โชคดีที่ได้เจอหนังสือ "ปิ๊งแว๊บ" ของ Osho ที่แปลโดย ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด อ่านแล้วเกิดอาการ ตื่น ตื่นตัว ตื่นใจ ตื่นจริงๆ (ไม่หลับไม่นอน) ประมวลความแบบที่เราเข้าใจ (เอาเอง) ได้ว่า
"หนังสือที่มีหัวใจ ผู้แต่ง ผู้แปล ทำให้ผู้อ่านแล้วรู้สึกว่าเรา อ่านแล้วได้กำไร ได้ความรู้สึก "เจริญใจ" ถ้าคนเราชอบอ่านหนังสือแบบนี้กันมากๆ กว่าหนังสือการ์ตูน หนังสือยั่วยันกวน!! อารมณ์ ก็ดีซินะ"
คน (มนุษย์) กับ สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นจะมี ญาณ ระดับเดียวกัน คือ "สัญชาตญาน" (ประเภทความเอาตัวรอด หิว เจ็บ ร้อน หนาว สู้ หนี กลัว กลุ่มฯ )
แต่สิ่งที่คน (มนุษย์) พัฒนาได้เพิ่มขึ้น (ถ้าต้องการ) ก็ตรง "การศึกษา ในหนังสือ ให้ระดับการรู้จากการศึกษา อยู่ใน "ปรีชาญาน" (ประเภทความรู้ที่ได้จาก ท่อง จำ ทำ ดู รู้ เห็น เป็น ชอบ ไม่ชอบ เกลียด รัก ฯ)
และหากเราสามารถตกตะกอนเจ้า สัญชาตญาน กับ ปรีชาญาน ได้โดยอาศัยช่องทาง "สมาธิ" (ประเภท จิตที่นิ่ง สงบ ลุ่มลึก ตื่นรู้เท่าทันทุกจิต รู้ทั่วในตัวตนเอง) แค่เสี้ยวนาที เราก็จะเกิดอาการ "ปิ๊งแว๊บ" หรือ "ปัญญาญาน" ซึ่งนับเป็น ความรู้"แจ้ง" ความรู้ "จริง" สะอาด บริสุทธิ์ ไม่ยึดติด ไม่สงสัย ไม่กังวล กับความรู้นั้นอีกแล้ว
วันนี้ทดลองทำดู ก็พอรู้สึกได้อยู่บ้างค่ะ คงต้องทดลองฝึกบ่อยๆ ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง วิธีที่ทำก็ง่ายๆ คล้ายกับ การ deep listening หน่ะค่ะ ฟังเสียงความสงบ ฟังเสียงลม ฟังเสียงนก ฟังเสียงหัวใจตัวเองเต้นตุบๆ เออดี ยังเต้นอยู่นะ ถ้าใจเรามันเต้นแรงก็เตือนๆว่าอย่าเต้นแรง เดี๊ยวเหนื่อย อิอิ
เวลาทำงานมาก สมองเริ่มเมื่อยๆ บวมๆ เราก็แอบออกจากห้องทำงาน มานั่งมองออกไปไกลๆ ไม่กำหนดจุดหมาย ไม่คิดอะไร ดูซิว่าใจเรามันกำลังคิดอะไร ร่างกายหัวจรดเท้า อยู่ตรงไหน อย่างไร แบบ "ให้จิตคอยเฝ้าดูตัวเอง"
ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้คือ ไม่ได้นอนมาตั้งแต่เมื่อวานตอน 7.00 น. ถึงตอนนี้ก็เกือบ 35 ชั่วโมงแล้ว ยังประหลาดใจกับว่าทำไมเรายัง "ตื่น" อยู่ได้ ไม่รู้พรุ่งนี้จะน็อกหรือเปล่า แต่ก็ยังไม่ง่วงจริงๆ นะคะ คงต้องอ่านเรื่อง "Manturity The Responsibility of Being Oneself" ต่อแล้วค่ะ เดี๊ยวถ้าเกิดง่วงแล้วจะอดอ่าน เสียดายแย่
ปิ๊งแว๊บ
สุดยอดจริงๆครับ อ่านได้ยังไงตั้ง ๓๕ ชั่วโมง
ในชีวิตของผมนี้ ยังไม่เคยเลยสักครั้งกับความรู้สึก "ปิ๊งแว๊บ" เพราะสมาธิกระเจิงบ่อยครับ