*******
</strong>ระบบประกันคุณภาพการศึกษา
เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรภายในสถาบันอุดมศึกษา
ภายใต้องค์ประกอบที่มีดัชนีชี้วัดความสำเร็จ
โดยองค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายความสำเร็จขององค์กรได้
ตามกรอบของมหาวิทยาลัย ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ระบบประกันคุณภาพ
ต้องได้รับความร่วมมือและเล็งเห็นความสำคัญ
ในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบประกันคุณภาพ
โดยเริ่มต้นจากนโยบายของผู้บริหาร
มาถึงการจัดทำแผนกลยุทธ์การประกันคุณภาพ
รวมทั้งการสร้างเครือข่ายประกันคุณภาพภายในองค์กร
ปัจจุบันการดำเนินการประกันคุณภาพเป็นการติดต่อสื่อสารรับส่งข้อมูลระหว่างสำนักประกันคุณภาพและหน่วยงานต่างๆ
ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการสนิทสนม คุ้นเคยกัน
มากกว่าที่จะเป็นการแต่งตั้งหรือทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างจริงจัง
อีกทั้งบุคลากรในบางหน่วยงานที่รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประกันคุณภาพไม่ใช่ผู้ปฏิบัติการประกันคุณภาพอย่างแท้จริง
ซึ่งส่งผลให้การประกันคุณภาพดำเนินการไม่ต่อเนื่อง ชัดเจน
หัวใจสำคัญที่จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ นั้น
จึงต้องอาศัยเครือข่ายในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร
การแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน การมีส่วนร่วมระหว่างกัน
โดยมุ่งให้เห็นประโยชน์ที่แต่ละหน่วยงานจะได้รับและสามารถนำไปใช้ได้จริง
โดยมีกลยุทธ์ในการสร้างเครือข่าย ประการแรก
ต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันและตรงกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ
และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเครือข่าย
รวมทั้งประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกัน
โดยจะเป็นรูปแบบของโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการสร้างเครือข่ายประกันคุณภาพตั้งแต่ระดับภาควิชา
ไปจนถึงระดับคณะวิชา และทุกระดับหน่วยงานภายใน
*การสร้างเครือข่าย หมายถึง
การทำให้มีการติดต่อและการสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสาร
และการร่วมมือกันด้วยความสมัครใจ
การสร้างเครือข่ายควรสนับสนุนและอำนวยความสะดวก
ให้สมาชิกในเครือข่ายมีความสัมพันธ์กันฉันท์เพื่อน
ที่ต่างก็มีความเป็นอิสระมากกว่าสร้างการคบค้าสมาคมแบบพึ่งพิง
นอกจากนี้การสร้างเครือข่ายต้องไม่ใช่การสร้างระบบการการติดต่อเผยแพร่ข่าวสารแบบทางเดียว
ดังนั้นเครือข่ายจึงไม่ใช่การส่งจดหมายข่าวไปให้สมาชิกตามรายชื่อเท่านั้น
แต่ต้องมีการแลกเปลี่ยน
ข่าวสารข้อมูลระหว่างกันด้วย (
กองส่งเสริมและพัฒนาเครือข่าย ;
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
* องค์ประกอบหลักของการเป็นเครือข่าย สามารถแบ่งได้เป็น 7
ลักษณะ คือ
Ë
การรับรู้มุมมองร่วมกัน
(Common perception)
คือ สมาชิกที่เข้ามาอยู่ในเครือข่าย
ต้องมีความรู้สึกนึกคิดและการรับรู้ร่วมกันถึงเหตุผลการเข้าร่วมเป็น
เครือข่าย
Ë การมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Common
Vision) คือ วิสัยทัศน์ร่วม
เป็นการมองเห็นภาพของจุดมุ่งหมายในอนาคตร่วมกันระหว่างสมาชิกในกลุ่ม
การรับรู้เข้าใจถึงทิศทางทิศทางเดียวกัน
และการมีเป้าหมายที่จะไปด้วยกัน
Ë
การเกิดผลประโยชน์และความสนใจร่วมกัน
( mutual interests/benefits)
คือ
การรวมเป็นเครือข่ายจึงต้องตั้งอยู่บนฐานของผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน
ซึ่งผลประโยชน์ในที่นี้ครอบคลุมทั้งผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินและผลประโยชน์ไม่ใช่ตัวเงินด้วย
อาทิเกียรติยศ ชื่อเสียง การยอมรับโอกาสในความก้าวหน้า ความสุข
ความพึงพอใจ ฯลฯ
Ë
การมีส่วนร่วมของสมาชิกเครือข่ายอย่างกว้างขวาง
( all stakehoders participation)
คือ การมีส่วนร่วมของสมาชิกในเครือข่าย
นับเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการพัฒนาความเข้มแข็ง ของเครือข่าย
เพราะกระบวนการมีส่วนร่วมทุกฝ่ายในเครือข่าย (all stakehoders in
network) ย่อมเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการร่วมรับรู้ร่วมคิด
ร่วมตัดสินใจ และร่วมลงมือกระทำอย่างเข้มแข็ง ดังนั้น
สถานะของสมาชิกในเครือข่าย จึงควรเป็นไปในลักษณะของความเท่าเทียมกัน
(equal status)
Ë การเสริมสร้างซึ่งกันและกัน (
complementary relationship) คือ
องค์ประกอบที่จะทำให้เครือข่ายดำเนินไปอย่างต่อเนื่องก็คือ
การที่สมาชิกของเครือข่ายต่างก็ต้องเสริมสร้างซึ่งกันและกันโดยที่จุดแข็งของฝ่ายหนึ่งไปช่วยแก้ไขจุดอ่อนของอีกฝ่ายหนึ่ง
ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวเป็น
เครือข่าย
Ë การพึงพิงอิงร่วมกัน (
interdependence ) คือ
สมาชิกต่างจำเป็นต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิกในเครือข่ายเพื่อให้เกิดการเสริมสร้างซึ่งกันและกัน
Ë การ ปฎิสัมพันธ์ เชิงแลกเปลี่ยน
( interaction ) คือ
สมาชิกในเครือข่ายต้องทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อให้เกิดการปฎิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกด้วยกัน
จะเป็นลักษณะความสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยนระหว่างกัน (reciprocal
exchange) มิใช่ปฎิสัมพันธ์ฝ่ายเดียว (unilateral exchange)
แหล่งอ้างอิง : (*
กองส่งเสริมและพัฒนาเครือข่าย ;
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
จากการศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยนเรศวร
พบว่ามีการสร้างระบบการสร้างเครือข่ายของมหาวิทยาลัย
โดยอยู่ในรูปแบบของการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
และทุกหน่วยงานจะมีตัวแทนของหน่วยงานเข้าร่วม
ซึ่งตัวแทนดังกล่าวจะเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการประกันคุณภาพของหน่วยงาน
โดยอยู่ในรูปแบบของโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเป็นการประชุมแบบ
Cocktail Meeting ร่วมกันประชุม ปรึกษาหารือ
รวมทั้งการแสดงความความคิดเห็นในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของแต่ละหน่วยงาน
เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขร่วมกัน และเข้าใจตรงกันในระหว่างหน่วยงาน
นอกจากนี้ที่ได้จากการศึกษาดูงานที่ศูนย์ฝึกอบรมและควบคุมระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ของมหาวิทยาลัยนเรศวร หรือเรียกว่า Center of Information Technology
Communication (Citcoms)
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดทำและดูแลข้อมูลของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการประกันคุณภาพ
พบว่า
ได้มีการนำโครงการที่ดำเนินการเรียบร้อยขึ้นบนเว็บของหน่วยงานซึ่งแยกตามปีงบประมาณ
รวมทั้งจัดเป็นฐานข้อมูลในการทำรายงานประเมินตนเอง (SAR)
ของมหาวิทยาลัย โดยจะเป็นฐานข้อมูลส่วนกลาง
และให้ทุกหน่วยงานกรอกข้อมูลเข้าไป เพื่อรวบรวมข้อมูล
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
และการแลกเปลี่ยนความรู้
ระหว่างผู้ปฏิบัติหรือเจ้าหน้าที่ด้านการประกันคุณภาพ นั้น
ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายประการที่จะส่งเสริมและสนับสนุนงานประกันคุณภาพในสถาบันอุดมศึกษาให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการประกันคุณภาพและ
ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหาร คณาจารย์
และบุคลากรสายสนับสนุน ร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาการประกันคุณภาพ
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกันคุณภาพต้องมีความรับผิดชอบ
พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน
จะส่งผลให้การประกันคุณภาพ เกิดการเจริญเติบโตเป็นกลุ่มอย่างต่อเนื่อง
และยั่งยืนขององค์กรต่อไป