แนวคิดของ Nonaka เป็นการนำการจัดการความรู้มาเป็นเครื่องมือในการรวบรวมความรู้ขององค์กรให้คงอยู่คู่กับองค์กรตลอดไป เริ่มจากการสร้างความตระหนัก (awareness) ตามมาด้วยขั้นตอนการดำเนินการการสร้างความรู้ (knowledge creation) การบำรุงรักษาความรู้ ( knowledge maintenance) และการนำความรู้นั้นไปใช้ (knowledge exploitation) สู่ขั้นตอนที่ทุกหน่วยงานย่อยสามารถดำเนินการจัดการความรู้ด้วยตนเองได้อย่างอัตโนมัติ ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Sharing ideas) จนทำให้เกิดวิถีใหม่เชิงนวัตกรรมในการดำรงอยู่ภายใต้สภาวะของการแข่งขัน (Competition) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ (Learning) การสร้างนวัตกรรม (Innovating) และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานเพื่อเพิ่มคุณภาพและปรับปรุงการทำงานของบุคลากรในองค์กร เกิดการพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง (Continuous improvement)
นั่นคือ บุคลากรในองค์กรพัฒนาสู่การเป็น ทุนมนุษย์ที่มีคุณค่ายิ่งขององค์กรที่เรียกว่า Knowledge worker ที่ช่วยสร้างสรรค์คุณค่าขององค์กร โดยคุณค่าถูกสกัดออกมา เป็นคลังทางปัญญา และสินทรัพย์ความรู้ (knowledge asset) กลายเป็นคลังที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลทางธุรกิจขององค์กรที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและส่งผลสู่ความสำเร็จและรายได้ขององค์กร
..................
คนึงนิจ อนุโรจน์
ขอความรู้หน่อยนะคะ ว่าการสร้างการตระหนัก สามารถสร้างได้อย่างไร มีวิธีอย่างไร และวัดผลได้อย่างไรบ้างคะ
ขอบคุณคุณอัญชลีค่ะ ดิฉันขอ share ประเด็นที่คุณสนใจดังนี้นะคะ
..........ตำราด้านการจัดการมักเอ่ยถึงวิธีการจัดการแบบ "บนลงล่าง" (top-down) กับแบบ "ล่างขึ้นบน" (bottom-up) แต่โนนากะ ( Nonaka) แนะนำว่ารูปแบบของการจัดการองค์กรที่เหมาะสมต่อการจัดการความรู้คือแบบ "กลาง-ขึ้น-ลง" (middle-up-down) ซึ่งเน้นการใช้พนักงานหรือผู้บริหารระดับกลางเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อน โดยที่พนักงานระดับกลางจะเป็นผู้เชื่อมโยงวิสัยทัศน์หรือความฝันของผู้บริหารระดับสูง เข้ากับความเป็นจริงหรือการปฏิบัติของพนักงานระดับล่าง ซึ่งขัดแย้งกับตำราบริหารของโลกตะวันตก มักกล่าวว่าผู้บริหารระดับกลางเป็นพนักงานกลุ่มที่เรียกว่า "เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์" แต่ Nonaka เชื่อในทางตรงกันข้าม คือในยุคของการจัดการความรู้ ผู้บริหารระดับกลางจะเป็นกำลังหลักในการเชื่อมโยงให้เกิดการจัดการความรู้ที่ทรงพลัง และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร.....
Hidden agenda ของข้อความข้างต้นคือ
........การมีส่วนร่วมค่ะ การสร้างตระหนักในการพัฒนาไมว่าการพัฒนาในเรื่องใดก็ตาม การนำผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมมากเท่าใด โอกาสความสำเร็จก็จะสูงตามขึ้นไปด้วย แต่เป็นไปไม่ได้ที่องค์กรขนาดใหญ่จะนำบุคลากรทั้งหมดเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาองค์กร แต่การนำผู้บริหารระดับกลางเข้ามามีส่วนร่วมไม่ใช่เรื่องยาก (คนกลุ่มนี้จะเป็นตัวแทนของเราไปสร้างการมีส่วนร่วมในระดับปฏิบัติการต่อไป) การสร้างความตระหนักรู้ต้องเริ่มจาก การให้ข้อมูลที่เป็นจริงขององค์กร (นำเขาเข้ามาร่วมSWOT องค์กร) ทุกคนต้องร่วมรับรู้ปัญหาขององค์กร ทุกคนร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน (ร่วมสร้างแผนยุทธศาสตร์:Strategic partner) ร่วมกันหาว่าตัวชี้วัดสู่ความสำเร็จร่วมกัน (Key performance indicatr:KPI) เราจะทำอย่างไร และติดตามประเมินอย่างไร การมีส่วนร่วมเป็นการนำเขาเข้ามาส่วนหนึ่งขององค์กร สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กร และร่วมกันที่จะนำพาองค์กรสู่เป้าหมายร่วมกัน นั่นคือต้องรวมใจคนขององค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ (engagement) ณ จุดนี้เรื่องของการสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเช่นกัน การสื่อสารที่ดีต้องการสื่อสารแบบสองทาง (2 way communication) เป็นอีก 1 ใน hidden agenda ค่ะ ที่สำคัญที่สุดเลยนะคะ (ที่สุดจริงๆ) ผู้บริหารต้องเล่นด้วยค่ะ ทุกอย่างที่เราจะทำถ้าผู้บริหารระดับสูงไม่เห็นด้วยโอกาสสำเร็จมีน้อยค่ะ
ที่ดิฉันนำเสนอแนวคิดนี้เป็นหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้ร่วมกันในองค์
ในการวัดความตระหนักรู้นั้น สามารถวัได้ทั้งในส่วนของ output และ outcome
output ดูได้จากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาขององค์กร หรือโครงการต่าง ๆ ที่เกิดจากแนวคิดของสมาชิกในองค์กร ถ้าเป็นเรื่องของ KM ก็อาจเป็นจำนวน CoP ที่มีการจัดตั้งขึ้นในองค์กร จำนวนความรู้ในองค์กรที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น
ส่วน outcome ดูได้จากผลสัมฤทธิ์ขององค์กร เช่น การพัฒนา product/process/service จากการทำกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ที่มีการจัดทำขึ้น ที่ส่งผลต่อ KPI ขององค์กร เช่น ง่ายๆ คือไม่มีความผิดพลาดในชิ้นงานที่ทำ ส่งผลให้ต้นทุนองค์กรลดลง กำไรเพิ่มขึ้น ลูกค้าพึงพอใจ ค่ะ
นับเป็นความท้าทายของนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ต้องแสดงบทบาทของตนให้ชัดเจนค่ะ
ดิฉันมีFile แนะนำเพิ่มเติมค่ะ
http://gotoknow.org/file/anuroj48/view/119239
ขอข้อเสนอแนะเพิ่มเติมด้วยนะคะ