labschool project in THAILAND
โรงเรียนในโครงการ หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน
1. การนำ ICT มาพัฒนาโรงเรียนในโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน
ทุกวันนี้ท่านคงทราบดีว่าเราตกอยู่ในสภาวะถูกกระแสของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการบริหารประเทศเลือกทิศทาง “เปิดเสรี” และต้องสมาคมกับประชาคมโลก ด้วยกติกาสากลต่าง ๆ ที่ร่วมกันกำหนดขึ้น
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและรวดเร็วที่สุดในยุคนี้ คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งเข้าไปอยู่ในเครื่องมืออำนวยความสะดวกเกือบทุกอย่าง และที่สำคัญคือการสื่อสาร (Communication)
การบริหารจัดการในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันกันสูงมาก การบริหารจัดการ และการตัดสินใจที่ดี คือ การบริหารจัดการและการตัดสินใจที่มี Information ที่ถูกต้องและเพียงพอ ใครมี Information ที่ดีมากกว่า ย่อมได้เปรียบต่อการตัดสินใจ และตัดสินใจได้ไม่ผิดพลาด หรือ ผิดพลาดน้อยที่สุด
ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีการพัฒนากระบวนการต่าง ๆ ให้ได้มาซึ่ง Information มากมายและมีประสิทธิภาพสูง กระบวนการซึ่งจะได้มาซึ่ง Information จะประกอบด้วยกระบวนการหลัก ๆ ดังนี้ คือ
· การสร้างระบบข้อมูล
· การวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูล
· การเรียกใช้ข้อมูลและสารสนเทศ
กระบวนการเหล่านี้ คือ กระบวนการ Information and Communication Technology หรือ ICT นั่นเอง
เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันที่นำมาใช้ในกระบวนการนี้ คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารด้วยระบบ Internet ดังนั้น คนในยุคใหม่ที่จะอยู่ในสังคมโลกเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างกลมกลืน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทักษะพื้นฐานที่เพียงพอในด้าน ICT
จะเริ่มต้นที่ไหน เมื่อไร
การเริ่มต้นพัฒนาคนในเวลาที่เหมาะสม ควรจะเริ่มต้นในวัยเรียน จริงอยู่การเรียนรู้สามารถจะเรียนได้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นอีกคุณสมบัติหนึ่ง ที่จะต้องสร้างให้เกิดขึ้น แต่ในขณะอยู่ในวัยเรียน โรงเรียนจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้แก่นักเรียน ให้มีทักษะพื้นฐานเพียงพอที่จะเรียนรู้ พัฒนาความรู้ และ ทักษะได้ด้วยตนเอง
ใครจะช่วยนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ในด้านนี้ได้ คงหนีไม้พ้นความรับผิดชอบของผู้ที่จะต้องดำเนินการโดยตรง คือ ผู้บริหารโรงเรียน และ ครู อาจารย์ ทุกท่าน
ถ้าผู้บริหารและครู อาจารย์ ยังไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ และไม่พยายามศึกษา ไม่เรียนรู้ นักเรียนคงจะพลาดโอกาสที่เหมาะสมไป
2. โครงการ ๑ อำเภอ ๑ โรงเรียนในฝัน ฝันไว้อย่างไร?
ต้องเข้าใจก่อนว่าโรงเรียนในฝันไม่ใช่การคิดฝันไปเอง แต่เป็นความฝัน ความมุ่งหวัง แบบมี Vision ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้แสดงถึงความตั้งใจของรัฐบาล ได้ประกาศเจตนารมณ์ และความมุ่งมั่นจะพัฒนาโรงเรียนทุกโรงให้มีคุณภาพ
“เป็นโรงเรียนชั้นดีที่เป็นต้นแบบของบูรณาการการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งรวมทั้งการบริหารจัดการ และการให้ประชาคมมีส่วนร่วมในการปรับปรุง พัฒนาหลักสูตร มีส่วนร่วมในการบูรณาการ จัดกระบวนการเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบอยู่ในโรงเรียนทุกโรงเรียน”
โรงเรียนในฝันจะต้องมีผู้บริหารที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง เปิดใจกว้าง รับแนวคิดในมิติของการร่วมพัฒนาจากทุกฝ่ายที่ศรัทธาและปรารถนาที่จะร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษาอย่างจริงจัง ส่วนครูต้องได้รับการพัฒนาเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติจากการเรียนการสอนแบบเดิมไปสู่รูปแบบใหม่ ครูต้องมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู ครูต้องเปิดใจกว้างให้เด็กมีความอบอุ่น กล้าคิด กล้าพูด และต้องเอาใจใส่ สอดส่องดูแลช่วยเหลือเด็กอย่างใกล้ชิดตลอดจนเรียนรู้ร่วมกันกับนักเรียน
โรงเรียนในฝันจึงเป็นเสมือนโรงเรียนต้นแบบที่หลายหน่วยงานจะมาช่วยกันคิด ช่วยกันศึกษา ช่วยกันพัฒนา จึงตั้งชื่อว่า “Lab School” ไม่ใช่ Dream School หรือ Ideal School ตามที่หลายท่านพยายามแปลความ
โรงเรียนในฝัน เป็นเจตนารมณ์ที่รัฐบาลจะทำให้เป็นโรงเรียนชั้นดีที่เกิดขึ้นและมีอยู่อย่างน้อย อำเภอละหนึ่งโรงเรียน โรงเรียนนี้ในขั้นสุดท้าย หรือ ขั้นผลผลิต นักเรียนที่จบจากโรงเรียนแล้ว จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้อย่างชัดเจน
1. เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ (นิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรียนตลอดชีวิต) และมีทักษะกระบวนการเรียน (รู้วิธีเรียน)
2. เป็นผู้ที่มีทักษะกระบวนการคิด หรือ คิดเป็น มีระบบ คิด วิเคราะห์สังเคราะห์สร้างองค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง (เรียนเป็น)
3. เป็นผู้ที่มีทักษะการดำรงชีวิตในสังคมยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อการเรียนรู้ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ
4. มีความเป็นไทยด้วยความภาคภูมิใจ
อาจจะสรุปสั้น ๆ ได้ว่า
เป็นบุคคลที่ ใฝ่รู้ เรียนเป็น มีความคิด ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด มีความสุข และ มีความเป็นไทยที่สง่างามในเวทีโลก
นอกจากนี้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้เสนอความคิด ซึ่งท่านเชื่อว่า “ผู้ที่มีการศึกษา มีความคิด มีปัญญา จะสามารถหนีพ้น ความยากจนได้ “
เพื่อพุ่งเป้าไปสู่การพัฒนาโรงเรียนเหล่านี้ ทางคณะทำงานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงตั้ง ปณิธาน เพื่อเป็นเป้าหมายการพัฒนา เพื่อให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม ช่วยกันกำหนดทิศทางการพัฒนาและภาพความสำเร็จไว้ว่า โครงการนี้จะเป็นโครงการที่
“พลิกระบบการศึกษา”
“หยุดวงจรความยากจน”
พลิกระบบการศึกษา จึงเป็นโจทย์เริ่มต้นว่าจะพลิกอย่างไร เพื่อที่จะให้คนรุ่นใหม่มีคุณสมบัติได้ตามที่คาดหวังที่กล่าวมาแล้ว เพื่อเขาจะได้หลุดพ้นจาก วงจรความยากจน ได้ในอนาคต
ภาพความสำเร็จ:
โครงการได้วางแผนที่กลยุทธ์โดยใช้หลักการวางแผนแบบสมดุล (ฺBalanced Scorecard) กำหนดผลผลิตของโรงเรียนในฝันครบทุกด้าน คือ นักเรียน กระบวนการจัดการศึกษาในโรงเรียน การเรียนรู้และการพัฒนา งบประมาณและทรัพยากร
1 นักเรียน
· มีนิสัยใฝ่รู้
· รักการอ่านและการค้นคว้า
· สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
· เป็นคนดีมีคุณธรรม
· รู้จักคิดวิเคราะห์
· มีทักษะการดำรงชีวิตในสังคมยุคใหม่
· ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ สร้างงานสร้างอาชีพ
· สามารถนำเสนอผลงานได้อย่างสร้างสรรค์
· สืบสานวิถีวัฒนธรรมไทยอย่างมั่นใจในตนเอง
2 ครู
· มีทักษะวิชาชีพในการพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมาะสมกับนักเรียน
· มีความกระตือรือร้น สนใจ ใส่ใจ ดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองตามศักยภาพอย่างเต็มกำลังความสามารถ
3 ผู้บริหาร
· เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงให้โรงเรียนมีการบริหารจัดการที่ดี
· มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาวิชาการ หลักสูตร นวัตกรรมและกระบวนการเรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียนโดยอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
4 โรงเรียน
· เป็นโรงเรียนชั้นดี มีคุณภาพ
· มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ปลอดภัยเอื้อต่อการเรียนรู้
· มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นเป็นต้นแบบของการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง ซึ่งเกิดจากการร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ ร่วมพัฒนา ร่วมสนับสนุนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาสังคม
5 ผู้ปกครองและชุมชน
· ให้การยอมรับ เชื่อถือ
· มีความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของและสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียน
3. ICT มีบทบาทสำคัญอย่างไร ในกระบวนพลิกระบบ
การศึกษา
จากโจทย์
1. เราจะหยุดความยากจน ด้วยการสร้างปัญญาให้แก่คนไทย
ในอนาคต
2. เราจะทำให้คนไทยมีความสง่างามในเวทีโลก (วิถีไทยในวิถีโลก)
3. เราจะสร้างให้เด็กไทยเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และ เรียนเป็น ฯลฯ
· ต้องปฏิรูปการเรียนรู้ ต้องจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาปัญญา ไม่ใช่การเรียนรู้ เพื่อจำข้อมูล การจำ มีความจำเป็นในส่วนที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ส่วน ข้อมูล ควรจะอยู่ใน แหล่งเรียนรู้ ใด ๆ และสามารถเรียกใช้ได้ทันท่วงทีเมื่อจำเป็น
· ขยายขีดความสามารถในการเรียนรู้ หรือสามารถเสาะแสวงหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ทักษะทางภาษาทั้งภาษาไทย ภาษาสากล และ ทักษะทางด้าน ICT จึงเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการขยายขีดความสามารถในการเรียนรู้
4. ICT จะเข้าไปมีบทบาทส่วนไหน กับ โรงเรียนในฝัน
ICT เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงในยุคปัจจุบัน มีความเหมาะสมที่จะนำมาเป็น “เครื่องมือ” ที่สำคัญ ถ้าพิจารณาถึงบทบาทหน้าที่ในโรงเรียน อาจจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่การบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอน
การนำ ICT มาใช้เพื่อการบริหารจัดการ หมายถึงการนำมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบบริหาร เช่น
- ทำงานได้เร็วขึ้น ลดเวลาทำงานให้น้อยลง
- ทำงานได้งานเพิ่มขึ้น ใช้คนน้อยลง
- คุณภาพงานดีขึ้น
การนำ ICT มาใช้เพื่อการเรียนการสอน หมายถึง การนำมาเป็นเครื่องมือสำหรับครูและนักเรียน เช่น
- สร้างสื่อการเรียนการสอนต่าง ๆ ของครู
- การนำมาฝึกทักษะพื้นฐานให้แก่นักเรียนเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับวิชาคอมพิวเตอร์ให้มีทักษะเพียงพอ
- ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้วิชาอื่น ๆ
- ใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้เสมือนห้องสมุดที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ทั่วโลก
สรุปว่า มีการใช้ ICT เป็นเครื่องมือในการทำงาน และเพื่อการเรียนรู้ จนเป็นวิถีชีวิตประจำวัน ทั้งครูและนักเรียน
5. ถ้าจะให้ ICT เข้ามามีบทบาทดังหัวข้อที่กล่าวมามีเงื่อนไขใดบ้าง ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จเป็นไปตามที่คาดหวังไว้
สวัสดีค่ะ ท่าน ดร.อภิชาติ
โรงเรียนดิฉันเข้าโครงการโรงเรียนในฝัน รุ่นที่ 2 โรงเรียนดีใกล้บ้าน ยอมรับค่ะว่าการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวสามารถกระตุ้นโรงเรียนให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ได้มาก การดำเนินงานของโรงเรียนชุมชนคำตานาหนองกุง (จ.อุดรธานี) การพัฒนาเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป สักวันหนึ่งคงไดรับการนิเทศจากท่านในการพัฒนาโรงเรียนในฝันค่ะ
ยินดีต้อนรับเจ้านาย...สู่ชุมชนนักจัดการความรู้ สพฐ. จ้ะ ... ว่าง ๆ แวะเยี่ยมชมที่ http://gotoknow.org/planet/kmobec