ชุมชนบ้านดอนแก้ว ต.วรนคร อ.ปัว เป็นชุมชนไทลื้อ ที่มีดำรงรักษาวัฒนธรรมประเพณีและภาษาของตนเองไว้อย่างเหนียวแน่น การสร้างการเรียนรู้ครอบครัวผ่านวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของตนเอง ในปีนี้ ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน 2 เวที คือ
เวทีที่ 1 เรียนรู้การทำอาหารปลาอัดเม็ด (12 พฤษภาคม 2550)
กลุ่มเป้าหมาย 30 ครอบครัวที่มีสระเลี้ยงปลา
วัตถุประสงค์ 1. ส่งเสริมกลุ่มเลี้ยงปลาให้มีความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาและทำอาหารปลาไว้ใช้เองในครอบครัวลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารปลา2.เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว มีอาหารไว้บริโภคในครัวเรือนและเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว
กระบวนการที่ใช้
1.ระดมความคิดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงปลาของแต่ละครอบครัว2. แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติการทำอาหารปลาอัดเม็ด
เนื้อหาในเวที ช่วงที่ 1 ระดมความเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงปลาในสระแต่ละครอบครัวช่วงที่ 2 ฝึกปฏิบัติการทำอาหารปลาอัดเม็ดจากเศษวัชพืช-สัตว์
ผลจากการเรียนรู้ผ่านเวที
1. ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนกระบวนการเลี้ยงปลาของแต่ละครอบครัว ที่ผ่านจะเลี้ยงปลาในบ่อดิน ใช้มูลสัตว์เช่นมูลวัว ควาย ปูนขาวใส่เพื่อปรับสภาพดิน ชนิดปลาที่เลี้ยง ปลานิล ปลาเพี้ยง ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาดุก อาหารที่นำมาให้ปลา บางครอบครัวก็ซื้ออาหารเม็ดมาให้ บ้างก็ให้รำอ่อน ผักต่าง ๆ ตัดหญ้าริมสระโยนให้ปลากิน ปัญหาที่พบ น้ำเน่าเสีย สระไม่มีระบบระบายน้ำ ปลาเป็นโรค งูมากินปลา ปลาโตช้า
2. ผลจากการลงมือปฏิบัติฝึกทำอาหารปลาอัดเม็ด แบ่งกลุ่มผู้ร่วมเรียนรู้ได้ช่วยกันทำอาหารปลา ในครั้งนี้มีส่วนผสมที่หาจากท้องถิ่นทั้งหมด เช่นหอยเชอรี่(จากศัตรูข้าวเป็นอาหารปลา) กากน้ำตาล รำอ่อน เกลือ และเครื่องบดอาหารให้ละเอียดและเครื่องอัดเม็ด เพื่ออัดอาหารเป็นเม็ด เพื่อนำไปผึ่งลมให้แห้งและนำไปให้ปลา
การติดตามครอบครัวเป้าหมายหลังจัดเวที
1. การนำความรู้ไปปรับใช้ในครอบครัวของตนเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารปลา ซึ่งจากการติดตามครอบครัวเป้าหมายหลังจากอบรม พบว่ามี 1 ครอบครัวที่ทำอาหารปลาเองในครอบครัว คือครอบครัว จสอ.พนม เนตรทิพย์ และเปิดพื้นที่บ้านตนเองเป็นสถานที่เรียนรู้ให้ครอบครัวอื่นมาทำอาหารปลาไว้ใช้เองได้ และปรับประยุกต์วิธีการให้เหมาะสม เช่น หาวิธีทำให้อาหารเก็บได้นาน ,ทำน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้เอง เป็นต้น
2. แกนนำครอบครัวได้ขอการสนับสนุนเครื่องบดอาหารจาก อบต.วรนคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน
เวทีที่ 2 ครอบครัวเรียนรู้มุ่งสู่เศรษฐกิจพอเพียง (2 กันยายน 2550)กลุ่มเป้าหมาย 60 คน มาร่วมเวทีจริง 83 คน
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียงและการนำไปปรับใช้ในครอบครัว2. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว3. เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้าน
กระบวนการที่ใช้ ใช้กระบวนการเรียนรู้เป็นกลุ่ม พ่อ แม่ ลูก แบ่งการเรียนรู้ออกเป็นฐานเรียนรู้
เนื้อหาในเวที เป็นเนื้อหาที่เป็นวิถีการกินของคนในชุมชน วันนี้เลือก 3 เนื้อหา โดยแบ่งเป็น ฐานที่ 1 คือ เรื่องการทำอาหารพื้นบ้านแกงแค,น้ำพริกอ่อง ฐานที่ 2 การทำขนมเทียนแก้วฐานที่ 3 แมลงศรัตรูในนาข้าว
ผลจากการเรียนรู้ผ่านเวที
1. แบ่งการเรียนรู้ออกเป็นฐานการ ฐานที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเด็กและแม่คือ ฐานการทำอาหารและขนม ซึ่งการทำขนมได้ปรับจากขนมเทียนธรรมดาที่ชาวบ้านกินเป็นประจำ มาเป็นขนมเทียนแก้ว ซึ่งจะทำให้เด็กให้ความสนใจและน่ากิน 2 ฐานนี้จึงปรับกระบวนเป็นการเรียนแบบเวียนฐาน ส่วนฐานที่ 3 คือฐานเรื่องศรัตรูในนาข้าว กลุ่มที่ให้ความสนใจคือกลุ่มพ่อบ้าน
2. พบว่ามีกลุ่มผู้ที่สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ฐานศัตรูในนาข้าวจำนวนหนึ่งซึ่งไม่ใช้กลุ่มเป้าหมายที่แกนนำเชิญมาร่วม จึงกลายเป็นเวทีเปิดให้คนสนใจเข้าร่วมเรียนรู้ด้วยกัน ฐานนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชายที่ให้ความสนใจมากกว่าผู้หญิง การเรียนรู้วิทยากรคือคุณสำรวย ผัดผลได้พาลงไปแปลงนาที่ได้รับผลกระทบจากศรัตรู แมลงบั่วและเพลี้ยงไฟ เก็บตัวอย่างต้นข้าว ศรัตรูของข้าว เรียนรู้จากของจริง
3. ขยายความรู้ในการจัดเวทีครั้งนี้ผ่านคลื่น 101.25MHz สถานีวิทยุวรนคร อ.ปัว
ผลสืบเนื่องจากการทำเวที
1. ในระดับชุมชนได้หารือร่วมกันเพื่อรวมตัวไปศึกษาเรื่องการคัดเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนโจ้โก้ และปรับใช้ในพื้นที่แถบตำบลวรนครต่อไปโดยเชื่อมโยงกับสายงานเครือข่ายเกษตรมูลนิธิฮักเมืองน่าน (ตุลาคม ศึกษาดูงานการคัดเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ต.เมืองจัง)
2. เกิดการวางแผนร่วมกันของกลุ่มชาวนาในการป้องกันศรัตรูข้าวเช่น บั่ว เพลี้ยงไฟ กันทั้งโล่งนา โดยไม่ใช้สารเคมีเป็นตัวปราบ แต่จะใช้วิธีการดูแลตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ ต้นกล้า ตลอดระยะการเจริญเติบโตของข้าวอย่างต่อเนื่องและใส่ใจ
ผลแห่งการเรียนรู้ทำให้ครอบครัวได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน รู้จักคิด รู้จักฟัง และรู้จักปรับตัวเข้าหากัน ช่วยกันนำพาครอบครัวไปสู่ความมีเหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันทางสังคมร่วมกัน
อนงค์ อินแสง กองเลขานุการโครงการครอบครัวเข้มแข็งจังหวัดน่าน เล่าความ
อยากรู้สูตรวิธีการทำขนมเทียนแก้วจะดูได้จากที่ไหนค่ะ