กว่าจะเป็นปฏิวัติ (เขียว)[๑]
ปฏิวัติเขียว :
GREEN REVOLUTION หมายถึง การเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรกรรมจากแบบดั้งเดิมมาสู่การเกษตรแผนใหม่ ที่ให้ผลผลิตสูง โดยใช้พันธุกรรมที่ผสมขึ้นมาใหม่ ใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เครื่องจักรกลทางการเกษตร ระบบชลประทานแผนใหม่ และความรู้ด้านการจัดการฟาร์ม การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีการเกษตรเกิดขึ้นในประเทศอุตสาหกรรมก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษซึ่งเป็นประเทศแรกที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมให้เกิดขึ้น โดยประมาณ พ.ศ. ๒๓๔๓ เจ้าของที่ดินที่มีฐานะร่ำรวยได้เริ่มหาวิธีการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรของตน โดย ชาร์ล ไวส์เคาท์ ทาวน์แซนด์ ได้คิดค้นวิธีเพิ่มผลผลิตในที่ดินเท่าเดิมให้มากขึ้นโดยปลูกพืชหลายชนิด เช่น ข้าวบาร์เลย์ ถั่ว ข้าวสาลี และหัวผักกาด หมุนเวียนสลับกันไป ทำให้มีการใช้ที่ดินอย่างเต็มที่ ภายหลังจากนั้นเกิดนักคิดหลายท่านได้คิดค้นเครื่องจักรกลในการทำฟาร์ม รวมทั้งเขียนตำราว่าด้วยวิธีการทำการเกษตรให้มีผลกำไรมากขึ้น ระบบเกษตรแบบใหม่ที่ใช้ทุนและการจัดการฟาร์มที่มีแรงกระตุ้นจากความต้องการผลกำไรได้เข้ามาแทนที่การเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมในประเทศอังกฤษอย่างรวดเร็ว การปฏิวัติเกษตรกรรมได้แผ่ขยายสู่ประเทศต่างๆ ใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเยอรมนี โดยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร การจัดการฟาร์มที่เป็นระบบ และการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น เยอรมนีนั้นถือว่าเป็นประเทศแรกๆที่มีการนำปุ๋ยเคมีเข้ามาใช้ในการเกษตร เช่น ระหว่างปี ๒๔๓๘-๒๔๕๕ มีการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนเพิ่มขึ้น ๓ เท่า ปุ๋ยฟอสฟอรัส เพิ่มขึ้น ๒.๕ เท่า และปุ๋ยโปตัสเซียมเพิ่มขึ้น ๘ เท่ารวมถึงมีการนำเอาพันธุ์พืชใหม่ๆ จากดินแดนอาณานิคมมาทดลองปลูกทั้งในยุโรปเอง และการนำเอาพืชจากดินแดนอาณานิคมหนึ่งไปยังอีกอาณานิคมหนึ่งซึ่งมีเงื่อนไขการผลิตที่ดีกว่า เช่น มีแรงงานราคาถูกมากกว่า ใกล้กับตลาดหรือสะดวกต่อการขนส่งเพื่อป้อนอุตสาหกรรมของตนได้มากกว่า
สำหรับสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุที่เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ และเป็นแหล่งรองรับการหลั่งไหลเข้ามาแสวงโชคของชาวยุโรป ทำให้การเกษตรในสหรัฐขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว โดยในระยะแรกนั้นการเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตรเกิดขึ้นจากการขยายพื้นที่การเกษตร และนำเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาใช้ ควบคู่กับการนำทาสผิวดำจากแอฟริกามาใช้ในกิจกรรมที่ต้องใช้แรงงาน เช่น การทำไร่ฝ้าย ปฏิวัติเขียวในอเมริกาเกิดขึ้นภายหลังการจัดตั้งสถาบันสอนวิชาการและสถานีทดลองการเกษตรที่เรียกว่า Land Grant เมื่อปี ๒๔๐๕ โดยภายหลังการจัดตั้งสถาบันดังกล่าว ผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลกในปี ๒๔๙๓
ก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่สอง เทคโนโลยีการเกษตรแบบตะวันตกได้ถูกเผยแพร่มายังประเทศโลกที่สาม หรือกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา แต่ก็ยังไม่กว้างขวางมากนัก เช่นในกรณีประเทศไทย ได้มีการนำเอาเครื่องจักรที่ใช้ในการไถนาเข้ามาใช้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะสู้การใช้แรงงานคนไม่ได้ การปฏิวัติเขียวของประเทศโลกที่สาม เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทิ้งระยะกว่าหนึ่งศตวรรษหลังจากที่มีการนำเครื่องจักรไถนาเครื่องแรกเข้ามาใช้ในประเทศไทยด้วยความช่วยเหลือทางวิชาการของมูลนิธิ ร็อกกี้เฟลเลอร์ ในเม็กซิโก ด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าวสาลีที่ให้ผลผลิตสูงและต้านทานโรคราสนิม (rust) ได้ผลอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถผลิตข้าวสาลีได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการในประเทศอันถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิวัติเขียว ด้วยความสำเร็จของร็อกกี้เฟลเลอร์ในเม็กซิโกและปัจจัยอื่นๆ ประกอบกันทำให้สหรัฐหันความสนใจไปยังกลุ่มประเทศโลกที่สาม จึงก่อเกิดโครงการใหญ่ๆ ขึ้นในหลายพื้นที่ ในส่วนของภูมิภาคเอเชียเกิดการริเริ่มเพื่อจัดตั้งสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ หรือ “อีรี่” ขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ โดยได้รับเงินบริจาคก้อนใหญ่จากมูลนิธิฟอร์ด (Ford Foundation) และร็อกกี้เฟลเลอร์ รวมถึงได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆหลายแห่งด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมเคมีเกษตร ปุ๋ย บรรษัทค้าน้ำมัน ในส่วนของประเทศไทย กระบวนการเปลี่ยนแปลงการเกษตรไปสู่แนวทางการปฏิวัติเขียวนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ก่อนตั้งสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติในประเทศฟิลิปปินส์แล้ว โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ภายใต้ความช่วยเหลือของสหรัฐ ด้วยการส่งนักวิทยาศาสตร์ด้านการเกษตร ๒ คน เพื่อเข้ามาช่วยเหลือทางวิชาการ คือ นักพันธุศาสตร์ เพื่อมาช่วยเหลือในโครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าว และนักปฐพีวิทยาเข้ามาแนะนำเกี่ยวกับการสำรวจและปรับปรุงบำรุงดินในประเทศไทย โดยเริ่มโครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวในประเทศไทย ด้วยการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เกษตร และนักศึกษาเกษตร ในเนื้อหาพื้นฐานเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์พืช ธรรมชาติของดินโดยเฉพาะดินในเขตร้อน และความสำคัญของปุ๋ยเคมี หลังจากนั้นมีการเก็บตัวอย่างพันธุ์ข้าวใน ๓๕ อำเภอ จากพื้นที่ทำนา ๙๗๘ แห่ง เพื่อทำการศึกษาและทดลองปลูก การรับเทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์จากตะวันตกได้ดำเนินไปพร้อมๆกับการปรับปรุงหน่วยงานราชการของกระทรวงเกษตรเพื่อรองรับแนวคิดใหม่ของการพัฒนาการเกษตรไปพร้อมๆกันด้วย ความช่วยเหลือทางวิชาการของสหรัฐอเมริกาจึงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเริ่มต้นการปฏิวัติเขียวในประเทศไทย และเป็นการเชื่อมโยงและผนวกการวิจัยการเกษตรในระดับประเทศเข้ากับสถาบันวิจัยการเกษตรระหว่างประเทศที่ประเทศฟิลิปปินส์
นับแต่การก่อตั้งศูนย์วิจัยข้าวนานาชาติ ที่ฟิลิปินส์ ในราวปี ๒๔๘๖ จวบจนถึง ปี ๒๕๐๖ ซึ่งเป็นปีแรกของการเริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ตลอดระยะเวลา ๒๐ ปี ที่นักวิชาการจากต่างประเทศเข้ามีส่วนในการชี้นำระบบการผลิต และการเกษตรในประเทศ ตั้งแต่ช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับแรกที่ว่าด้วยการพัฒนาระบบการผลิต ทั้งด้านการเพิ่มปริมาณเพื่อการส่งออก และการปรบปรุงวิธีการผลิตแผนใหม่ เพื่อการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ด้วยแนวทางของระบบชลประทาน การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำและเขื่อนขนาดใหญ่ รวมถึงการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ทั้งด้านพันธุกรรม ด้านเทคโนโลยีการผลิต เทคโนโลยีการบริหารจัดการ รวมถึงการก่อตั้งสถาบันวิจัยด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง และการผลิตบุคลากรที่ทีความชำนาญเฉพาะทาง
จวบถึงปัจจุบัน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๐ ปี ๒๕๕๐ ตลอดระยะเวลา ๔๔ ปีของการพัฒนาประเทศ ด้วยการเดินทางของปฏิวัติเขียวที่ยาวนานมาก และระหว่างทางได้เกิดการทำลายทรัพยากรท้องถิ่นไปอย่างไม่สามารถประมาณค่าได้ ทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช และสัตว์ท้องถิ่น ปฏิวัติเขียว ไม่เพียงแค่ เปลี่ยนพันธุ์ เปลี่ยนเทคโนโลยี เปลี่ยนระบบการผลิต แต่นำสู่การเปลี่ยนวิถีชีวิตของเกษตรกรอย่างเลี่ยงไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น ชาวนาใน จ. สุพรรณบุรี จากชาวนาที่เคยมีความสุขกับวิถีกสิกรรม ต้องเปลี่ยนมาเป็นผู้จัดการนาที่ทำนา ๒ ปี ๕ ครั้ง ใช้พันธุ์ข้าวที่ปรับปรุงโดยสถาบันวิจัย เพื่อให้ต้นเตี้ย เพื่อรองรับเทคโนโลยีทางการเกษตร และตอบสนองต่อปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงจนแทบไม่มีกำไร หากไม่ทำ นั่นหมายความว่า จะเป็นหนี้สินที่ไม่สามารถชดใช้ได้ การทำนา จึงเสมือนเป็นการต่ออายุ และผลัดวงจรของหนี้สินไปเรื่อยๆ วงจรดังกล่าว เกิดขึ้นกับชาวนา ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ภาคกลาง
ปฏิวัติเขียว เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นยาวมานกว่าที่เราจะทบทวนถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ด้วยซึมซับถึงการเปลี่ยนแปลงจนเป็นเนื้อเดียวกับวิถีชีวิต เป็นชีวิตที่ทุกข์ระทมของชาวนาชาวไร่ ผู้หลังหยาดเหงื่อแรงงานเพื่อก่อบ้านสร้างเมือง ด้วยหวังว่า เหงื่อทุกหยาดหยดจะถมทับผืนแผ่นดินเกิดให้เจริญงอกงาม หากแต่ ในความเป็นจริงแล้ว หยาดเหงื่อและพลังเหล่านั้น กลับถูกแย่งชิงโดยระบบทุนต่างชาติที่เข้ามารอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ และ เหลือเอาไว้เพียง ความย่อยยับของทรัพยากร สังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น เอาไว้ให้ลูกหลานได้ดูต่างหน้า เพื่อระลึกว่า ประเทศของเรา เคยเป็นผู้มั่งคั่งประเทศหนึ่งในดินแดนอุษาคเนย์
ขอบคุณมากกำลังต้องการข้อมูลการปฏิวัติเขียวพอดีเลย ได้ความรู้ด้วย
ขอบคุณมากค่ะได้ความรุ้เพิ่มเติมเยอะเลย อยากรู้ข้อมูลของIRRIเพิ่มจังมีไหมคะเช่นเป็นมาอย่างไรข้ลที่เป็นประวัติน่ะค่ะ