านบันทึกรายงานหรือแบบฟอร์มตามที่ต้องการไปยังอธิบดีกรมประมงตลอดระยะเวลาที่ได้รับใบอนุญาต
ในช่วงใดก็ได้ตามคำร้องขอของอธิบดีกรมประมงหรือผู้ตรวจสอบ
23.เรือประมงต่างชาติที่ได้รับใบอนุญาตจะต้องชักธงของประเทศตนและธงชาติสหภาพพม่าตลอดเวลาในขณะอยู่ในเขตทำการประมงของพม่า
24.
ห้ามเรือประมงที่มีใบอนุญาต
ใช้เครื่องมือประมง ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อติดตั้งที่เรือ
ยกเว้นเครื่องมือที่ติดตั้งอย่างถาวรและเป็นเครื่องหมายให้เห็นเด่นชัดสำหรับเลขที่ใบอนุญาตของเรือนั้น
25.
บุคคลที่เป็นไต้ก๋งและลูกเรือทุกคน
จะต้องระมัดระวังด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ตรวจสอบหรือผู้สังเกตการณ์ทุกคนไว้ก่อน
26.
ก่อนออกจากเขตน่านน้ำทำการประมงพม่า
เรือประมงต่างชาติต้องผ่านการตรวจสอบครั้งสุดท้ายที่ท่าเรือหรือสถานที่ที่กำหนด
27.
ภายหลังการตรวจสอบครั้งสุดท้าย
เรือต้องออกจากเขตน่านน้ำทำการประมงพม่าโดยตรง
และไม่ทำการประมงหรืออยู่ในสภาพที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงก่อนออกจากน่านน้ำ
28.
เงินค่าประกันความเสียหายหรือความปลอดภัยที่ผู้ประกอบการได้วางไว้
จะนำมาใช้จ่ายเป็นค่าปรับหรือค่าชดเชยใด ๆ
ซึ่งเป็นผลเกิดจากการกระทำของเรือต่างชาติได้
29.
ผู้ประกอบการต้องนำเงินประกันความเสียหายมาวางเพิ่มเติมให้ครบเต็มตามจำนวนที่ระบุไว้
ในกรณีที่เงินค่าประกันดังกล่าวถูกใช้จ่ายไป
30.
ห้ามใช้อวนลากปลาและอวนลากกุ้ง
ที่มีขนาดตาอวนก้นถุงเล็กกว่า 2.50 นิ้ว
และห้ามใช้อวนล้อมที่มีขนาดเล็กกว่า 4
นิ้ว
31.ห้ามเรือประมงขนส่งปลาที่ยังมีชีวิตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมประมง
32.
เจ้าของเรือต้องรับผิดชอบรายการต่าง ๆ
ที่ระบุไว้ในใบทะเบียนเรือ
33.
ต้องแจ้งตำแหน่งเรือในแต่ละวันเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังอธิบดีกรมประมง
หรือ สำนักงานที่เกาะสอง หรือสำนักงานใหญ่ที่กรุงย่างกุ้งทุกวัน
รายงานดังกล่าวควรระบุว่าเรือกำลังเดินทางไปยังพื้นที่ทำการประมง
อยู่ในพื้นที่ทำการประมง
หรือกำลังเดินทางออกจากพื้นที่ทำการประมงไปยังจุดตรวจที่เกาะสอง
34.
ระยะเวลาทำการประมงใน 1 รอบ ที่ทำการตรวจก่อนเข้า (check
in) และตรวจก่อนออก (check out)
ไม่ควรเกิน 1 เดือน (30 วัน) ในเขตน่านน้ำประมงพม่า
35.
จากจุดตรวจที่เกาะสอง
สามารถเดินเรือผ่านไปยังแนวอาณาเขตได้โดยผ่านจุดตรวจที่อยู่ทางเหนือตรงไปเกาะ
5เกาะและเกาะ Cock
burn
36. เรือประมงทุกลำต้องติดตั้งระบบสัญญาณ
VHF ช่อง 6