ผู้เขียนมีโอกาสได้ร่วมงานเลี้ยงขอบคุณ คณะทำงาน มหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 4 ณ ร้านครัวชุมสาย ในมื้อเย็น ของวันที่ 19 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นกันเองประสา ชาว KM ...ผู้เขียนกำลังสนใจ เรื่องการเปลี่ยนแปลง (Change) ตามประสา คนอยากจะเขียน
อาจารย์หมอวิจารณ์ ถามผู้เขียน ถึงการสัมผัสได้ แห่งการเปลี่ยนแปลง ใน สคส. ผู้เขียน จบ Internship Program เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2549 รวมระยะเวลาปีเศษ เป็นผู้มองเปรียบเทียบ ...คนในองค์กร สคส. มีการเปลี่ยนแปลง คล้ายกับถูกเพิ่มในส่วนศิลปะ(Art) เข้าไปถ่วง ส่วนตรรก (Logic) ผู้เขียนตอบอาจารย์หมอฯว่า "สมาชิก สคส. ทุกคนมีการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อน (drive) ให้หมุนทั้งองค์กร เป็นพลวัต (Dynamic) ถ้าเปรียบเปรยกับคน หรือ องค์กร โดยส่วนใหญ่ ที่ผู้เขียนเข้าไปสัมผัส ในระยะเวลาต่างกัน เขาจะคงที่ หรือ เสถียร (Stable)"
ผู้เขียนเดินทางกลับร่วมกับ คุณแอน สคส. และ สมาชิก จาก สกว. 2 ท่าน มีเรื่องให้ผู้เขียนคิดต่อ... โดยโฟกัสไปที่ ผู้นำซึ่งมีบทบาทหลักในองค์กร ที่โต๊ะอาหาร อาจารย์หมอฯบอกว่า "ตอนนี้ต้องพูดเก่งขึ้น เพราะสถานภาพของสถาบันกำลังเปลี่ยนไป" ในการเดินทาง หนึ่งในสมาชิกจาก สกว. บอกว่า "อาจารย์หมอเปลี่ยนแปลงไปมาก สำนวนการเขียนนุ่มนวล และนิยมตรงอาจารย์หมอเป็นผู้ที่มีจุดยืนเป็นของตนเอง" ผู้เขียนสัมผัสได้เช่นกัน และมีความศรัทธา ต่อผู้นำทุกท่าน ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งกลายเป็นเหตุผลสำคัญหนึ่ง ที่ทำให้ผู้เขียนมีแรงบัลดาลใจสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ สคส. ใน ฐานะ ภาคี ตามโจทย์ที่แล้วแต่จะถูกกำหนดให้...
ผู้เขียนมองว่า อาจารย์หมอฯ ตั้งโจทย์เป็น ไม่ใช่แค่ตั้งโจทย์เก่ง สมาชิกทุกคนในทีม จะได้รับความสนใจ จากผู้นำ และได้รับกำลังใจ หรือ คำชมเชย เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่ร่วมกัน เกิดแรงกระตุ้น สมาชิกจะรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญและไม่ถูกลืม จุดเด่นตรงนี้ผู้เขียนพบน้อยมาก ในผู้นำองค์กรทั่วไป
ทีมเวอร์คใน สคส. จึงกลายเป็นจุดแข็ง ที่ยากจะหาที่เปรียบ ผู้เขียนดีใจ ที่มีโอกาสได้สัมผัสองค์กรที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมไทยอย่างแท้จริง และมีการพัฒนาทางด้านทรัพยากรมนุษย์ ก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง