วันนี้ผมได้ศึกษาบทความการวิจัยเชิงอนาคต : ปฏิบัติการวิจัยอนาคตด้วยEDFR ของ รศ.ดร.วิโรจน์ สารรัตนะ พอสรุปเล่าสู่กันฟัง ได้ดังนี้ ครับ
นักอนาคตนิยมเชื่อว่า อนาคตเป็นเรื่องที่สามารถทำการศึกษาได้อย่างเป็นระบบ ความเชื่อของมนุษย์จะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของมนุษย์ มนุษย์สามารถควบคุมอนาคตได้ จุดมุ่งหมายของการวิจัยอนาคต เพื่อศึกษาแนวโน้มที่เป็นไปได้ทั้งที่พึงประสงค์และไม่พึงประสงค์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และเพื่อที่จะหาทางทำให้แนวโน้มที่พึงประสงค์เกิดขึ้นและป้องกันแนวโน้มที่ไม่พึงประสงค์ให้หมดไป เทคนิคการวิจัยอนาคตแบบ EDFR เป็นทั้งระเบียบวิธีในการวิจัยในการคาดการณ์อนาคต (research technique) และเป็นทั้งเทคนิคการสื่อสารระหว่างผู้เชี่ยวชาญ (communicating process) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มักไม่มีเวลาว่างที่จะมานั่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยตรง เทคนิคการวิจัยแบบ EDFR และ Delphi จะเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความเชี่ยวชาญระหว่างกันและกันการแบ่งช่วงเวลา นักอนาคตนิยม แบ่งช่วงเวลา ออกเป็น 4 เวลา คือ ช่วงเวลา 5 ปี เป็นการทำนายหรือวางแผนระยะกระชั้นชิด เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็น immediate problem solving ,immediate forecasting , immediate planning ช่วงประมาณ 5-10 ปี เป็นการทำนายหรือการวางแผนระยะสั้น(short range forecasting ,short range planning ) ช่วงประมาณ 10-15 ปี ไปจนถึง 20 ปี เป็นระยะปานกลาง middle range forecastingหรือ planning เป็นการศึกษาอนาคตของสังคมหรือวัฒนธรรมของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ช่วงระยะ 20 หรือ 25 ปี ขึ้นไป เป็นการวิจัยอนาคตระยะยาว ข้อมูลที่ได้หรือผลที่ได้อาจจะขาดแรงจูงใจการเลือกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ : เกณฑ์และวิธี เหตุผลที่เลือกผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยเชิงอนาคต เพราะเชื่อว่า ผู้เชี่ยวชาญผู้เชี่ยวชาญจะเป็นกลุ่มที่มองหรือคาดการณ์อนาคตได้ชัดเจนและถูกต้องมากกว่าคนธรรมดา และที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมบุคคลที่อยู่เบื้องหลังมักเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง เกณฑ์การคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญ สำหรับการวิจัยอนาคต มีลักษณะเป็นแบบเจาะจงเลือก(purposive) มากกว่าการสุ่ม (random) วิธีการเลือกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ อาจจะเจาะจงเลือก หากรู้ว่าใครเป็นผู้เชี่ยวชาญ หากไม่ทราบสิ่งที่ทำได้คือใช้วิธีการโยนลูก (snowball)การระบุชื่อผู้เชี่ยวชาญ การระบุชื่อผู้เชี่ยวชาญในงานวิจัย อย่าทำให้มีผลกระทบทางร้ายต่อผู้ที่มีชื่อ ควรเป็นผลกระทบทางดี และควรขออนุญาตก่อนการเตรียมตัวกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ การเตรียมตัวกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (preparing subjects) เพราะมีผลกระทบต่อการวิจัยตลอดเวลา เนื่องจากการวิจัยอนาคต EDFR หรือ Delphi นั้นใช้เวลามาก จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นจึงต้องมีการติดต่อล่วงหน้าก่อนเสมอ จะต้องอธิบายถึงจุดหมาย ขั้นตอนและระเบียบวีวิจัย เวลาที่ใช้ในแต่ละรอบ และย้ำให้ผู้เชี่ยวชาญเห็นความสำคัญของการวิจัยว่ามีจุดมุ่งหมาย และประโยชน์อย่างไรบ้างการสัมภาษณ์แบบ EDFR รอบที่ 1 เริ่มสัมภาษณ์จาก optimistic realistic scenario และตามด้วย pessimistic realistic scenario แล้วตามด้วย most probable scenario เป็นการคิดภาพบวกก่อน ภาพลบตามมา แล้วภาพที่เป็นไปได้มากที่สุด ที่สำคัญการสัมภาษณ์แบบ EDFR เปิดโอกาสให้ผู้วิจัยเพิ่มประเด็นแนวโน้มที่เราได้จากการสัมภาษณ์คนแรกๆผนวกเข้าไปกับการสัมภาษณ์คนต่อๆไปได้ตลอดเวลาเพราะต้องการศึกษาแนวโน้มที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะมากได้การเขียนแนวโน้มในแบบสอบถาม การเขียนแนวโน้มในแบบสอบถามควรใช้ภาษาที่สั้น กะทัดรัดชัดเจน คงความหมายเดิมของผู้เชี่ยวชาญไว้ให้มากที่สุดปัญหาของแบบสอบถามและวิธีแก้ แบบสอบถามมักจะยาว วิธีแก้ไขคือ แบ่งประเด็นการศึกษาออกเป็นส่วนๆเป็นตอนๆ แล้วก็ทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องและพยายามอธิบายให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าใจว่าแบบสอบถามยาวเพราะอะไรการรายงานผล การรายงานผล จะยึดเอาผลในรอบที่ 3 เป็นเกณฑ์จำนวนรอบ จำนวนรอบ จำนวนคน ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมาย งบประมาณ เวลาและกำลังคนของการวิจัย และดูจากคำตอบที่ได้ในรอบต่างๆ มีความเป็นเอกฉันท์หรือยัง (consensus) การเขียนรายงานการวิจัยอนาคตแบบ EDFR การเลือกเขียนรายงานการวิจัยอนาคตแบบ EDFR ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของการวิจัย ส่วนภาษาที่ใช้เขียนอาจเป็นภาษาที่เป็นทางการ หรือ เป็นภาษาธรรมดา ก็ได้ แต่เขียนแล้วให้อ่านราบรื่น มิใช่ภาษาวิชาการมากเกินไป คือคนทั่วไปอ่านแล้วรู้เรื่องทีมสัมภาษณ์ ควรมีทีมสัมภาษณ์อย่างน้อย 2-3 คน ซึ่งได้รับการฝึกฝนเทคนิคการสัมภาษณ์แบบ EDFR และ จะต้องมี cumulative summarization technique) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือความตรงกับความเที่ยง (validity , reliability) การวิจัยอนาคตมีจุดมุ่งหมายต้องการแนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุด มิใช่เพื่อการทำนายที่ถูกต้อง การวิจัยต้องการให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญตอบตรงตามที่เขาตอบ ไม่ว่าจะวัดกี่ครั้ง คำตอบก็คงเดิม รูปแบบต่างๆ ของ EDFR รูปแบบการวิจัยอนาคตแบบ EDFR ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของการวิจัย งบประมาณ และเวลา มีรูปแบบต่างๆ ดังนี้ รูปแบบแรก คือ สัมภาษณ์ แล้วมีแบบสอบถาม2 หรือ 3 รอบเพื่อกรองการคาการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ รูปแบบที่ 2 mini EDFR คือ สัมภาษณ์แบบ EDFR บวกกับการส่งแบบสอบถามอีกเพียงรอบเดียว รูปแบบที่ 3 เป็นแบบ EDFR เต็มรูป แต่มีการปรับแบบสอบถามในรอบที่ 3 ให้สั้นลง การประยุกต์เทคนิคการวิจัย EDFR ระเบียบวิธีวิจัยแบบ EDFR สามารถใช้กับวิจัยธรรมดาที่ไม่ใช่วิจัยอนาคตได้ สามารถจะเอาระเบียบวิธีวิจัย EDFR ไปใช้เพื่อกำหนดนโยบาย วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาได้ และใช้ในการตัดสินปัญหาได้ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังสามารถใช้ระเบียบวิธีวิจัย EDFR ศึกษาเรื่องของอดีต ได้ด้วย ระเบียบวิธีวิจัย EDFR อาจถือเป็น appropriate technology ที่ประเทศกำลังพัฒนาสามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุนมาก หรือไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างปะเทศ สามารถทำเองได้และทำได้ดีที่สุด อีกด้วยขอบคุณมากค่ะดิฉันกำลังค้นคว้าการทำรายงานเกี่ยวกับการวิจัยเชิงอนาคตพอดีเลย
สวัสดีครับ
เรียนรู้อดีต ศึกษาปัจจุบัน เพื่อสร้างอนาคต ครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ขอบคุณมากนะครับที่มาทักทาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกันครับ ผมเองก็รักขอนแก่นนะครับอาจารย์ ตอนนี้กำลังเรียน ป.เอก บริหารการศึกษา กำลังทำวิจัยกะว่าเทอมหน้านี้จะพยายามให้จบครับ อาจารย์มีอะไรแนะนำผมยินดีรับข้อเสนอแนะจากอาจารย์ครับ