ท่านผู้อ่านคงเคยคุ้นตากับแนวคิดของ PDCA
(Plan,Do,Check,Action) ในสมัยที่เรียนปริญญาตรีกันไปแล้ว
บางคนอาจจะนึกในใจว่า "เอ๊ะ ! อะไร PDCA ชั้นเคยเรียนมาด้วยเหรอเนี่ยะ
รู้จักแต่ RCA กับ Y.M.C.A"
ไม่เป็นไรครับเข้าใจว่าเวลาผ่านไปเซลล์สมองเราก็เริ่มเสื่อมไปตามสภาพกาลเวลาบ้าง
วันนี้ผมมีสินค้าใหม่มาเสนอให้คุณได้ลองใช้ดู นั่นก็คือ DMAIC
(Define,Measure,Analyze,Improvement,Control) ซึ่งนำมาจากคอนเซปของ
Six Sigma
ซึ่งผมได้มีโอกาสสัมผัสและได้ใช้มาเมื่อสมัยทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม
นี่เป็นขั้นตอนของการเรียบเรียงกระบวนการทางความคิดและการปฏิบัติที่วงการอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบันน่าจะใช้กันมากกว่า
PDCA
ผมขออธิบายถึงรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนให้เพื่อนๆได้มองเห็นภาพได้ง่ายขึ้นนะครับ
Define คือ
ขั้นตอนของการนิยามหรือกำหนดปัญหา
เลือกโครงการที่จะทำการปรับปรุงหรือออกแบบ
ทั้งนี้เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลักด้วย
เพื่อให้โครงการที่เลือกทำนั้นเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ทำแล้วคุ้มค่า
ตรงประเด็นไม่เสียเวลา
Measure คือ ขั้นตอนการวัด เช่นวัดความสามารถของกระบวนการ
วัดของเสีย วัดประสิทธิผล ฯลฯ
เพื่อนำมาวิเคราะห์ตัวแปรต่างๆ
Analyze คือ
ขั้นตอนการวิเคราะห์(จากข้อมูลที่วัดมาได้)เพื่อหาหรือพิสูจน์ตัวแปรที่สำคัญที่สุดในกระบวนการ
(Key process variable)ที่เป็นต้นตอสาเหตุของปัญหาที่นิยามไว้ เช่น
การทำไม่ได้ตามข้อกำหนดของลูกค้า หรือเป้าหมายการออกแบบที่กำหนด ฯลฯ
ในขั้นตอนนนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะถ้าหาตัวแปรไม่เจอหรือหาผิดก็ไม่อาจจะปรับปรุง
หรือปรับปรุงผิดที่
หรือถือว่าจ่ายยาไม่ถูกโรคได้ถ้าวินิจฉัยโรคผิดและถ้าหากเผอิญเป็นโรคร้ายแรงก็อาจจะทำให้แก้ไขไม่ทันการเหมือนกัน
Improve
คือขั้นตอนของการปรับปรุง (Action นั่นแหละ)
หลังจากที่เราจับตัวแปรที่มีผลมากๆหรือสำคัญๆได้แล้ว
เราก็ลงมือแก้ไข/ปรับปรุง เพื่อขจัดสาเหตุที่วิเคราะห์ได้
หรือในการออกแบบขั้นนี้จะเป็นการออกแบบกระบวนการ /ผลิตภัณฑ์
เพื่อขจัดหรือควบคุมตัวแปรที่วิเคราะห์ได้
Control คือ
ขั้นตอนของการควบคุม เพื่อมห้กระบวนการนั้นนิ่ง
หมายถึงอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ใช่นิ่งๆแบบไม่ต้องทำอะไรแล้ว หรือถ้าเป็นการ
ออกแบบก็คือขั้นตอนของการทวนสอบผลการออกแบบและควบคุมการดำเนินการต่อไปเช่นกัน
ทำให้สม่ำเสมอ สิ่งที่ทำได้ดีแล้วก็รักษาไว้ให้ตลอดรอดฝั่ง
ไม่ใช่ทำๆหยุดๆ
กระบวนการ
กิจกรรมที่ดำเนินการ เครื่องมือต่างๆที่นิยมนำมาใช้
Define
-แต่งตั้งทีมงาน -New
7 Tools
-นิยามปัญหา -Quality
Function Deployment(FQD)
-หาความต้องการ
ลูกค้า/องค์กร
-ผังกระบวนการ
-ตั้งเป้าหมาย
-Process Mapping
-การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analysis)
-วิศวกรรม/การวิเคราะห์คุณค่า (VA/VE)
-ผังพาเรโต
-การระดมสมอง
(Brainstroming)
-Technique
-การเปรียบวัด (Bemchmarking)
-ต้นทุนคุณภาพ
Measure
-วัดขั้นตอน input
ที่สำคัญ
-ผังควบคุม (Control Chart)
-รวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์พิสูจน์ปัญหา
-ผังพาเรโต
-Run chart
-Process Mapping
-Gage R&R
-Check
Sheets
-Box plot
-ดัชนีวัดผลงาน (KPI , Balanced Scorecard)
Analyze
-พิสูจน์ปัญหา
-การวิเคราะห์ระบบการวัด(Measurement system analysis)
-หาต้นตอของความแปรปรวน
-การออกแบบการทดลอง (DOE)
-การวิเคราะห์ความสามารถกระบวนการ Cp Cpk
-การวิเคราะห์ความล้มเหลวและผลกระทบ (FMEA)
-New
7 Tools
-วิศวกรรม/การวิเคราะห์คุณค่า (VA/VE)
-ผังก้างปลา (Cause &Effect diagrame)
-แผนภูมิต้นไม้ (Fault Tree Analysis)
-การวิเคราะห์จุดที่ติดขัด (Theory of Constrain)
-การวิเคราะห์ความสัมพันธ์
(Correlation Analysis)
-การจำลองกระบวนการ (Process Simulation)
-ANOVA
-การทดสอบสมมติฐาน
Improve
-กำหนดวิธีกำจัดต้นตอของสาเหตุและนำไปดำเนินการ -การวิเคราะห์ความล้มเหลวและผลกระทบ
(FMEA)
-ทดสอบการดำเนินการ
-New 7 Tools
-จัดทำมาตรฐานของผลการดำเนินการ
-การออกแบบการทดลอง (DOE)
-Evolutionary operations(EVOP)
-การจำลองกระบวนการ
(Process Simulation)
-การป้องกันข้อผิดพลาด
(Mistake proofing,Poka-Yoke)
Control -จัดทำแผนควบคุม
(Control
plan)
-การป้องกันข้อผิดพลาด
(Poka-Yoke)
-เฝ้าติดตามการดำเนินการ -ผังควบคุม
(Control Chart)
-การควบคุมด้วยกระบวนการทางสถิติ (SPC)
-การวิเคราะห์ความสามารถ
ขอเป็นกระบอกเสียงช่วยประชาสัมพันธ์เรื่อง Six Sigma นิดนึง
เพราะบางคน คิดว่าสถิติน่าจะเกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น
ดังนั้นงานบริการด้านต่างๆจึงไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร
ซึ่งจริงๆแล้วการนำ Six Sigma ไปใช้นั้นไม่มีข้อจำกัด
อุตสาหกรรมหรือการบริการก็ใช้ได้ดี
ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบกันจริงๆแล้วคุณภาพของงานบริการถือว่าส่งผลถึงลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วกว่าอุตสาหกรรมการผลิตเสียอีก
ดังนั้นหลายๆประเทศจึงฮิตที่จะนำ Six Sigma
ไปใช้ปรับปรุงงานบริการค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านบริการรักษาสุขภาพ
(โรงพยาบาลต่างๆ) ธุรกิจประกัน ธุรกิจการเงิน การธนาคารเป็นต้น
ซึ่งในประเทศไทยถือว่าตื่นตัวได้ช้าเฉกเช่นเดียวกับเมื่อสมัย ISO 9000
เข้ามาในประเทศไทยใหม่ๆนั่นเอง
what language is this in lmao, there’s just scribbles all over my page