การลูกเสือมีอุดมคติในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์ ก็เพื่อให้เอาเรื่อง “ส่วนรวม” มาแทน “ส่วนตัว” ต้องการให้เด็กแต่ละคนมีสมรรถภาพทั้งในทางใจและทางกายเน้นในการใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตและกิจกรรมประจำวัน การฝึกอบรมลูกเสือใช้วิธีการฝึกตามระบบหมู่เป็นเครื่องช่วยให้เด็กมีโอกาสแสดงออกเป็นส่วนรวม การให้ร่วมกันทำงานเป็นการทำให้เด็กรู้จักความรู้รับผิดชอบ
หลักสำคัญของการลูกเสือนั้นเพื่อการสร้างสรรค์ให้เยาวชนเป็นพลเมืองดี โดยมีแนวการฝึก อบรม 4 ประการ ประการแรก คือ การสร้างลักษณะนิสัย ให้เด็กเป็นผู้มีความยุติธรรม รู้จักการเสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว และมีความสำนึกในหน้าที่ที่ตนมีต่อผู้อื่น และที่สำคัญคือ เป็นผู้มีวินัยดี ชาติที่จะเจริญรุ่งเรืองได้จะต้องมีวินัยดี เราจะให้ส่วนรวมมีวินัยดี ก็โดยทำให้แต่ละบุคคลมีวินัยดีเสียก่อน มีผู้กล่าวว่า “ประเทศใดละเลยไม่ฝึกอบรมระเบียบวินัยแก่อนุชนของตน ประเทศนั้นไม่เพียงแต่จะผลิตทหารที่เลวเท่านั้น แต่ยังผลิตพลเมืองที่มีชีวิตของพลเรือนที่ชั่วร้ายอีกด้วย” ประการที่สอง คือ ด้านพลานามัย การพยายามเร่งเร้าให้เด็กสนใจในการออกกำลังกายอยู่เสมอ ในฐานะที่อยู่ในขบวนการลูกเสือ เรามีโอกาสอย่างมากที่จะฝึกอบรมเด็กในเรื่องสุขภาพและอนามัยส่วนบุคคล จะทำให้เด็กแต่ละคนรู้จักรับผิดชอบตัวเองต่อสุขภาพของตน รักษาพลานามัยของตนให้เป็นกิจวัตร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองดีที่มีสมรรถภาพ ประการที่สาม ในด้านการฝีมือและทักษะ เด็กที่มีความคิดริเริ่ม มักจะได้รับเลือกให้เข้าทำงาน ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถทำให้เด็กสนใจในเรื่องการฝีมือ ความจริงงานอดิเรกมีประโยชน์มากเพราะช่วยให้เด็กได้รู้จักใช้มือและสมอง ประการสุดท้าย คือ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น ปัจจุบันสำนักงานลูกเสือโลกเน้นในด้านการฝึกอบรม 3 ประการ คือ กำหนดการฝึกอบรมต้องทันสมัย ต่อความปรารถนาและความต้องการของเด็กในปัจจุบัน การฝึกอบรมต้องเน้นให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเด็กเองและแก่ชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ และ ที่สำคัญต้องฝึกให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของผู้ให้กำเนิดลูกเสือโลก คือ การบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น ความมุ่งหมายในการฝึกอบรมลูกเสือ ความหมายทั้งหมดของการลูกเสือ คือการนำลักษณะนิสัยของเด็กที่อยู่ในวัยอันร้อนแรงไปด้วยความกระตือรือร้นมาหลอมให้ได้รูปที่ถูกต้องแล้วจึงส่งเสริมพัฒนาเอกัตภาพ เพื่อให้เด็กศึกษาอบรม ตัวของเขาเองให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นพลเมืองที่มีคุณค่าสำหรับประเทศชาติได้ ลักษณะสำคัญหลายอย่างของการลูกเสือโดยเฉพาะวิธีการเรียนการสอน (Youth Programme) จะเป็นปัจจัยสำคัญ เหมาะสมอย่างยิ่งแก่การพัฒนาความสามารถ เป็นวิธีที่อบรมเยาวชนให้มีความรู้ ความสามารถ ความรู้สึกนึกคิดที่ดี มีทักษะและฝีมือในการทำงาน อันจะทำให้เยาวชนเหล่านั้นมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในทุกวันนี้ ก็คือ- ผู้กำกับลูกเสือ (หรือผู้สอนลูกเสือ) ไม่เข้าใจวิธีการจัดการเรียนการสอน- การเรียนการสอน ไม่ทันสมัยกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม- การจัดการเรียนการสอน ไม่มีความต่อเนื่อง ไม่สอดคล้องกับความต้องการของเยาวชน- การจัดการเรียนการสอน ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของการลูกเสือในเรื่องการพัฒนาเยาวชน- ผู้บริหารงานลูกเสือขาดทักษะ ขาดทรัพยากรที่จะเกื้อหนุนกองลูกเสือเหล่านี้เป็นต้น การจัดการเรียนการสอน (Youth Programme) การเรียนการสอนของลูกเสือ ประกอบด้วย1. สิ่งที่ลูกเสือต้องกระทำ (WHAT) นั่นก็คือ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ลูกเสือต้องปฏิบัติ เช่น การอยู่ค่ายพักแรม, กิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ, การบริการชุมชน และการพัฒนาชุมชน, การจัดมาตรฐานความเป็นอยู่, เกม, พิธีการต่าง ๆ, เครื่องหมายวิชาพิเศษ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องให้น่าสนใจ และท้าทายต่อความสามารถของเยาวชนตามอายุ2. วิธีการจัด (HOW) ใช้วิธีการจัดแบบ "ระบบการศึกษาให้ก้าวหน้าด้วยตนเอง" (A System of Progressive Self-Education) คือ- ใช้กฎและคำปฏิญาณเป็นหลักใหญ่- ให้ศึกษาโดยการกระทำด้วยตัวเอง- ใช้ระบบหมู่ หรือระบบกลุ่มเล็ก- การศึกษาให้มีความก้าวหน้าและดึงดูดใจ3. เวลา (WHEN) ในการจัดเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน เช่น ไม่ใช่เป็นเวลาใกล้สอบ ไม่อยู่ในระยะเวลาที่ดิน ฟ้า อากาศ ไม่อำนวย ฯลฯ4. เหตุผลในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ (WHY) ขึ้นอยู่กับความสำคัญของกิจการลูกเสือ นั่นคือ คำนึงถึง- หน้าที่ที่มีต่อสิ่งสูงสุด (Duty To God) เช่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์- หน้าที่ที่มีต่อบุคคลอื่น (Duty To Others)- หน้าที่ที่มีต่อตัวเอง (Duty To Self)ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาเยาวชนไปสู่ความสำเร็จในวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ในเรื่องการพัฒนาเยาวชน (ตามมาตรา 7 ในพระราชบัญญัติลูกเสือแห่งชาติ) และความสำเร็จ ดังกล่าวจะเป็นไปได้นั้น จะต้องเป็นการจัดโปรแกรมการสอนที่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับ1. ตรงตามความต้องการของเยาวชน เด็ก ๆ มีความเจริญเติบโตตามอายุโปรแกรมการสอนต้องแตกต่างกันออกไปตามอายุเช่นกัน เด็กและผู้ใหญ่มีช่องว่างทางอายุแตกต่างกัน ฉะนั้น ผู้ใหญ่อย่าตามใจตนเอง จัดกิจกรรมตามความต้องการของผู้ใหญ่เอง เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในระบบของการ ลูกเสือ2. ให้เป็นไปตามความต้องการของสังคม ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของแต่ละท้องถิ่นเป็นสำคัญ จะใช้กิจกรรมอะไร การบริการชนิดใดก็ให้เหมาะกับสังคมนั้น ลูกเสือจะต้องเปิดใจกว้าง สามารถเข้าใจความต้องการของผู้อื่น และตอบสนองช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา3. การฝึกอบรมต้องให้ก้าวหน้าและดึงดูดใจ กิจกรรมต้องสนองความสามารถและการท้าทายของเด็กเอง ยั่วยุให้เขาได้แสดงความสามารถด้วยตัวของเขาเอง ให้มีการร่าเริงและสนุกสนาน4. การนำไปใช้ต้องให้ถูกต้องตามวิธีการของลูกเสือ คุณค่าของการลูกเสืออยู่ที่กฎและคำปฏิญาณเท่ากับเป็น "กฎของการเล่น" ทีเดียว การเรียนการสอนของลูกเสือ เราไม่ใช้ในห้องเรียน ไม่ใช้ชอล์ค ไม่ใช้กระดาน แต่จะใช้กลางแจ้งเป็นสำคัญ เรียกว่าใช้วิธี "Practical Way" โดยฝึกผ่าน กิจกรรม การเล่น-การอยู่ค่ายพักแรม-การทำงานตามโครงการ เรียนด้วยการกระทำและอยู่ในหมู่ เล็ก ๆ 5. ได้รับการสนับสนุนพอเพียง จากบุคลากร- เงิน- ทรัพยากรอื่น ในปัจจุบัน สำนักงานลูกเสือโลกได้แนะนำให้ใช้วิธีการจัดระบบ การเรียนการสอนเพื่อให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยใช้กฎ และคำปฏิญาณเป็นแกนกลาง และมีส่วนประกอบที่แตกออกไปการลูกเสือมีอุดมคติในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์ ก็เพื่อให้เอาเรื่อง “ส่วนรวม” มาแทน “ส่วนตัว” ต้องการให้เด็กแต่ละคนมีสมรรถภาพทั้งในทางใจและทางกายเน้นในการใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตและกิจกรรมประจำวัน การฝึกอบรมลูกเสือใช้วิธีการฝึกตามระบบหมู่เป็นเครื่องช่วยให้เด็กมีโอกาสแสดงออกเป็นส่วนรวม การให้ร่วมกันทำงานเป็นการทำให้เด็กรู้จักความรู้รับผิดชอบ
หลักสำคัญของการลูกเสือนั้นเพื่อการสร้างสรรค์ให้เยาวชนเป็นพลเมืองดี โดยมีแนวการฝึก อบรม 4 ประการ ประการแรก คือ การสร้างลักษณะนิสัย ให้เด็กเป็นผู้มีความยุติธรรม รู้จักการเสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว และมีความสำนึกในหน้าที่ที่ตนมีต่อผู้อื่น และที่สำคัญคือ เป็นผู้มีวินัยดี ชาติที่จะเจริญรุ่งเรืองได้จะต้องมีวินัยดี เราจะให้ส่วนรวมมีวินัยดี ก็โดยทำให้แต่ละบุคคลมีวินัยดีเสียก่อน มีผู้กล่าวว่า “ประเทศใดละเลยไม่ฝึกอบรมระเบียบวินัยแก่อนุชนของตน ประเทศนั้นไม่เพียงแต่จะผลิตทหารที่เลวเท่านั้น แต่ยังผลิตพลเมืองที่มีชีวิตของพลเรือนที่ชั่วร้ายอีกด้วย” ประการที่สอง คือ ด้านพลานามัย การพยายามเร่งเร้าให้เด็กสนใจในการออกกำลังกายอยู่เสมอ ในฐานะที่อยู่ในขบวนการลูกเสือ เรามีโอกาสอย่างมากที่จะฝึกอบรมเด็กในเรื่องสุขภาพและอนามัยส่วนบุคคล จะทำให้เด็กแต่ละคนรู้จักรับผิดชอบตัวเองต่อสุขภาพของตน รักษาพลานามัยของตนให้เป็นกิจวัตร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองดีที่มีสมรรถภาพ ประการที่สาม ในด้านการฝีมือและทักษะ เด็กที่มีความคิดริเริ่ม มักจะได้รับเลือกให้เข้าทำงาน ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถทำให้เด็กสนใจในเรื่องการฝีมือ ความจริงงานอดิเรกมีประโยชน์มากเพราะช่วยให้เด็กได้รู้จักใช้มือและสมอง ประการสุดท้าย คือ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น ปัจจุบันสำนักงานลูกเสือโลกเน้นในด้านการฝึกอบรม 3 ประการ คือ กำหนดการฝึกอบรมต้องทันสมัย ต่อความปรารถนาและความต้องการของเด็กในปัจจุบัน การฝึกอบรมต้องเน้นให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเด็กเองและแก่ชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ และ ที่สำคัญต้องฝึกให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของผู้ให้กำเนิดลูกเสือโลก คือ การบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น ความมุ่งหมายในการฝึกอบรมลูกเสือ ความหมายทั้งหมดของการลูกเสือ คือการนำลักษณะนิสัยของเด็กที่อยู่ในวัยอันร้อนแรงไปด้วยความกระตือรือร้นมาหลอมให้ได้รูปที่ถูกต้องแล้วจึงส่งเสริมพัฒนาเอกัตภาพ เพื่อให้เด็กศึกษาอบรม ตัวของเขาเองให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นพลเมืองที่มีคุณค่าสำหรับประเทศชาติได้ ลักษณะสำคัญหลายอย่างของการลูกเสือโดยเฉพาะวิธีการเรียนการสอน (Youth Programme) จะเป็นปัจจัยสำคัญ เหมาะสมอย่างยิ่งแก่การพัฒนาความสามารถ เป็นวิธีที่อบรมเยาวชนให้มีความรู้ ความสามารถ ความรู้สึกนึกคิดที่ดี มีทักษะและฝีมือในการทำงาน อันจะทำให้เยาวชนเหล่านั้นมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในทุกวันนี้ ก็คือ- ผู้กำกับลูกเสือ (หรือผู้สอนลูกเสือ) ไม่เข้าใจวิธีการจัดการเรียนการสอน- การเรียนการสอน ไม่ทันสมัยกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม- การจัดการเรียนการสอน ไม่มีความต่อเนื่อง ไม่สอดคล้องกับความต้องการของเยาวชน-ชื่นชม ในการเผยแพร่ผลงานค่ะ ทำต่อเนื่องนะคะ ชาว km สพท.ปท.2
อ่านแล้วเข้าใจง่าย