มีตำนานเล่าขานกันสืบมา
มีคานหนึ่งสวยสง่าเปี่ยมราศรี
อันทางขึ้นนั้นเดินง่ายสบายดี
แต่ “ โทษที “ ขาลงยากกกกกก ลำบากลำบน
ต้นกำเนิดเกิดจากสาวนางหนึ่ง สวยสุดซึ้งสวยกว่าน้องน้ำฝน
เป็นลูกสาวเศรษฐีประจำตำบล ชราชนหนุ่มน้อยใหญ่ต่างหมายปอง
..ท่านเศรษฐีองอาจประกาศว่า อันลูกข้าหนึ่งนี้ไม่มีสอง
หากแม้นใครอยากได้ไปคุ้มครอง อย่างน้อยต้องทองล้านชั่ง?นี่(ราคา)กันเอง
..แต่ลูกสาวเศรษฐีมีคนรัก ยากจนนักจนยิ่งกว่าจะหาไหน
โอ้ชาตินี้มีกรรมหนักขอพักใจ แค้นบรรลัย ต้องลาไกลไปขุดทอง
...หายไปร่วมสามสิบปีมีทองหลาย ข่าวจากสายสมใจให้คลายหมอง
ว่าน้องนั้นยังดีอยู่ไร้คู่ครอง อยู่ไม่ได้จำรีบต้องไปจองเธอ
..บอกว่าที่พ่อตา “มาแล้วครับ” มาพร้อมกับทองตามข้อพ่อเสนอ
อยู่ที่ไหนหวานใจ I WANT TO SEE HER พ่อบอกเออ!!!อยู่ข้างในเข้าไปเลย
..แสนดีใจได้จะพบประสบหน้า ร้องถามป้า(ที่นั่งอยู่)
ป้าบอกว่าก็ตัวฉันเองนี่ยังไง จำน้องน้อยไม่ได้น้อยใจนัก
..เจ้าหนุ่มจ้องมองดูอยู่ไม่นาน แสนดีใจประมาณว่าน้ำตาไหลหนัก
หัวใจเต้นระรัว ตัวเริ่มชัก ดิ้นสักพักแล้วก็จากโลกนี้ไป
..ทองที่ขนมามากมายทำไงดี สาวจึงมีโครงการทำงานใหญ่
สร้างเป็นคานไว้นั่งฟังเพลงไทย จนหล่อนตายจึงทิ้งไว้เป็น “ชาติพลี“
...คานนี้ขึ้นไปแล้วจะติดใจอยู่ได้นาน จะเบิกบานเปี่ยมสง่าและราศรี
ไร้ปัญหาไร้บุตรธิดา (และ) ไร้สามี ของดีๆอย่างนี้ต้องแนะนำ
ปล. หากไม่ส่ง blog นี้ต่อไปให้ได้อีก 4 คน นิเวศน์นี้จะเป็นของท่าน ขอบอก ขอบอก (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)
คุณหุยครับ
นี่เป็นกวีนิพนธ์ที่รังสรรค์ขึ้นโดยแรงบันดาลใจชั้นยอดครับ มันมีพลังงงงงง..........สัมผัสได้
แต่กวีคงมีอารมณ์ขันแบบประชดตัวเองอยู่ประมาณนี้นะผมว่า....
คุณสุมิตรชัย หุยไม่ได้รังสรรค์ขึ้นมาเองหรอกค่ะ แต่มันสร้างแรงบันดาลใจได้มากเลยค่ะ
คุณRanee คะไม่ยักกะรู้ว่า เป็นลูกสาวเศรษฐีประจำตำบลไหนหรือคะ มาตั้งสาขากันดีักั่ววว
คุณ wwibul ส่งต่อไปมากกว่า 4 คนแล้ว ยังล้างอาถรรพ์ ไม่ออกเลย
พึ่งจะรู้ที่มาวันนี้เอง !!!!!!!
ทุกสิ่งล้วนมีที่มาจริงๆ