หลังจากการจัดงานสัมมนาเครือข่ายองค์กรการเงินและระบบสวัสดิการชุมชน 5 พื้นที่ เมื่อวันที่ 29-30 ตุลาคม 2550 ซึ่งมีเครือข่ายที่เข้าร่วม ประกอบด้วย เครือข่ายกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์พัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต จังหวัดนครศรีธรรมราช (เครือข่ายวัดป่ายาง) เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(กทบ.)ตำบลกะหรอ จังหวัดนครศรีธรรมราช เครือข่ายองค์กรการเงินชุมชนอำเภอกาญจนดิษฐ์ สุราษฏร์ธานี เครือข่ายสินธุ์แพรทอง พัทลุง สมาคมสวัสดิการภาคประชาชนสงขลา เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารงานของเครือข่าย นำเสนอทั้งผลสำเร็จและปัญหาจากการบริหารงาน รวมทั้งความคิดเห็นในการหาแนวทางความร่วมมือระหว่างเครือข่าย นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อเสริมหนุนกันในระดับเครือข่าย
เมื่อติดตามผลจากการแลกเปลี่ยนในเวทีสัมมนา พบว่ามี 2 เครือข่าย กำลังใช้ผลจากความรู้ในการสัมมนาขับเคลื่อนต่อในเครือข่าย ดังนี้
ทำวงคุยในคณะกรรมการเครือข่ายฯ ที่เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 5 ท่าน มีเสียงปรารภว่า “หากเทียบชั้นกับเครือข่ายอื่นที่เข้าร่วมสัมมนา เครือข่ายองค์กรการเงินชุมชนกาญจนดิษฐ์ มีสถานภาพไม่ผิดกับนักเรียนอนุบาล 2 ในขณะที่บางเครือข่ายกำลังศึกษาในระดับมัธยม บางเครือข่ายกำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย” ทีมงาน 5 ท่านจึงได้จัดทำ “แบบสำรวจความคิดเห็นของผู้แทนกลุ่มสมาชิกเครือข่าย” ครั้งที่ 1 วันที่ 1 ธันวาคม 2550 เพื่อสำรวจและกระตุ้น(ทางอ้อม)ความคิดของสมาชิกต่อการพัฒนาเครือข่าย คำถามในแบบสำรวจมี 3 ข้อ ดังนี้
1. ในปี 2551 ท่านอยากเห็นเครือข่ายฯ เป็นอย่างไร?
o ดีเหมือนเดิม o ดีกว่าเดิม
(ท่านที่อยากเห็นว่า “ดีกว่าเดิม” โปรดตอบข้อ 2)
2. ท่านคิดว่าจะให้ดีในเรื่องอะไร? และโดยวิธีใด?
(1) .........................................................................................................................(2) .........................................................................................................................(3) ........................................................................................................................
3. ในปี 2555 หรืออีกห้าปีข้างหน้า ท่านอยากจะเห็นเครือข่ายฯ มีอะไรดีเพิ่มขึ้นมาได้อีกและทำอย่างไรจึงจะถึงจุดนั้น
(1) .........................................................................................................................(2) .........................................................................................................................(3) ........................................................................................................................
ซึ่งขณะนี้แต่ละกลุ่มกำลังระดมความเห็นจากสมาชิกเพื่อสรุปเป็นความเห็นของกลุ่ม และนำมารวบรวมสรุปที่เครือข่ายในวาระต่อไป
ในการสัมมนาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม มีสมาชิกและกรรมการของเครือข่ายฯ เข้าร่วมค่อนข้างครบถ้วนมากกว่าทุกเครือข่าย จึงสามารถร่วมกำหนด ทิศทางขับเคลื่อนเครือข่ายกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์พัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต จังหวัดนครศรีธรรมราช ขอนำเสนอผลการทำแผนเป็นหนังชุด เรียกเป็นตอน ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าถึงจำนวนตอนเพราะขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการระดมความคิดอย่างเข้มข้น
ตอนที่ 1
การทำแผนมีตัวแทนจากทุกกลุ่มในเครือข่ายฯ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น มีผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความรู้อาจารย์ภีม ภคเมธาวี ใช้เครื่องมือแบบจำลองปลาทู ประกอบการอธิบายกรอบคิดการทำแผน และอาจารย์ยินดี เจ้าแก้ว จากม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่เคยทำงานวิจัยก่อให้เกิดแผนพัฒนาเครือข่ายฯ เมื่อปี พ.ศ. 2546 เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการทำแผนในครั้งนี้ ขั้นตอนการกำหนดทิศทางพัฒนาเครือข่ายฯ เริ่มจากการวิเคราะห์การดำเนินงานตามแผนด้วยแบบจำลองปลาทู มีเป้าหมายให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มและกรรมการ เป้าหมายแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ กลุ่ม และชุมชน
1) กลุ่ม ประกอบด้วย กรรมการ และสมาชิก มีเป้าหมาย 8 ประการ ดังนี้o กลุ่มและกรรมการเข้มแข็ง o พึ่งตนเองได้o อยู่ดีมีสุขo พัฒนาจิตใจo สมาชิกปลอดอบายมุขo มีทุนหมุนเวียนของตนเองo สุขภาพอนามัยที่ดีของสมาชิกo รู้เท่าทันสถานการณ์
2) ชุมชน มีเป้าหมาย 5 ประการ ดังนี้ o สังคมคุณธรรม o สร้างงานสร้างอาชีพในชุมชนo ชุมชนเข้มแข็ง o สวัสดิการในชุมชนo สร้างความสามัคคีในชุมชน
วิสัยทัศน์ของแผนฯ ที่เคยทำไว้เมือ่ปี 2546 คือ “พัฒนาเครือข่ายให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นคนดีมีคุณธรรม ใฝ่เรียนรู้ ทำให้ปลอดทุกข์จากหนี้ ก่อเกิดสุขภาวะในชุมชน”
ทำงานผ่านภารกิจ 3 อย่าง ประกอบด้วย
1) การส่งเสริมการเรียนรู้และร่วมมือในสังคมเพื่อพัฒนากลุ่มสัจจะอยู่เย็นเป็นสุข ใช้ยุทธศาสตร์ 2 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์แรก พัฒนาคนให้เกิดการเรียนรู้สัจจะคุณธรรม ด้วยกิจกรรม พัฒนาแกนนำ ประชุมประจำเดือน อบรมบัญชี/งบกำไรขาดทุน และการจัดการ ค่ายพัฒนาคุณธรรม ยุทธศาสตร์ที่สอง ฟื้นฟูประเพณีและวัฒนธรรมชุมชนวันพระ ด้วยกิจกรรม ส่งเสริมความสัมพันธ์สมาชิก ผ้าป่าสัจจะ สร้างเสริมสุขภาวะ
2) พัฒนากลุ่มสัจจะให้สามารถพึ่งตนเองโดยใช้ทุนทางสังคมในชุมชน และขยายความช่วยเหลือแบ่งปันระหว่างเครือข่ายสัจจะและกลุ่มอื่น ด้วยยุทธศาสตร์ ลดรายจ่ายเสริมรายได้ ผ่านกิจกรรม ธุรกิจชุมชน ผลิตทดแทน ร่วมซื้อ ร่วมขาย ร่วมผลิต
3) ส่งเสริมเครือข่ายสัจจะเป็นสวัสดิการภาคประชาชนเพื่อต่อสู้กับความยากจนและหนี้สิน ใช้ยุทธศาสตร์ 2 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์แรก สำรวจทุนทางสังคม ผ่านกิจกรรม สำรวจรายรับ สำรวจรายจ่ายในครัวเรือน,กลุ่ม สำรวจชุมชนด้านทรัพยากรและประชากร ยุทธศาสตร์ที่สอง ลดการบริโภควัตถุนิยม ด้วยกิจกรรม นิยมไทย และกู้เพื่อการผลิตจากการวิเคราะห์การดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ ในส่วนของโครงสร้างของเครือข่ายประกอบด้วย กลุ่ม กรรมการ และสมาชิก เมื่อพิจารณาสถานภาพของแต่ละส่วนมีรายละเอียดดังนี้
1) กลุ่ม กลุ่มสัจจะฯ ที่ก่อตั้งด้วยแนวคิดของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์พัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิตวัดป่ายาง มีจำนวน 19 กลุ่ม จาก 12 อำเภอ กลุ่มเก่าที่ก่อตั้งตามแนวคิดกลุ่มสัจจะมานานได้เข้าร่วมในกิจกรรมของเครือข่ายมีการประสานงานและร่วมประชุมของเครือข่ายอย่างต่อเนื่องมีจำนวน 15 กลุ่ม และกลุ่มใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งด้วยแนวคิดกลุ่มสัจจะยังไม่เข้าร่วมกิจกรรมของเครือข่าย จำนวน 4 กลุ่ม
2) กรรมการ
3) สมาชิก จากกลุ่มสัจจะฯทั้งหมด 19 กลุ่ม มีจำนวนสมาชิกประมาณ 4,000 คน
จากการวิเคราะห์ปัญหาการเคลื่อนงานของเครือข่าย ไม่เกิดการขยายผล มีการประชุมประจำเดือนซึ่งกำหนดให้ตัวแทนจากทุกกลุ่มเข้าร่วม เพื่อรับฟังรายละเอียดผลการดำเนินงานของกิจกรรมเครือข่าย อันประกอบด้วย ปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด น้ำดื่ม กากน้ำตาล ฌาปนกิจ จากมติที่ประชุมเห็นควรให้มีการปรับโครงสร้างการรับผิดชอบการประชุมประจำเดือนให้เกิดประสิทธิภาพต่อการพัฒนากิจกรรมของเครือข่ายมากกว่าปัจจุบัน
เป้าหมายปี 2551
ต้องการให้การขับเคลื่อนเครือข่ายเป็นไปตามแผนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการปรับโครงสร้างการทำงานของคณะกรรมการเครือข่าย มีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานจากสมาชิกของเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนแผนใน 3 ฝ่าย จำนวนฝ่ายละ 2 ท่าน คัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถเหมาะสมกับงานแต่ละฝ่าย แผนการพัฒนา 3 ฝ่าย ได้แก่ 1) พัฒนาองค์กร 2) ธุรกิจ 3) สวัสดิการ
วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ของเครือข่ายที่ทำไว้เมื่อปี2546 เข้าใจว่ามาจากการสนับสนุนของโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายพระสงฆ์ที่ใช้กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เป็นเครื่องมือโดยใช้ศูนย์เรียนรู้วัดไผ่ล้อมของพระอาจารย์สุบิน ปณีโตเป็นแกน มีคุณธีระ วัชรปราณีเป็นผู้ประสานงาน โดยการสนับสนุนของสสส.
โครงการนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนต่อเนื่อง ไม่ทราบด้วยเหตุผลใด ซึ่งน่าเสียดายมาก