การบริหารจัดการภาครัฐนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้มีพระราชดำรัสต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ผมรวบรวมได้ มีอยู่ 14
ประการ
ข้อที่
1 มีพระราชดำริว่า
การบริหารจะต้องเป็นการบริหารเพื่อความมั่นคงของชาติ
เพื่อความเจริญของประเทศ และเพื่อความผาสุกของประชาชน
การบริหารจะต้องไม่นำเอาประโยชน์ส่วนตัว ประโยชน์ของญาติพี่น้อง
ประโยชน์ของบริวารเข้ามาเกี่ยวข้อง
พวกเราทั้งหลายคงจะจำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้ว่า ทรงมีรับสั่งว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
เป็นพระราชปณิธานที่ทรงดำรงไว้ได้อย่างมั่นคง ผมเข้าใจว่า
ธรรมที่ทรงรับสั่งนั้น ย่อมหมายถึงทั้งธรรม คือคุณความดี
และความยุติธรรม
ข้อ 2
ท่านรับสั่งว่า จะต้องบริหารด้วยความสามัคคี ทรงเน้นและทรงเห็นว่า
ความสามัคคีปรองดอง จะนำไปสู่ความร่วมมือและความเข้มแข็ง
ทำให้งานบรรลุผลสำเร็จ
ผมมีความเห็น ผมขอเน้นว่า
ผมมีความเห็นว่า
ผู้บริหารทุกระดับจะต้องรู้จักรักษาความสามัคคีในหน่วยงาน
ในชาติของเรา ผู้บริหารจะต้องรู้จักกำหนดนโยบาย
ซึ่งสมัยนี้เรียกกันว่า “ยุทธศาสตร์”
ผู้บริหารจะต้องรู้จักกำหนดมาตรการเพื่อให้บรรลุนโยบายหรือยุทธศาสตร์นั้นๆ
จะต้องเข้าใจว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ใช่ความขัดแย้ง
ไม่ใช่ความขัดขืน
ผู้บริหารที่ดีต้องยอมรับฟังความเห็นของผู้อื่น
ให้โอกาสผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีส่วนร่วม เพราะพวกเราทุกคน
หรือส่วนใหญ่ของพวกเรา
ต่างก็มีความปราถนาดีต่อหน่วยงานและต่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน
ข้อ 3
จะต้องบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ท่านรับสั่งว่า
ต้องซื่อสัตย์สุจริต ทั้งในความคิด การพูด และการกระทำ
ยังทรงเน้นในเรื่องนี้อยู่เสมอๆ
ผมขอให้ความเห็นเป็นส่วนตัว
เป็นการขยายความว่า ผู้บริหารนอกจากจะต้องซื่อสัตย์สุจริตแล้ว
จำต้องดูแลคนรอบข้างตัวเราให้ซื่อสัตย์สุจริตด้วย ยิ่งไปกว่านั้น
ผู้บริหารจำต้องเพิ่มเติมคำว่า “เสียสละ” และ
“จงรักภักดี” เข้าไปด้วย
ในบ้านเมืองของเราปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหารภาครัฐ
ถ้าจะมาพูดกันก็พูดได้ยาวมาก พูดได้นานมาก
พูดกันได้เหมือนเรื่องสนุกสนาน
แต่เรื่องที่เราไม่ค่อยจะพูดถึงกันบ่อยนัก ก็คือเราไม่ค่อยพูดว่า
การทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นการบั่นทอนประสิทธิภาพในการบริหาร
และลดความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อผู้บริหารและหน่วยงานของรัฐ
ข้อ 4
จะต้องเป็นการบริหารที่ถูกต้อง คือถูกต้องตามกฎหมาย ถูกต้องตามกฎเกณฑ์
มีความเที่ยงธรรม เที่ยงตรง มีประสิทธิภาพ
และให้ประสิทธิผลสูง
ความเห็นส่วนตัวของผม
ผมเห็นว่า ผู้บริหารต้องมีมาตรฐานเดียว เสมอหน้ากัน ทั่วถึงกัน
ต้องไม่มีหลายมาตรฐาน หรือไม่มีมาตรฐานเลย หรือใช้มาตรฐานตามอารมณ์
มาตรฐานตามกิเลส พระเจ้าอยู่หัว ทรงย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
ความสุจริตและความถูกต้องเป็นของคู่กัน
ข้อ 5
จะต้องเป็นการบริหารที่มีเอกภาพ มีการประสานงาน
มีการประสานประโยชน์ระหว่างหน่วยงาน
พระราชดำรินี้ชัดเจน
และเข้าใจง่าย แต่โดยข้อเท็จจริง
หน่วยงานภาครัฐค่อนข้างละเลยจนกลายเป็นอุปสรรคที่ไม่มีในตำรา
บางทีก็กลายเป็นการแข่งขันหรือกลายเป็นการแก่งแย่งกันเองระหว่างหน่วยงานต่างๆ
ข้อ 6
จะต้องบริหารด้วยความเพียร อย่างต่อเนื่อง ดุจเช่นพระมหาชนก
ผู้บริหารต้องไม่กลัวลำบาก ไม่กลัวเหนื่อย
ดำรงความมุ่งหมายอย่างกล้าหาญ กล้าเผชิญอุปสรรค
และอดทนต่อความยากลำบาก
ผมเองเห็นว่า
ผู้บริหารต้องมีความเพียรพยายาม
โดยไม่คำนึงว่าตนจะได้รับประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ อย่างไร
มุ่งแต่ความสำเร็จของการบริหาร
และผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ข้อ 7
ผู้บริหารจะต้องไม่หวาดกลัวต่ออิทธิพลใดๆ
และต้องอยู่คนละฝ่ายกับความไม่ถูกต้อง
ผมเห็นว่า
ผู้บริหารต้องหนักแน่น สงบนิ่ง และสง่างาม ในบ้านเมืองของเรา
ผู้บริหารมักจะเผชิญกับการเรียกร้องและความกดดันของกลุ่มอิทธิพล
หรือผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรม
หรือเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และความต้องการของกลุ่ม กรณีเช่นนี้
ผู้บริหารจะต้องเลือกเอาเองว่าจะยืนหยัด หนักแน่น รับใช้ประชาชน
หรือจะรับใช้กลุ่มอิทธิพล
ภาคที่สองครับ/JJ
ไม่มีความเห็น