เรื่องราวของการพูดคุยกันระหว่างชาวบ้านอ้อยใหม่เกี่ยว กับการเลือกยี่ห้อปุ๋ยเคมีที่จะใช้ในไร่อ้อยในแต่ละปี
การเลือกใช้พันธุ์อ้อยที่จะปลูกตามพื้นที่ต่าง ๆ
การเลือกซื้อยี่ห้อรถจักรยานยนต์ของครัวเรือนเมื่อมีกำลังทรัพย์เพียง พอ หรือมีความสามารถในการส่งผ่อนได้
เหล่านี้เป็นตัวอย่างของการดำเนินกิจกรรมที่ต้องการข้อมูล ข่าวสารและการใช้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น นั้น ในการดำเนินการทั้งสิ้น
ดังนั้นผู้รู้ข้อมูลจึงหมายถึงทุกคนในสังคม เพราะทุกคนใช้ข้อมูล ข่าวสาร และความรู้ในการทำงานทุกด้าน ทุกขณะ และเป็นธรรมชาติที่สุด หลายโอกาสไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วยเหลือ ใช้เพียงข้อมูลจากประสบการณ์ก็สามารถประกอบกิจกรรมได้ลุล่วง สมบูรณ์
ผู้รู้ข้อมูลบางอาชีพในสังคมอาจจะเห็นชัด บางอาชีพเหมือนหนังสือเดินได้ เช่น นักกฎหมาย ทนายความ ครู-อาจารย์ พระ-นักบวช เป็นต้น แต่เราเริ่มพบเห็นว่ามีอาชีพอื่น ที่มีลักษณะของการเป็นผู้รู้ข้อมูล เพิ่มขึ้นทุกวัน ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการหน่วยงานต่าง ต่าง ผู้จัดการร้านค้าสะดวกซื้อ แม่ค้าในตลาดสดข้างบ้าน คนกลุ่มมีบทบาทมากขึ้น ในสังคมแห่งความรู้ สังคมแห่งการเรียนรู้ ดังนั้นเราต้องเข้าใจว่าผู้รู้ข้อมูลเป็นใคร และเขาทำอะไร ทำได้อย่างไร
ดูตัวอย่างการนำรถไถนาแบบต่าง ต่าง เข้ามาใช้งานในไร่อ้อยของชาวไร่ในบ้านอ้อยใหม่เป็นตัวอย่าง ทำให้เกิดอาชีพอย่างอื่นตามมาอีกหลายอาชีพในหมู่บ้าน เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ช่างทำชิ้นส่วนประกอบ รถยนต์รูปแบบต่าง ต่าง เป็นต้น
ในสำนักงานของหน่วยก็เช่นกันทุกคนคิดว่าเมื่อนำคอมพิวเตอร์พร้อม กับเครื่องพิมพ์เข้ามาจะทำให้ตำแหน่งงานในสำนักงานหายไป แต่ในสภาพจริงกับเป็นการเพิ่มตำแหน่งงานมากขึ้น ดังนั้นความเข้าใจร่วมกันว่าผู้รู้ข้อมูลเป็นใคร อยู่ส่วนไหนของสังคมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมโดยส่วนรวม
“แล้วเจ้าพวกผู้รู้ข้อมูลแบบหนังสือ หรือ ตำราเดินได้นั้นน่ะ มันช่วยอะไรพวกเราล่ะ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะรอไปทำไม เราทำและก็หาทางใช้ข้อมูลเองดีกว่า” ป้ามาถามด้วยน้ำเสียงเนิบ เนิบ
ใบอ้อยก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่เช่นกัน จากประสบการณ์ดูเหมือนว่าราชการเก็บข้อมูลเพื่อไว้ใช้งานเอง มากกว่าจะให้ประชาชนใช้ด้วย หรือเพื่อช่วยส่งเสริมให้ ชาวบ้านใช้ข้อมูล
การตอบคำถามของป้ามาจึงไม่เป็นที่พอใจมากนัก ไม่ว่าจะเทียบกับการลงทุนอย่างมากมายในการสร้างระบบเครือข่าย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติในเกือบทุกวงการก็ว่าได้ การลงทุนเพื่อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ในครัวเรือนถึงระดับชาติ ดูเหมือนว่าเรายังอยู่ในวังวนของการจัดการความรู้ การจัดการ ฐานข้อมูลเหมือนเดิม เหมือนกับที่ทำงานแล้ว ตั้งแต่ยุคที่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาในสังคมในหมู่บ้านอ้อยใหม่
แต่เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่ากิจกรรมการจัดการข้อมูล ให้เป็นข่าวสารและความรู้มีขั้นตอนที่ชัดเจน และต้องทำให้ครบถ้วน จึงจะสำเร็จผล
๑. เริ่ม ด้วยการจัดหมวดหมู่ข้อมูลและความรู้ที่มีอยู่แล้ว
๒. เป็นช่วงการหาวิธีการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ เกิดการสร้างกำไร โดยการกำหนดรูปแบบและแนวทางต่าง ต่างกัน
๓. เป็นการสร้างข้อมูล ข่าวสารและความรู้ใหม่เพื่อการประกอบ กิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง และ
๔. เป็นการนำความรู้ใหม่ที่ได้ไปใช้งานจริง
“มีแต่เส้นหมี่” เป็นข้อมูลที่เจ๊กเฮงส่งให้แก่ลุงมีนำไปประมวลผล คาดการณ์และตัดสินใจในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
ลุงมีสามารถตอบกลับได้ โดยที่ได้ทำการจัดการกับข้อมูล ดังกล่าวอย่างครบถ้วนทั้งสี่ขั้นตอน แบบไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไป
ดังนั้นการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเป็นเรื่องของกระบวนการ (process) เป็นเรื่องของระบบ (system) เราต้องช่วยกันประมวล และประยุกต์ใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์มากกว่าวิธีการ กระบวนการเดิม และเป็นเรื่องที่ทุกคนในสังคมต้องร่วมกัน
ผู้รู้ข้อมูลก็คือพวกเราทุกคน ต้องร่วมกันสร้างเครือข่ายทำงานกับชาวไร่ ชาวนา เพื่อการสร้างฐานข้อมูลทรัพยากรการเกษตรร่วมกัน และจะทำให้การใช้งานฐานข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจดำเนิน กิจกรรมการเกษตรอย่างยั่งยืน
==========================>>
๘ | ๙ | ๑๐
สวัสดีครับพี่พิศาล